ตอนที่ 701 ผู้ชายที่กำลังมีความรัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 701 ผู้ชายที่กำลังมีความรัก
ตอนที่ 701 ผู้ชายที่กำลังมีความรัก นัชชาอึ้งไปสักพัก กว่าจะคิดได้ว่า ‘คุณดราณี’ จากปากเขาหมายถึงใคร ก่อนแต่งงานกันเธอเคยเจอดราณี ตอนนั้นกลัวว่าเธอจะพาชนัยที่ดื่มหนักกลับบ้าน เธอกลัวว่าจะเกิดอะไรเลยโทรศัพท์ไปหา “ฉันมีค่ะ เอาให้พี่ตอนนี้เลย?” “ครับ ขอบคุณครับ” “ไม่เป็นไร” พูดจบ เธอก็ถามออกมาอย่างสบายๆ “พี่ปรัณอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของดราณีไปทำไม?” พอพูดถึงตรงนี้ ปรัณก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “เพราะเจ้าชนัยน่ะสิ เขาไม่รู้ว่าแล้วยังไปพูดไม่ได้ดีกับได้แตงกวาอีก ทั้งสองทะเลาะกัน เมื่อวานดื่มหนักมาก แล้วก็ปวดท้องรุนแรง พี่คิดว่าพี่โน้มน้าวไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ดีเท่าได้คุยกับดราณีเสียหน่อย” ในสองคนนี้ ถ้ามีคนหนึ่งเข้าใจก็ไม่มีปัญหาแล้ว นัชชาพยักหน้า “ดูออกว่าชนัยชอบเธอมาก พี่ก็ไปพูดกับเธอดีๆนะ หญิงสาวคนนั้นก็ดูเป็นคนที่มีเหตุผลมาก” “โอเค ค่อยคุยกันะ เธอยุ่งอยู่ด้วย” หลังจากวางสาย ปรัณก็กดเบอร์โทรศัพท์ไปหาดราณีทันที ด้วยท่าทางที่กำลังใช้ความคิดอย่างมากเหมือนกับลุงแก่ๆ หกโมงเช้า เสียงรอสายดังอยู่นานมากไม่มีคนรับ จนในปลายสายมีเสียง ‘ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’ ดังขึ้น ปรัณเลยวางสายไป ในเวลานี้ เธออาจจะหลับอยู่ ขณะที่เขาเตรียมวางโทรศัพท์ไว้ข้างกาย ขณะที่ค่อยโทรไปตอนสายกว่านี้ จู่ๆโทรศัพท์ในมือก็สั่นขึ้นมา ก้มลงมองดู มันคือเบอร์ที่เพิ่งโทรออกไปเมื่อครู่ เขารับแล้วแนบโทรศัพท์ไว้ข้างหูทันที “ฮัลโหล ดราณีใช่ไหม?” ดราณีกำลังเฝ้าไข้อยู่ที่โรงพยาบาล คุณพ่อป่วยโดยฉับพลัน ยังไม่ได้เอาของมากมายเอากลับมาจากโรงแรม ร่างกายของเสนานีคอนข้างอ่อนแอ เลยให้น้าไปเอาแทน เธออยู่ข้างเตียงเป็นเพื่อนคุณพ่อในคืนแรกหลังผ่าตัด เกือบข่มตาไม่หลับทั้งคืน เธอจิตใจเซื่องซึม ในตอนนี้ได้ยินเสียงผู้ชายในลำโพงก็รู้สึกตื่นขึ้นมานิดหน่อย “สวัสดีค่ะ ฉันดราณี ไม่ทราบว่านี่ใครพูดคะ?” “ผมเอง ปรัณ ก่อนหน้านี้เธอเคยเจอพี่ที่งานแต่งของนัชชา จำได้ไหมครับ?” พูดจบ กลัวว่าเธอจะนึกไม่ออก ปรัณก็พยายามจะชี้ทางต่อ “ตอนนั้นเธอหาชนัยไม่เจอ แล้วพี่พาไปน่ะ” หกโมงเช้า สมองของดราณียังคงอึนๆ เธอคิดอยู่นานสักพักถึงได้เจอความทรงจำเล็กน้อยจากส่วนลึกของสมอง “อ๋อ......