บทที่5 ชายแปลกหน้า   1/    
已经是第一章了
บทที่5 ชายแปลกหน้า
บ๗ที่5 ชายแปลกหน้า เมื่อได้ยินเสียงดังหลินเสว่เฟยและ ซูซาน อดไม่ได้ตามต้นเสียงนั้นไป แต่สายตาของ ซือถูเซ็น ยังคงจับจ้องไปที่ ลู่อ้ายฉี “เซี่นงเชินคะ ฉันไม่ระวังกระแทกขาโต๊ะ เจ็บจัง...” หญิงสาวพิงชายหนุ่มอย่างอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง น้ำนองเต็มสองตา แต่พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาร่วงหล่น ได้เห็นความน่าสงสารหนักหนาขนาดนี้ คงไม่มีผู้ชายทุกคน ณ ที่นั้น ไม่เห็นใจ หลินเซี่นงเชิน รีบนั่งยอมก้มลงดู ขาอ่อนขาวเป็นรอยจ้ำ มือใหญ่วางไว้บนนั้นและนวดอย่างระมัดระวัง พลางนวด พลางพูดอย่างปวดใจ ด้วยน้ำเสียงรักใคร่อย่างเหลือล้น “ทำไมถึงไม่ระวังเลย ยังเจ็บอยู่ไหม?” “อือ ดีขึ้นแล้วค่ะ” ใบหน้าของ กู้ยิงหยี ช่างมีความสุข มองทะลุฝูงชนไปที่ตัวของ ลู่อ้ายฉีพร้อมเย้ยหยัน อยู่ในตำแหน่งสะใภ้ยังไง สุดท้ายใจของชายหนุ่มก็อยู่ที่ตัวเธอ? ลู่อ้ายฉีอดกลั้นเก็บเอาไว้มาตลอด บอกกับตัวเองว่าจะร้องไห้ตอนนี้ไม่ได้ รีบเดินหนีไป กลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะอดทนไม่ได้อีกต่อไป รอจน หลินเซี่นงเชิน จัดการกับแผลของ กู้ยิงหยี เสร็จแล้ว จึงนึกถึงภรรยาตนเองได้ อดไม่ได้หันไปดูทางเธอ ได้เห็น หลินจื้อโซง นั่งยอง ๆ กับพื้น ใช้ผ้าเช็ดหน้าของเขาช่วยพันแผลของ ลู่อ้ายฉีไว้ อีกทั้งยังมี ซือถูเซ็น ยืนเป็นเพื่อนอยู่ข้าง ๆ กู้ยิงหยี รู้สึกได้ถึงรังสีความโกรธจาก หลินเซี่นงเชิน โดยไม่สนใจว่าเรื่องจะเลยเถิด เธอพูดขึ้น “เซี่นงเชิน คะ ได้ยินว่า ลู่อ้ายฉีก็ได้รับบาดเจ็บ พวกเราไปดูกันหน่อยนะคะ” หญิงสาวทำแบบ ไม่สนใจใยดีเดินซบอกของชายหนุ่มไป “อ้ายฉี กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ ได้ยินว่าเธอบาดเจ็บ เป็นความผิดฉันเอง แค่กระแทกนิดหน่อยก็ร้องโวยวายแล้ว” กู้ยิงหยี ทำหน้าสำนึกผิด แต่นี่ก็เป็นการโอ้อวดเธออยู่ในที ในใจของ หลินเซี่นงเชิน ฉันคือคนที่สำคัญที่สุด ลู่อ้ายฉียิ้มอย่างใจกว้าง”ไม่เป็นไรจ้ะ เธอเป็นแขก มี เซี่นงเชิน ดูแลถือว่าช่วยฉันได้เยอะ” เธอคุ้นเคยกับคำตอบเช่นนี้ดี ทั้งเป็นทางการและเก็บกวาดเรียบร้อย “ยิงหยี คุณน่ะส่องประกายที่สุดแล้วบนเวที บนตัวคุณมันดีไปหมดสำหรับผม จะไปเทียบกับเธอได้ยังไงกัน” หลินเซี่นงเชินพูดอย่างดูถูก “ไม่ตายก็ดีแล้ว...” ด้วยใจที่เจ็บปวด แต่ลู่อ้ายฉีก็ยังยิ้มอย่างสวยงาม “อันที่จริง