บทที่ 144 พายุกำลังจะมา
1/
บทที่ 144 พายุกำลังจะมา
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 144 พายุกำลังจะมา
บทที่ 144 พายุกำลังจะมา พึ่งเข้าประตูมา ของกินของลุงยามก็มาถึงแล้ว ส้มหิวแล้ว หยิบลูกอมขึ้นมากิน กินไปก็ดูโทรศัพท์ไป “แดดดี้รายการของเด็กๆในวันตรุษจีน สนุกจริงๆ” รายการนั้นอลังการจริง ๆ เดิมคิดว่ารายการของเด็กในเทศกาลตรุษจีนพึ่งเริ่มจะมี นี่ผ่านมาครึ่งวันแล้วยังมีอยู่ เด็กๆดีใจใหญ่เลย ปุรุมวางเพ็ญนีต์ไว้บนเตียงนอน เธอหลับลึกจริงๆ พลิกไปพลิกมาหลายรอบแต่ก็ไม่ตื่น ริมฝีปากบวกกับใบหน้าของเธอ ใบหน่าขาวๆบวกกับกลิ่นอายเหล้านิดๆในตัวทำให้จิตใจคนกระเพื่อมไหวได้ง่าย รับละมือออกจากกายเธอ ครึ่งปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน จนถึงตอนนี้เขาพึ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เจอหน้าเธอมาครึ่งเดือนแล้วเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ แอบหนีมาครึ่งปีเต็มๆ และเพราะอาศัยลูกสาวทั้งสองเขาจึงได้พบเธออีกครั้ง ผมของเธอสยายอยู่บนหมอนนุ่มๆ เวลานั้นทำให้ขนตายาวสวยกระเพื่อมเล็กน้อย แต่ก็ยังคงหลับต่ออย่างสบายอารมณ์ เธอในเวลานี้ ต่อให้เป็นเสียงฟ้าร้องดังๆก็ปลุกเธอให้ตื่นไม่ได้ มองเธออยู่อย่างสงบเงียบ ในใจของปุริมวุ่นวายขึ้นเป็นครั้งแรก ขณะที่กำลังนิ่งพิจารณา เสียงอ๊อดประตูห้องก็ทำลายความรู้สึกของเขา ที่แท้คืออาหารจากร้านกินสุข เด็กหนุ่มสามสี่คนมาเพื่อจะมาส่งอาหารทั้ง16 อย่าง ตะโกนเรียกและยกเข้ามาเสร์ฟ แต่ละอย่างแต่ละกล่อง ทั้งหมดต่างกำลังร้อนๆอยู่เลย อาหารทั้งหมดถูกจัดวางไว้เต็มโต๊ะ หลังจากส่งอาหารเสร็จก็ออกไป ปุริมเรียกเด็กๆมา เตรียมตัวเริ่มทานข้าว ส้มหยิบตะเกียบขึ้นมา “แดดดี้คะ หม่ามี้ยังคงหลับอยู่หรอคะ?” “อืม ใช่ค่ะ” “แต่ว่า หม่ามี้ไม่มากินมีแค่พวกเราสามคน แบบนี้ไม่เรียกว่าพร้อมหน้าพร้อมตานี่คะ” ปุริมหยิบตะเกียบคู่หนึ่งวางลงบนโต๊ะ ที่ควรเป็นที่ที่เพ็ญนีติ์จะต้องนั่งทานข้าว จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ใครบอกว่าหม่ามี้ไม่กินกันคะ หม่ามี้ก็กิน อ้อยและส้มกินแทนหม่ามี้แบบนี้ก็เรียกว่าหม่ามี้กินแล้วเหมือนกันค่ะ” “แบบนี้ก็ได้หรอ?” “อืม ได้สิ เริ่มกันเลย” หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อปูให้กับลูกทั้งสองคน “มา อันนี้ต้องกินตอนร้อนๆ ถ้าเย็นแล้วเดี๋ยวจะไม่อร่อย” สงสัยหิวจริงๆ ส้มและอ้อย กินอย่างเต็มที่ไม่เกรงใจ ปุริมกินข้าวไปด้วยก็พูดคุยไปเรื่อยๆ “บอกแดดดี้มา ว่าอาหารมื้อนี้ทั้งหมด พวกเราไม่เคยกินมาก่อนใช่ไหม?” ส้มที่กำลังใช้ตะเกียบคีบไปยังน่องของเป็ดย่างเอ่ยขึ้น “เคยสิ พวกเราเคยกินขนมปัง” “ยังมีอีกไหม?” “ยังมีน้ำแร่ที่เคยดื่ม” “มาจากไหนล่ะ?” “เอามาจากบ้านไง ตอนที่เราออกมาก็หยิบมาด้วยแล้ว น้ำสองขวดกับขนมปัง หนูและก็อ้อยหยิบมาคนล่ะชิ้น หม่ามี้ไม่รู้ว่าพวกเราหยิบออกมา พวกหนูค่อยๆแอบหยิบมา ดูสิ ช่างเป็นนักแผนการยิ่งนัก อายุแค่นี้ยังรู้จักแอบบหนีออกจากบ้าน ช่างไม่ต่างอะไรกับเพ็ญนีติ์เลยจริงๆ เปลือกตากะพริบถี่ๆ “ง่วงไหมง่วง?” “ไม่ง่วงค่ะ พวกเรานอนอยู่บนพื้นหญ้าตั้งนานแหน่ะ แดดดี้ ทั้งหมดนี้ต้องโทษแดดดี้คนเดียวเลย ทำไมแดดดี้ไม่ออกมาปรากฏตัว หนูและส้มง่วงแล้ว ก็เลยนอนคว่ำลงบนพื้นหญ้ารอ” เขายื่นมือไปลูบหัวอ้อย “ต่อไป ห้ามนอนนอกห้องเป็นอันขาด เข้าใจไหมคะ?” “ทำไมหรอคะ?” “เพราะว่าบนพื้นหญ้ามีแมงชนิดหนึ่ง ที่สามารถเข้าไปดูดกินเลือดเนื้อคนได้ ถ้าแบบนี้ทุกๆวันก็จะดูดกินเลือดเรา จนกระทั่ง... กระทั่ง...” อ้อยตกใจจนร้องถามขึ้น “มีแมลงแบบนี้จริงๆหรอ?” “มีแน่นอนสิ แดดดี้ไม่โกหกหรอก ถ้าไม่เชื่อ หนูลองไปถามคุณครูที่อนุบาลดูเลย “ แมลงคือมีจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าที่เขาบรรยาย อ้อยเชื่อจริงจัง “ส้ม ต่อไปพวกเราจะนอนบนพื้นหญ้าไม่ได้แล้วนะ” “และก็ ถ้าพบคนไม่ดีแล้วเขาพาพวกหนูไป ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ลูกๆก็จะไม่ได้พบกับหม่ามี้และก็แดดดี้อีกต่อไป ถึงตอนนั้นไม่ใช่ว่าหม่ามี้ไม่ต้องการลูกๆแล้ว แต่คือตามหาหนูไม่เจออีกต่อไปแล้ว” เขายิ่งพูดเด็กทั่งสองยิ่งก้มหน้ารู้สึกผิด ขนาดข้าก็กินไม่ลง “แดดดี้แต่ว่าพวกเราคิดถึงแดดดี้นี่คะ” ประโยคนี้ทำให้ ปุริมยิ้มกว้างออกมาทันที “พอแล้วๆ รีบกินเถอะ แดดดี้ไม่พูดต่อแล้ว กินเสร็จแล้วพวกเราไปดูทีวี แดดดี้จะไปห่อเกี้ยว เอาไว้กินตอนเคาท์ดาวน์” “โอเคค่ะ โอเค” เขาพูดเปลี่ยนเรื่อง อ้อยและส้มก็ดีใจขึ้นมา เรื่องบางเรื่องค่อยๆสอนคงจะดีกว่า ไม่ต้องรีบร้อน กลัวแต่จะทำให้เด็กตกใจกลัว แม้ว่าจะบอกว่าหิวแต่กับข้าวทั้งโต๊ะคนสามคนจะกินเยอะเท่าไหร่กันเชียว