ฉันพอจำได้ค่ะ” ดราณีถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อเครึ่ง “พี่คือคุณหมอใช่ไหมคะ?” “ใช่ครับ” ปรัณเห็นว่าเธอยังจำตนได้ ก็โล่งอก และไม่ได้พูดอะไรอ้อมค้อมมาก เขาเอ่ยออกไปตรงๆ “นั่นแหละครับ พี่มารบกวนเราแต่เช้าตรู่ เพราะว่าอยากจะมาคุยเรื่องชนัยกับเธอ” ชนัย? ดราณีค่อนข้างประหลาดใจ “เขาเป็นอะไรหรอคะ?” “เมื่อวานหลังเขาทะเลาะกับเธอก็ไปกินเหล้เมา วันนี้ก็ปวดท้องตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ตอนนี้ร่างกายแย่มาก ใครพูดก็ไม่ฟัง พี่เลยหวังว่าเธอจะไปเจอเขาหน่อย ช่วยพี่หน่อยนะ” ดราณีกัดปาก แล้วมองพ่อที่อยู่บนเตียง น้าบอกว่าวันนี้จะมาแทนที่เธอพร้อมอาหารเช้าตอนเจ็ดโมงเช้า ถึงตอนนั้นเธอก็ไปพักผ่อนได้ สามารถออกไปจากโรงพยาบาลได้ชั่วคราว แต่ดราณีก็เกิดความลังเล “ตอนนี้เขายังโอเคไหมคะ?” “ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ปรัณพูดเรื่องของชนัยให้ร้ายแรงขึ้นนิดหน่อย ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะหลอกลวง แต่ใครผูกเรื่องไว้ก็ต้องเป็นคนแก้เอง เขาหมดหนทาง สุดท้ายในใจของดราณีก็รู้สึกผิด นึกถึงเรื่องค่ายาของคุณพ่อและการทะเลาะกันเมื่อคืนวาน เธอพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะรับปาก “เดี๋ยวตอนเช้าญาติฉันมาโรงพยาบาลแทนที่ฉัน แต่ฉันต้องขอพักผ่อนก่อนสักครู่นะคะ ตอนบ่ายต้องไปตรวจเป็นเพื่อนคุณพ่อ ตอนเย็นถึงจะมีเวลา” ปรัณเห็นว่าเธอรับปาก ก็เหมือนหินร่วงออกจากในใจ เวลาในตอนเย็นดีที่สุด ยังไงก็ดื่มมาทั้งคืน ชนัยตื่นขึ้นมาก็น่าจะเป็นช่วงเวลาพลบค่ำ “ไม่มีปัญหา เดี๋ยวสองทุ่มพี่ไปรับที่โรงพยาบาล ไม่เสียเวลาเธอทานข้าว” “ได้ค่ะ เจอกันตอนเย็น” ทางฝั่งดราณีก็ตัดสินใจไม่ได้ง่าย ปรัณกลัวว่าฝั่งชนัยจะไม่ยอมฟังเหตุผล เดี๋ยวเย็นนี้สักหกโมงกว่าโทรศัพท์ไปหาเขาก่อน “อยู่ไหนเนี่ย?” ในตอนนี้ ชนัยกำลังนั่งอยู่ในร้านโจ๊กเฉาซ่านเพื่อสุขภาพแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่ทำงาน เขามองโจ๊กสีขาวในชาม แล้วทานเข้าไปอย่างไม่แยแสอย่างมาก “กินข้าว” “กินอะไร?” “กินโจ๊ก” “ดี ตอนนี้ท้องไส้นายติดเชื้อ อย่ากินอะไรที่มันหนักๆเด็ดขาด” “ไม่กินหรอก” ชนัยวางช้อนไว้ข้างๆ ยังคงปวดหัวอยู่นิดหน่อย “มีอะไรหรือเปล่า?” ปรัณถึงได้พูดประเด็นหลักออกไป “เย็นวันนี้ฉันนัดดราณีให้ไปเจอ ตอนสองทุ่ม ฉันพาเธอไปที่บ้านนาย คุยกันดีๆนะ” “ใครนะ?” ชนัยยกมือขึ้นมาลูบหู นึกว่าตัวเองฟังผิด “เมื่อกี้พี่ว่าใครนะ?” “ดราณี” “ไอเชี่*?!” ชนัยลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที เกือบปัดน้ำข้างมือหก “พูดจริงพูดเล่น?” “พูดจริง ฉันไม่เคยล้อเล่นกับนาย” เทียบกับความประหลาดใจของเขาแล้ว ปรัณกลับใจเย็นมาก “มาบอกไว้ก่อน พอเธอไปถึงก็อย่าทำตัวแปลกๆล่ะ” ชนัยฟังคำพูดที่ดูใจเย็นเหลือเกินของปรัณ เขาเกือบจะระเบิดออกมา พี่ก็ไม่เว้นหรอก “ใครใช้ให้พี่พาเธอมาเนี่ย?!” ท่าทางของเขาเหมือนโดนเหยียบหางสุดขีด ปรัณรู้ว่าชนัยไม่ได้โกรธตน แต่กำลังกลัวที่ต้องเผชิญหน้าเท่านั้นเอง แม้ว่าเขาจะทำตัวร้ายกาจ แต่กลับกลัวที่จะเจอดราณี ปรัณรู้ความคิดถี่ถ้วนในใจเขา เลยไม่ทะเลาะกับเขาอยู่แล้ว “มีอะไรจะพูดก็พูดด้วยตัวเอง อย่าไหลไปเรื่อย ทำตัวเป็นคนขี้ขลาดตาขาว” พูดจบ ไม่รอให้ชนัยตอบ ปรัณก็วางสายทันที ได้ยินเสียง ‘ตู๊ดๆ’ ข้างหูดังขึ้นมา ชนัยก็รู้สึกแย่ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายอย่า ‘ขี้ขลาดตาขาว’ มันทำให้หน้าเขาเห่อร้อนขึ้นมา เชี่*! เขารู้ได้อย่างไรว่าเขาคิดที่จะออกจากคลับเฮาส์เย็นนี้? ชนัยกังวลมาก กังวลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ยกข้อมือดูนาฬิกาข้อมือแสนแพง ใกล้จะสองทุ่มแล้ว เหลืออีกชั่วโมงกว่าก็จะได้เจอเจ้าจิ้งจอกขาวตัวน้อยอย่างดราณีแล้ว ผู้ช่วยมองดูเจ้านายตัวเองที่ดูเหมือนซีกไม้ยาวๆ เขามองโจ๊กในชาม แล้วเอ่ยถามเบาๆ “ท่านชนัย โจ๊กจะเย็นหมดแล้วครับ......” พอสายตาแหลมคมเหมือนมีดของชนัยจ้องมา ในวินาทีต่อมา เขาก็ยกโจ๊กบนโต๊ะขึ้นมาทันที แล้วแหงนหน้าดื่มโจ๊กครึ่งหนึ่งที่เหลือจนหมดในคราเดียว ท่าทางแบบนี้ ราวกับว่าในชามนั้นไม่ใช่โจ๊ก แต่เป็นวิสกี้ครึ่งแก้ว ผู้ช่วยมองจนอึ้งไปเลย รีบลุกขึ้นส่งผ้าไปให้ “ท่านชนัยทานช้าๆหน่อยครับ เดี๋ยวก็สำลัก......” ชนัยวางชามว่างเปล่าลง แล้วก้าวเท้าออกไปนอกร้านด้วยความรู้สึกเศร้าสลดใจ ผู้จัดการมองร่างสูงใหญ่นั่น อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าด้วยความอาลัย ความรักน่ะ ทำให้คนเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม แต่ชนัยที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิมเนี่ย......น่ารักจริงๆ
已经是最新一章了
加载中