แผลเล็กแค่นี้ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ พวกคุณสนุกกันเถอะ ฉันขอตัวไปจัดการข้างล่าง” เมื่อพูดจบ ลู่อ้ายฉีลุกขึ้นยืน ผ้าเช็ดหน้าที่ย่ำลงก็ถูกย้อมเต็มไปด้วยสีแดง แต่เธอไม่ได้ใช้วิธีนี้เพื่อยืนยันความดื้อรั้นหัวแข็ง สำหรับเขาแล้ว เธอควรจะถอดใจแล้ว เร่งฝีเท้า สุดท้ายต้องพิงที่ต้นไม้ใหญ่ ลู่อ้ายฉีไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป ดี ดีมาก คำพูดพวกนั้นคงเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเขา อันที่จริงแค่เธอไม่ตาย เขาก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป คุณปู่ของเขาคงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้ หากว่าตนเองตายไปจริง ๆ จะยังมีใครรู้สึกเสียใจ จะยังมีใครร้องไห้เพื่อเธออีก? ค่อย ๆ เดินย่ำไปอย่างเชื่องช้า ลู่อ้ายฉีโอบกอดตัวเอง มีเพียงแบบนี้ที่จะให้ความอบอุ่นตัวเองได้ เพราะเหตุใดความทรงจำเดียวที่เหลืออยู่ ก็ถูกแย่งชิงไปจนไม่เหลืออะไร ลู่อ้ายฉีรู้สึกว่า บนโลกนี้ไม่เหลือสิ่งใดให้เธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์ถึงแล้ว ทันใดนั้น ก็มีตุ๊กตาหมีของเล่นปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำให้เธอตกใจลุกขึ้นยืนลู่อ้ายฉีมองดูผู้ชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง “คุณเป็นใคร?” “ผมถูกนางฟ้าส่งมาช่วยคนที่ไม่มีความสุข” ผู้ชายคนนี้พูดภาษาอังกฤษ เพียงแค่ชั่วพริบตา หมีตัวน้อยกลายเป็นผ้าเช็ดหน้า ลู่อ้ายฉี“ว้าว” ด้วยใบหน้าเลื่อมใส ตกใจในการแสดงที่เพิ่งผ่านไป “ผู้หญิงจะร้องไห้ไม่ได้นะ” ทันใดนั้น ลู่อ้ายฉีรู้สึกถึงสัมผัสที่เอว เขาพูดพลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าของเธอ ลู่อ้ายฉีมองดูเขา อดไม่ได้ที่จะเคลิบเคลิ้ม เธอรู้ว่าเขาคือชายแปลกหน้า แต่อ้อมกอดของเขาช่างอบอุ่น ทำให้เธอไม่อยากจะผละออกจากตรงนั้น ผู้ชายคนนี้มีมือที่สวยงาม โดยเฉพาะแหวนนิ้วก้อยยิ่งสะดุดตา ลู่อ้ายฉี เธอรู้ความหมายของแหวน เป็นตัวแทนความโดดเดี่ยว ที่แท้เขาก็เป็นเหมือนกันกับตัวเธอเหรอ? จับแหวนที่นิ้วกลางโดยไม่รู้ตัว มีเพียงความเย็นชา ลู่อ้ายฉีไม่รู้ว่าจนถึงตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อชายผู้นั้นมันเป็นอย่างไร “คุณคิดว่าทำไมผู้คนถึงรู้สึกโดดเดี่ยว?” “ผู้อ่อนแอมักรวมกลุ่ม มีเพียงผู้ที่เข้มแข็งอยู่โดดเดี่ยว” ชายหนุ่มพูดพลาง อดไม่ได้ที่จะจับแขนแน่น