ตอนที่ 719 ฉันจะไปหาคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 719 ฉันจะไปหาคุณ
ตอนที่ 719 ฉันจะไปหาคุณ และเพียงเอ่ยถึงพ่อของเขา เขาถึงจะมีสีหน้าท่าทางแบบนี้ ตั้งแต่เขาอายุยี่สิบหกปี คำว่าคุณพ่อสองพยางค์นี้เป็นคำต้องห้ามในชีวิตเขา ความเงียบเหมือนป่าช้าทำให้บรรยากาศของทั้งคู่ยิ่งรุนแรงเข้าไปอีก ชนัยเป็นคนไม่อดทน “ไม่มีอะไรก็กลับไปเถอะครับ” คุณปู่ยขึ้น สุดท้ายก็มองเขาอย่างลึกซึ้ง “ทำโปรเจ็คนี้ให้สำเร็จ อย่าทำพลาดอีก” พูดจบ เขาก็ทิ้งชนัยที่ตัวแข็งทื่อไว้ข้างหลัง เดินตรงออกจากห้องไป เปิดประตูออก พวกบอดี้การ์ดก็เดินตามเขาไปทีละคน เสื้อสูทสีดำเสื้อเชิ้ตสีขาว เดินตามคุณปู่ไปทางลิฟต์อย่างเป็นระเบียบ จากนั้น ถึงจะออกมาไม่กี่ก้าว ในห้องก็มีเสียงสิ่งของหล่นแตกดังโครมครามน่ากลัว คุณปู่หลับตาเบาๆ ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินอะไร อีกด้านหนึ่ง หลังจากผู้จัดการเห็นคุณปู่ออกจากลิฟต์ไปแล้ว ก็อยากขึ้นมาดูสักหน่อย ไม่คิดว่าเพียงก้าวเท้าเข้าไป ตรงปลายเท้ามีโทรศัพท์ลอยมา เสียงดัง ‘โครม’ ลงมาที่ข้างเท้า แตกละเอียดเป็นชิ้นๆ ผู้จัดการด้านหลังจับเขาไว้ “อย่าเข้าไปครับ รอให้คุณชนัยเย็นลงก่อนค่อยคุย” ไม่ได้กลัว และไม่ใช่เพิกเฉยในหน้าที่ เพียงแต่ทุกครั้งที่คุณปู่มามูตี้คลับเฮาส์จะก่อให้เกิดภาพโหดเหี้ยมแบบนี้ และวิธีจัดการที่ดีที่สุดคือการให้ชนัยเย็นลงด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้น จะยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสีย ในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถปลอบโยนเขาได้ ไม่มีใครช่วยเขาได้เหมือนกัน ถึงผู้จัดการจะไม่รู้ว่าเนื้อหาที่ทั้งสองพูดคุยกันคือเรื่องอะไร แต่ทุกครั้งก็ทำให้ชนัยสูญเสียการควบคุมแบบนี้ จะต้องเป็นเรื่องที่จริงจังมากอย่างแน่นอน ผู้จัดการก็แอบลัว เลยออกมาอยู่อีกฝั่ง “งั้นฉันรออยู่ข้างนอกแล้วกัน” —— หลังจากดราณีกลับโรงพยาบาลกับเสนานี คุณป้ากับคุณลุงก็มาแล้ว ทั้งคู่นำซุปกระดูกที่ตุ๋นมาอย่างดีให้กับทยุติ กลัวว่าอาหารที่โรงพยาบาลจะไม่ดี เห็นว่าพวกเธอมาสาย เลยอดถามไม่ได้ “ฉันได้ยินพ่อบอกว่าไปทานข้าวกับเจ้านายคนนั้นเมื่อตอนกลางวันหรอ?” ดราณีที่เพิ่งถูกเสนานีอบรมเมื่อครู่ ตอนนี้จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก หลังจากเรียกอย่างเชื่อฟังแล้วก็ก้มหน้าออกไปกดน้ำให้ทยุต เสนานีนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กข้างๆ และตอบอย่างสบายๆ “ไปเลี้ยงอาหารเขาน่ะ ยังไงก็เป็นคนที่มีบุญคุณกับครอบครัวเรา” “ก็จริง” คุณลุงก็ย้ำอีกหน และถามต่อทันที “แต่เขาเป็นเจ้านายใหญ่โตขนาดนั้น มีเวลายอมออกมาทานอาหารกับพวกเรา เกิดขึ้นได้ยากมากเลยนะ” เสนานีฟังคำถามของพวกเขาออก เขาเป็นคนดี ครอบครัวคนอื่นค่อนข้างมีปัญหา เขาก็ยังคิดบวกกับคนอื่น แต่ยังไงก็เป็นคนในครอบครัว และและตรงหน้าเตียงของทยุติ เธอก็ไม่ได้แสดงอาการที่โอเวอร์เกินไป “เขาจะเป็นเจ้านายยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา เดี๋ยววันไหนฉันทำใบยืมเงินให้ดราณีส่งไปให้ ฉันกับทยุติจะรวบรวมเงินไปคืนเขา” ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ป้าก็รีบเอาศอกกระทุ้งลุงข้างๆ แล้วแกล้งยิ้มพูดต่อ “จริงด้วยๆ ยังไงเงินก้อนนี้ก็ยืมเขามา ยังต้องคืน” ดังนั้น คำถามนี้ก็จบลงแบบนี้ สุดท้ายก็ไม่ได้ปลุกปั่นต่อ ให้พูดต่อก็ไมม่รู้ว่าจะถามอะไรออกไป ตอนที่ดราณีกลับมาถึงห้องผู้ป่วย ก็ไม่มีใครพูดถึงชนัยแล้ว เธอแอบโล่งอก เอาน้ำร้อนวางไว้ข้างหัวตัว แล้วช่วยนวดขาให้ทยุติ ไม่ได้ลงจากเตียงมาหลายวัน ร่างกายต้องแข็งมากแน่ๆ การนวดจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ปกติ ทำให้ไม่ทรมาณมาก “เธอทั้งคู่กลับไปก่อนเถอะ ฉันจะอยู่นี่ดูกับดราณีเอง พรุ่งนี้เช้ามาแทนก็พอแล้ว” เสนานีเห็นว่าไม่มีอะไรก็ให้สองสามีภรรยากลับบ้านไปก่อน ป้าไม่ได้เกรงใจ “งั้นก็โอเค มีอะไรก็โทรศัพท์หาฉันนะ ฉันไปก่อน” หลังจากไปส่ง ดราณีก็ให้เสนานีไปนอนบนเตียงเล็กข้างๆสักหน่อย เธอจะดูช่วงบ่ายเอง ตอนเย็นค่อยเปลี่ยน ถ้าไม่พักผ่อนอยู่ตลอดเวลาจะแย่เอา เสนานนีหลับไปจนถึงหนึ่งทุ่มครึ่ง ตอนที่ตื่นขึ้นมา ข้าวก็ยังไม่ได้ทานก็รีบให้ดราณีไปก่อน ดราณีก็ทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่ได้ ถือโทรศัพท์เดินไปที่โรงอาหารของโรงพยาบาล คิดว่าเดี๋ยวจะสั่งอาหารไปที่ห้อง แบบนี้เสนานีจะได้ไม่ต้องรอให้เธอทานเสร็จ ระหว่างทาง เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมู วันนี้ตอนบ่ายไม่ได้ติดต่อกับชนัยเลย ที่แปลกก็คือ อีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่จะส่งข้อความมาหาเลยแม้แต่ข้อความเดียว แปลกจัง หรือว่าบ่ายวันนี้จะยุ่งอยู่ตลอด? เมื่อก่อนชนัยส่งข้อความหาเธอบ่อยมาก หนึ่งวันประมาณยี่สิบกว่าข้อความ แม้ว่าส่วนมาเธอจไม่ได้รับ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีสักเจ็ดแปดข้อความแหละ วันนี้......