หลังจากกินเสร็จ ลากเด็กๆให้ไปดูรายการนั้นต่อ ส่วนเข้าก็ห่อเกี้ยวด้วยความตั้งอกตั้งใจ ป้าเหมียวดีจริงๆ ทั้งไส้ทั้งแผ่นต่างก็เตรียมมาให้แล้ว เหลือแค่ห่อก็เสร็จแล้ว หลายปีแล้วที่ไม่ได้ห่อเกี้ยว จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ห่อก็เป็นตอนที่คุณปู่ยังอยู่ ตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ พอคิดถึงคุณปู่ เผลอเหม่อมองไปที่ห้องของเพ็ญนีติ์โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว หากไม่ใช่เพราะคุณปู่ เธอและเขาคงไม่ได้มาอยู่ที่จุดนี้ มีบางคน บางเรื่องราว มันถูกลิขิตไว้แบบที่เราก็เลอะๆเลือนๆ ลองนับๆดู ห่อให้พอกับสี่คนกินก็พอ ถ้าห่อเยอะเกินไปมันก็จะไม่สด เกี้ยวที่เขาห่อจะใส่ไส้เยอะๆ คุณปู่ชอบกินแบบนี้ นรวรเกือบไม่ได้ย้ายของต่างๆจากคฤหาสน์เข้ามาที่นี่แล้ว ของที่วางอยู่เกือบทั้งหมดคือของกิน พอห่อเสร็จจึงเดินไปนั่งที่โซฟามองลูกๆกำลังดูทีวี จับมือเล็กๆของพวกเขาไว้ช่างนุ่มละมุนจริงๆ เขาชอบเด็กสองพี่น้องคู่นี้จริงๆ โทรศัพท์มีข้อความเข้า ไม่รู้ว่าคืนนี้จะได้รับอีกกี่ข้อความ เขาได้ยินเสียงแต่ไม่ได้สนใจไปเปิดดู ครั้งแรกที่ฉลองปีใหม่ร่วมกันกับลูกๆ ไม่ถึงกับตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้ปล่อยแบบสบายๆได้เท่าไหร่ มองเด็กๆกำลังจับจ้องไปที่ทีวี ปุริมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ทั้งหมดคือข้อความอวยพรปีใหม่ ดูแค่ไม่กี่ข้อความก็ไม่อยากดูต่อแล้ว เขายอมที่จะใช้เวลาอยู่กับลูกให้นานๆซักหน่อย ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เขายอมรับว่าคิดถึงพวกเธอมากจริงๆ เพ็ญนีติ์ คุณคือตัวการเลยที่พรากลูกไปจากเขา แต่ขณะที่กำลังจะวางมือถือลง ชื่อของนรวรเด้งขึ้นมา ปรากฏตรงหน้าสายตาพอดี มือกดเปิดอ่านข้อความ :ท่านประทาน คืนนี้ ญาณินทท์ นัดเจอกันกับ นารา เพียงประโยคไม่กี่คำ ทำให้ใจของเขาเต้นตุ๊บๆขึ้น ไม่น่าเชื่อ แต่ตอนนี้ ความจริงกลับปรากฏให้เห็นตรงหน้า จะไม่ให้เชื่อก็ไม่ได้ นาราและญาณินท์ ถ้างั้น เรื่องในตอนนั้นก็จะคลี่คลายได้ง่ายขึ้นแล้ว ญาณินทร์คือบัณฑิตที่เรียนจบที่มหาลัยวิทยาลัยดรัล และก็เป็นอดีตภรรยาของจำรูญ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เขาสามารถหาลายมือของเพ็ญนีต์ได้ หลังจากเห็นข้อความเขายิ่งปักใจเชื่อว่า