บทที่4 พวกเขาถือเป็นสามีภรรยากันเหรอ   1/    
已经是第一章了
บทที่4 พวกเขาถือเป็นสามีภรรยากันเหรอ
บ๗ที่4 พวกเขาถือเป็นสามีภรรยากันเหรอ มองดูแผ่นหลังของ ลู่อ้ายฉีภาพที่ปรากฏในสายตาของ หลินเซี่นงเชิน นั้น ไม่รู้ว่าเป็นภาพเช่นไร อย่าเข้าใจผิดว่า หลินเซี่นงเชิน ไม่รู้ว่าใจของยายเด็กนั้นคิดอะไร เป็นเพราะได้เห็น ซือถูเซ็น อยู่กับคนอื่น เธอถึงได้เปลี่ยนเป็นหงอยเหงาเศร้าสร้อย ผู้หญิงของเขากล้าเสียใจเพื่อผู้ชายคนอื่น อยากตายรึไง บรรยากาศเมื่อชายหนุ่มทั้งสองสบตากัน ความหมายในแววตานั้น มีเพียงพวกเขาที่เข้าใจอย่างชัดแจ้ง ลู่อ้ายฉีกลับถึงห้องพักเธอนำกระเป๋ามาวางไว้บนเตียง ความเศร้าในใจก็พรั่งพรูออกมา เธอโง่มากพอที่จะขอความเห็นใจจาก หลินเซี่นงเชิน ! ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขามีแต่ความโหดร้ายให้เธอ แล้วจะมาสนใจว่าเธอจะสบายหรือไม่สบายได้อย่างไร? ขอแค่เขาพอใจ ต่อให้ถึงเวลาเธอไข้ขึ้นสูงใกล้ตาย เขาก็ลากเธอขึ้นมาได้ ไม่รู้จริง ๆ ว่า พวกเขาเป็นสามีภรรยาแบบไหนกัน เธอค่อย ๆ ใจเย็นลง ลู่อ้ายฉีคิดไม่ถึงว่าการเจอกันอีกครั้งจะเป็นการเจอกันในสถานการณ์เช่นนี้ ตอนนี้ ลู่อ้ายฉีอยากให้งานประจำปี ปีนี้จบไว ๆ เธอจะได้กลับไปใช้ชีวิตที่ดีเพียงลำพังที่สหรัฐฯ ถึงแม้จะเหงาบ้าง แต่ก็ดีกว่าอยู่ที่นี่มากนัก หยิบชุดราตรีที่วางไว้บนเตียง เป็นชุดที่ราตรีสีดำที่ หลินเซี่นงเชิน เตรียมไว้ให้เธอ ลู่อ้ายฉีสวมได้พอเหมาะราวกับเป็นชุดสั่งตัด เพียงแต่ผิดหวังมามาก ลู่อ้ายฉีไม่ได้คาดหวังอะไร ผู้ชายคนนั้นไม่ได้หวังดีอะไร “ติ๊งต่อง...” เมื่อเปิดประตูห้อง ก็เห็นชายหนุ่มยืนอยู่หน้าประตู สวมชุดสีดำ ค่ำนี้เขาไม่สวมเนกไท กลับดูสง่างาม ทำให้ ลู่อ้ายฉีไม่อาจละสายตา แต่เคลิบเคลิ้มได้เพียงชั่วครู่ “เสร็จรึยัง?” “ใกล้แล้วค่ะ”หญิงสาวตอบอย่างเรียบเฉย ชายหนุ่มตามเข้าไปในห้อง มองดูหญิงสาวที่สวมสร้อยอยู่หน้ากระจก ผมยาวสลวยดกดำ เผยให้เห็นต้นคอชูระหงไม่ชัดเจน แท้จริงแล้ว เขาชอบเธอไว้ผมยาวแบบนี้ หลินเซี่นงเชิน อดไม่ได้ที่เขยิบใกล้ไปข้างหน้า เขายื่นมือไปที่เอวเล็กคอดของเธอ ซบลงที่ลำคอของเธอ เรียกเธออย่างสนิทชิดเชื้อ “ที่รัก” ชายหนุ่มหยุดนิ่งที่เอวของเธอ มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายตามอำเภอใจ แสดงเจตจำนงความหิวกระหายของเจ้าตัว ลู่อ้ายฉีแข็งทื่อไปทั่วกาย รีบปัดป้องมือใหญ่คู่นั้นของเขา เพียงแค่คิดว่าผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วนที่เคยอยู่ในอ้อมกอดของเขา ในใจส่วนลึกของเธอขัดขืน พูดไปอย่างนิ่งเฉย “งานเลี้ยงจะเริ่มแล้ว พวกเราไปกันเถอะค่ะ” คำปฏิเสธของหญิงสาวทำให้ หลินเซี่นงเชิน รู้สึกเสียหน้า เขาหยุดและชักมือของตนเองออก พร้อมทั้งพูดจาเย้ยหยัน “ใช่สิ ในงานมีผู้หญิงตั้งมากมาย คุณก็เป็นได้แค่ตัวละครหน้าฉากเท่านั้นแหละ” “เรื่องนี้ฉันรู้ดีเลยล่ะ”ลู่อ้ายฉียิ้มพร้อมคล้องแขนชายหนุ่ม หากว่าจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้แล้วยังไงล่ะ เธอไม่มีคนให้ระบายด้วย และไม่สามารถร้องไห้ได้ ทำได้เพียงยิ้มอย่างมีความสุข การปรากฏตัวของพวกเขาเป็นจุดสนใจของาน อันที่จริงแล้ว ลู่อ้ายฉีกับ หลินเซี่นงเชิน ถือเป็นคู่ที่เหมาะสม ผู้หญิงสวมชุดราตรีสีขาวเดินตรงเข้ามาจากหน้างาน ได้เห็นเธอ ลู่อ้ายฉีอดกลั้นไว้ไม่ไหวต้องตกตะลึง ตื่นตระหนกตกใจไปทั่วร่าง เธอดึงรั้งชายหนุ่มข้างกายจากจิตใต้สำนึก ในใจของ ลู่อ้ายฉีไม่ต้องการให้เขาไป แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือ ให้เขาไปหาผู้หญิงคนนั้นได้อย่างง่ายดาย “ยิงหยี มาได้อย่างไรเนี่ย?” หลินเซี่นงเชิน รีบเดินไปหาเมื่อได้พบเธอ “ทำไมล่ะ? เจอฉันแล้วไม่ดีใจเหรอคะ?”กู้ยิงหยี กระเง้ากระงอดเข้าโน้มคอของชายหนุ่ม ความอ่อนช้อยน่ารักเช่นนี้จะมีผู้ชายที่ไหนทานทนได้ “เธอมา ผมอดใจไม่ไหวจะต้องส่งเกี้ยวไปต้อนรับ ไหนบอกว่าจะไปดูโชว์ สนุกไหมล่ะ?”เขาโน้มตัวไปจูบที่หน้าผากเธอด้วยความรักใคร่อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ลู่อ้ายฉีตกตะลึงเล็กน้อย ที่แท้ หลินเซี่นงเชิน ก็ยิ้มเป็นกับเขาด้วย เขายิ้มแล้วดูดีขนาดนั้น แต่ความรักความเอ็นดูกลับไม่ใช่ของเธอ เรื่องของพวกเขาสามคน แม้แต่คนนอกก็รู้ดี กู้ยิงหยี เป็นคนที่ได้รับความรักเอ็นดูมากที่สุดในบรรดาผู้หญิงของเขา คนส่วนมากรู้สึกเหมือนดูฉากหนึ่งในละคร อาจจะมีบ้างที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจ ลู่อ้ายฉีแต่บุญคุณและความแค้นในตระกูลทรงอำนาจเช่นนี้ ใครกันจะเข้าใจ นาทีนี้ ลู่อ้ายฉียังยืนอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนดี แต่เธอไม่สามารถถอยไปทางไหนได้อีกแล้ว ไม่สามารถให้คนอื่นมองดูเรื่องตลกนี้อีกต่อไป สุดท้ายทำได้เพียงฝืนยิ้มเต็มกำลัง ซูซาน กลัวว่าเธอจะอึดอัดใจ จึงยื่นแก้วแชมเปญให้เธอ แต่เพราะ ลู่อ้ายฉีไม่มีสติเต็มร้อย จึงรับแก้วพลาดไป “เพล้ง” เสียงดังขึ้น แก้วแชมเปญตกกระทบพื้น เศษแก้วกระเด็นไปโดนขาของตัวเองโดยไม่ตั้งใจ บาดลึกเข้าไป ความเข้มแข็งของลู่อ้ายฉีสูญสลายไปพร้อมกับเสียงดังกังวานนั้น เดิมที ซูซาน คิดหาวิธีที่ดี แต่คิดไม่ถึงว่า ลู่อ้ายฉีจะไม่มีแรงแม้แต่ถือแก้วแชมเปญ ซูซานน่าเป็นกังวลอย่างอดไม่ได้ “คุณนาย คุณได้รับบาดเจ็บ...” เลือดบนหลังเท้าไหลออกมาจนน่าตกใจ ซูซานต้องการพาเธอไปทำแผลที่ด้านข้าง จากคำเตือนของเธอ ลู่อ้ายฉีสายตาก้มลงมองดูที่หลังเท้า แต่เธอกลับไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดนั้น เสียงอึกทึกครึกครื้นในงานรับรองเงียบลงฉับพลันจากเสียงแก้วแตก ที่จริงแล้ว หลินเซี่นงเชิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังคงพะเน้าพะนออยู่กับคนที่เขาเรียกว่าที่รัก แต่สุดท้ายก็สังเกตเห็นตามเสียงพูดคุยของแขกในงาน เมื่อได้เห็นหลังเท้ามีแผลเลือดไหลออกมาจนน่าตกใจนั้น หลินเซี่นงเชินตื่นตระหนก รีบผละออกจาก กู้ยิงหยี สาวเท้าเดินไปทางเธอ อดไม่ได้ที่จะตำหนิ “โตขนาดนี้แล้ว ยังหาเรื่องเจ็บตัว มีแต่ทำให้ผมขายหน้า” ลู่อ้ายฉีกำลังมองดูชายหนุ่มที่ตำหนิเธอ กัดริมฝีปากเบา ๆ พยายามอย่างที่สุดไม่ให้น้ำตาของตนไหลออกมา เธอทำอะไรผิดกันแน่ ขายหน้า? เขากลับไม่คิดว่าเรื่องที่เขาทำอยู่นั้นต่างหากคือเรื่องขายหน้าจริง ๆ ? สูดหายใจเข้าลึก ๆ ลู่อ้ายฉีตอบอย่างเรียบเฉย “ฉันไปทำแผลก่อน” ลู่อ้ายฉีขี้เกียจจะมานั่งคิดเล็กคิดน้อยนานแล้ว เดินขากะเผลกหันกลับไป ทุกย่างก้าวบาดแผลก็บาดลึก แต่เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดในใจเธอแล้ว บาดแผลที่หลังเท้าดูไม่มีความหมายไปเลย ซูซาน งงงัน ไม่เข้าใจว่าเวลานี้ทำไมท่านประธานจะต้องต่อว่าคุณนาย เมื่อก่อนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ได้นะ? ซูซาน เร่งรีบเดินตามหญิงสาวข้างหน้า ช่วยพยุงเธออย่างระมัดระวัง สุดท้ายสายตาของ หลินเซี่นงเชิน ก้มลงดูแผลที่หลังเท้าข้างนั้น ทำไมต้องอวดดีขนาดนั้น? มองดูความดื้อรั้นของเธอ จู่ ๆ หลินเซี่นงเชิน ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับอยู่ที่อกจนหายใจไม่สะดวก เมื่อ หลินเซี่นงเชิน เตรียมตัวจะเดินไปข้างหน้า จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องดังออกจากดึงดูดความสนใจ “อา...” ลู่อ้ายฉีหันหลังกลับ ได้เห็น หลินเซี่นงเชิน พุ่งโถมเข้าหาร่างของผู้หญิงอีกคน ในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกเย้ยหยัน เนื่องจากใช้แรง บาดแผลที่หลังเท้ายิ่งบาดลึกลง แต่เธอไม่มีแม้แต่จะบ่น เกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมาในใจ จะมาพัวพันกับเรื่องทุกข์ทรมานแบบนี้ไปทำไม สู้ยอมเป็นคนดี สละตำแหน่งสะใภ้ตระกูล หลิน ให้เธอไป ช่วยให้พวกเขาได้สมปรารถนาเป็นคู่ทุกข์คู่ยาก 
已经是最新一章了
加载中