ผิดปกติไปหน่อยนะ ดราณีหยุดฝีเท้าลง อยากจะโทรหาเขา แต่กลัวว่าจะทำให้เขาเสียเวลาทำงาน คิดอยู่นานถึงได้ตัดสินใจ ลองโทรหน่อยดีกว่า ถ้ายุ่งอยู่ล่ะก็ เธอจะได้รีบวาง พอคิดแบบนี้ เธอก็หาเบอร์ชนัยแล้วกดโทรออก แป๊ปเดียวก็ได้ยินเสียงสัญญาณไม่ว่างดัง ‘ตู๊ดๆ’ อยู่ข้างหู แต่เสียงนี้ดังอยู่นานก็ยังไม่มีคนรับ ขณะที่ดราณีคิดว่าไม่มีคนรับแล้ว จู่ๆข้างหูก็มีเสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นมา “ฮัลโหล” “ฮัล ฮัลโหล?” ไม่รู้ว่าทำไม เธอค่อนข้างตื่นตระหนก ปกติชนัยจะเป็นคนที่ติดต่อเธอมา เธอโทรไปหาเขาก่อนน้อยมาก ตอนนี้จู่ๆโทรไปเธอก็รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย “คุณ คุณทำอะไรอยู่?” สิ่งที่เกินความคาดหมายก็คือ น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดูตื่นเต้นเหมือนแต่ก่อน ค่อนข้างเซื่องซึม “นอน” “นอนหรอ?” ดราณียกโทรศัพท์ออกจากหูเปิดดูเวลา แล้วก็เอาแนบหูเหมือนเดิม ปากก็พูดใส่ไมโครโฟน เอ่ยปากถามแผ่วเบา “ทำไมหลับตอนนี้ล่ะ?” “เหนื่อยนิดหน่อย” “ทานข้าวหรือยัง?” “ยัง” ดราณีไม่ได้พูดต่อ ไม่ใช่ไม่เป็นห่วงเขา แต่จากคำตอบของเขาทั้งสอง ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่อยากตอบ นี่ไม่เหมือนชนัยคนบ้าบิ่นเลย อย่างน้อยได้รู้จักเขาในระยะสั้น ไม่เคยเห็นท่าทางเขาหดหู่แบบนี้ หรือว่าวันนี้ไม่มีความสุขที่มาเจอกัน? ไม่คิดสนใจตนแล้ว? คงไม่หรอก คำพูดของเสนานีเธอไม่ได้บอกเขาสักหน่อย ตอนทานข้าวเสร็จเขาก็ยังมีความสุขมากอยู่เลย แป๊ปเดียวทำไมถึงได้...... ดราณีค่อนข้างเป็นห่วงเขา จึงรวบรวมความกล้าถามออกไป “ชนัย ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” ตอนที่ถามออกไป เธอตัดสินใจจะไปหาเขา พอถามออกไป อารมณ์เขาก็ชะงัก “คฤหาสน์” “งั้นหรอฉันแป๊ปหนึ่งได้ไหม ฉันจะเอาอะไรไปให้ทาน” ชนัยไม่ได้ตอบรับและไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็พูดขึ้นทันที “ฉันดื่มเหล้า” ดราณีอึ้งไปเลย เกือบตามไม่ทันกับความคิดเขา นี่มันเพิ่งทุ่มสองทุ่ม ทำไมเขาดื่มเหล้าล่ะ? แปลกจัง แปลกมากเกินไปจริงๆ การกระทำที่ผิดปกติแบบนี้ทำให้ดราณียิ่งเป็นห่วง “คุณรออยู่ที่บ้านนะ อย่าดื่มอีก โอเคไหม?” ตั้งแต่คุณปู่กลับไปจนถึงตอนนี้ หลายคนก็ได้โน้มน้าวเขา แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาหูเขามีแค่ประโยคเดียวของดราณี เธออยากมาหาตน ไม่สามารถดื่มเยอะจนทำให้เธอกลัวได้ ชนัยถือโทรศัพท์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค”
已经是最新一章了
加载中