พฤติกรรมให้ท้ายเช่นนี้ ลู่อ้ายฉีกลับไม่ได้ต่อต้าน แต่กลับรู้สึกชอบ นานเท่าไรแล้วที่ไม่มีใครคุยด้วยอย่างที่ใจต้องการ? “คุณไม่มีคนรักเหรอครับ? ได้รับบาดเจ็บแล้วมาอยู่ตรงนี้คนเดียว” เสียงไพเราะดังขึ้นอีกครั้ง ลู่อ้ายฉีอยู่สหรัฐฯ มาก็หลายปี แต่เธอแยกไม่ออกเลยว่าชายผู้นี้มาจากประเทศใดแน่ “คนรัก? คุณหมายถึงสามี หึหึ...” เมื่อพูดถึงสามี ลู่อ้ายฉียิ้มที่มุมปากและขำแบบขมขื่น “ฉันในใจของเขา ก็เป็นแค่เพียงสิ่งของ” พวกเขาก็เป็นแค่คู่สมรสในนาม คงไม่มีวันได้ครองรักกันอีก “คุณรักเขาไหม?” ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อได้ยินเสียงของเขา ลู่อ้ายฉีจึงรู้สึกตื่นเต้น สำหรับคำถามนี้ ลู่อ้ายฉีนิ่งคิดอยู่นาน “ฉัน... ฉันไม่รู้ค่ะ” นาทีนี้เธอรู้สึกหวาดกลัว เธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเอง กลัวเหลือเกิน มันไม่ง่ายที่จะต้องจัดการกับเศษซากของหัวใจที่แตกสลายอีกครั้ง โดยไม่มีคำเตือนใด ๆ ชายหนุ่มบรรจงจูบที่ริมฝีปากเธอ รับรู้ได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้า เมื่อเริ่มแรก ลู่อ้ายฉีกลับไม่ได้หลบเลี่ยง นานมาแล้วที่ไม่ได้รู้สึกรับรู้ถึงการได้รับความรัก เพียงแต่ความตื่นตระหนกเป็นเพียงเสี้ยวนาที ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่า ลู่อ้ายฉีไม่ได้ดิ้นรนกลับผ่อนคลาย และ ไม่ระแวดระวัง จนเธอเกือบจะล้มลง เมื่อผละออกจากตัวเขา ลู่อ้ายฉีด้วยความรู้สึกตื่นตระหนกจนมือไม้อ่อนหนีกลับเข้าโรงแรมไปแบบนั้น ไม่น่าเชื่อจริง ๆ เลย เมื่อครู่ตัวเธอก็ยั้งสติไม่อยู่ ไปกับชายแปลกหน้า เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา ลู่อ้ายฉีก้าวขาช้าลง คิดอยากให้ตนเองใจลงสักนิด การเคลื่อนไหวอย่างมากทำให้เลือดที่แผลไหลออกมาอีก ลู่อ้ายฉียักแย่ยักยันเดินกะเผลกกลับห้องพักของตัวเอง เมื่อเห็น ลู่อ้ายฉีกลับมา ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น ถามด้วยน้ำเสียงโกรธโมโห “ไปไหนมา?” ได้เห็นหลินเซี่นงเชิน จู่ ๆ ลู่อ้ายฉีก็รู้สึกโมโหเป็นฟืนเป็นไฟอย่างไร้เหตุผล นาทีนี้ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นการหักหน้ามากแค่ไหน ตอบไปตามใจปาก “มีนัดกับคนรัก!” “เธอพูดอะไรนะ?” หลินเซี่นงเชิน บีบแขนของหญิงสาวแน่น คำรามเสียงดัง แต่นาทีนี้เธอไร้เรี่ยวแรงจะต่อสู้ดิ้นรนใด ๆ กับชายหนุ่มแล้ว เธอผละออกจากเขาแล้วเดินกลับห้องพักไป
已经是最新一章了
加载中