ฝ้ายพูดถูก ญาณินท์คือผู้หญิงที่ขี้อิจฉาเป็นที่สุด ตอนสมัยเรียนเขายังกล้าลงมือกับเพ็ญนีติ์ ถ้าเกิดว่าเขาไปไม่ทันในตอนนั้น เกรงว่าเพ็ญนีติ์จงจะ... เสียงประทัดด้านนอกดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลบเสียงทีวี “แดดดี้ เมื่อไหร่เราจะได้จุดประทัดกันคะ?” ประทัดที่อยู่ในตู้รวมถึงดอกไม้ไฟ ถูกเด็กแสนซนทั้งสองเจอเข้านานแล้ว อยากจะจุดมันเต็มที มองเห็นสายตาเป็นประกายของเด็กๆ ปุริมมองไปที่ห้องของเพ็ญนีติ์อย่างรู้สึกขาย จริงๆ ในวันเกิดของเธอวันนั้น เขาตั้งใจจะจุดดอกไม้ไฟด้วย แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุสุดวิสัยกับเพ็ญภัทร์์เสียก่อน สุดท้าย.... “แดดดี้ไปดูหม่ามี้หน่อยสิคะ” ทันใดนั้นเขาอยากให้เธอตื่นขึ้นมาในตอนนี้จากนั้นก็จุดพลุด้วยกันพ่อแม่ลูก แบบนี้มันคงจะดีมากๆเลย แต่ว่า พอเขาเดินเข้าไปยังห้องของหญิงสาว เธอยังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้ายังคงระเรื่ออยู่เช่นเดิม ราวดังกับลูกแอบเปิ้ลที่ทำให้คนที่เห็นอยากจะกัดกินสักคำ ลองเรียกปลุกดู “เพ็ญนีต์ ตื่นเร็ว จะจุดดอกไม้ไฟกันแล้ว จะปีใหม่แล้ว” เธอยังคงหลับอยู่ เสียงฟุดฟิดดังขึ้น จากนั้นหลับตาแบบรำคาญพร้อมโบกมือไล่ พลิกตัวหนี และก็นอนหลับต่อ ส่ายหัว ปุริมช่วยห่มผ้ากลับคืนให้กับเธอ หลังแบกถุงประทัดดอกไม้ไฟ มือหนึ่งจับมืออ้อย อีกมือหนึ่งจับมือส้ม เด็กๆกระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจ ตามเขาไปจุดดอกไม้ไฟ เดินไปด้วยก็ร้องเล่นไปด้วย เด็กหญิงทั้งสองไม่เคยจุดมันเลย เคยแค่เห็นคนอื่นจุด และเห็นเขาจุดกันในทีวี “แดดดี้ พลุของบ้านเราก็จะลองขึ้นไปบนฟ้าได้ใช่ไหมคะ?” “ต้องได้สิ” “งั้นเราสามารถถือไว้ในมือแล้วจุดได้ไหมคะ?” “ได้สิคะ ยังใช้มือแกว่งได้ด้วยนะ” จุดในค่ำคืนที่มืดสนิท ช่างสวยงามเป็นพิเศษจริงๆ เพ็ญภัทร์์ ชอบมากเลย แต่ทุกครั้งจะเป็นเขาเองที่จุด ส่วนเพ็ญภัทร์์จะยืนมองเฉยๆ เธอไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ได้แค่ดูไม่กล้าจุดเอง “แดดดี้ เมื่อไหรหม่ามี้จะตื่นขึ้นมาสักทีคะ หนูอยากจะจุดอกไม้ไฟกับหม่ามี้” ปุริม กำลังคิดถึงเรื่องของเพ็ญภัทร์์อยู่นั้นกลับถูกเสียงของอ้อยขัดขึ้นก่อน บางที มันก็สมควรแล้วที่จะถูกขัด ปุริมยิ้ม หยิบโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้กับ อ้อย “นี่ อีกสักหน่อยก็โทรศัพท์หาหม่ามี้ ถ้าเกิดหม่ามี้ตื่นแล้ว หม่ามี้ก็จะขึ้นมา” “ดีจังเลย งั้นหนูจะโทรตอนนี้เลย” ขึ้นมาถึงดาดฟ้าชั้นบนแล้ว อ้อยไม่รีบจุมันแต่กลับรีบโทรปลุกหม่ามี้มากกว่า แต่ว่า เมื่สักครู่เขาพึ่งจะเรียกอยู่นานไม่ใช่หรอ? ยืนอยู่บนดาดฟ้า สามารถมองเห็นทั่วทั้งเมืองดรัลได้อย่างสุดลูกหูลูกตา ประทัดและดอกไม้ไฟจากฝั่งตรงข้ามดังขึ้น แบบสะเทือนฟ้าสะเทือนดินอย่างงั้นเลย มันสั่นสะเทือน และสวยงามมากจริงๆ หยิบดอกไม้ไฟอันใหญ่ออกมา ในคู่มือบอกว่ามีทั้งหมดหนึ่งร้อยดอก จุดไฟ จากนั้นพาเด็กๆเดินออกมาไม่กี่ก้าวเพื่อดู พลุลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ราวกับจะทะลุก้อนเมฆให้ได้ แตกออกเป็นดอกอยู่กลางอากาศช่างสวยงามจริงๆ อ้อยดูไปด้วยก็โทรศัพท์ออกหาเพ็ญนีติ์ไปด้วย ปากยังคงบ่นพึมพำไม่หยุด “หม่ามี้ รีบตื่นขึ้นมา ดอกไม้ไฟข้างนอกนี้สวยงามมากเลย” เพ็ญนีติ์ตื่นขึ้นมาจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นเพราะเสียงปลุกทางโทรจิตของอ้อยหรือว่าเสียงประทัดข้างนอกดังจนทำให้ตื่นขึ้นมา ค่อยๆลืมตาขึ้น รู้สึกปวดหัวมาก เธอดื่มเหล้าใสนั้นมากไปแล้วจริงๆ คลับคล้ายคลับคลาว่ายังมีเสียงดังของโทรศัพท์ ยื่นมือไปหยิบขึ้นมา เป็นชื่อของ ปุริม ถึงตอนนี้เธอพึ่งรู้ตัวว่ากำลังนอนอยู่ที่เตียงในคอนโดของเขา รีบรับสายอย่างรวดเร็ว “ปุริม คุณอยู่ที่ไหน? หาลูกเจอรึยัง?” “หม่ามี้ หนูเอง หนูอ้อยเอง หม่ามี้ตื่นแล้วหรอ รีบขึ้นมาที่ดาดฟ้าข้างบนเร็ว หนูและแดดดี้กำลังจุดพลุกันอยู่ข้างบนนี้” อ้อยตะโกนร้องด้วยความดีใจ คิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะตื่น สาวน้อยอยากให้หม่ามี้มาจุดดอกไม้ไฟด้วยกันอยู่บนนี้ เมื่อสักครู่นี้แดดดี้เองก็แบกถุงประทัดต่างๆมากมายมาเป็นกระสอบ คาดว่าเราจุดกันเป็นสองชั่วโมงก็คงไม่หมด มีเยอะมากจริงๆ “อ้อย แล้วส้มล่ะ?” “พี่ก็อยู่นี่คะ” อ้อยพูดยิ้ม ไม่รู้เลยสักนิดว่า เพ็ญนีติ์พึงจะรู้ว่าหาพวกเธอเจอแล้ว “อ้อย รอหม่ามี้สักครู่นะ หม่ามี้จะรีบไป” เพ็ญนีติ์เกือบจะกระโดดลุกขึ้น หาลูกๆเจอแล้ว แต่ทำไมตอนนี้เธอยังนอนหลับอยู่ ฟ้า ก็กำลังจะสางแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 144 พายุกำลังจะมา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A