บทที่ 147 เขาคอยตามมาหลอกหลอน
1/
บทที่ 147 เขาคอยตามมาหลอกหลอน
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 147 เขาคอยตามมาหลอกหลอน
บทที่ 147 เขาคอยตามมาหลอกหลอน “เพ็ญนีติ์ งั้นรอให้คุณว่างก่อนเราค่อยเจอกันก็ได้ คือ คุณป้าถามถึงคุณด้วย คุณป้าอยากให้คุณพาเด็กๆไปกินข้าวฉลองปีใหม่ด้วยกัน งั้น พรุ่งนี้เธอพาเด็กๆมาหาสิ บอกฉันมาว่าเธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปรับเธอและเด็กๆเอง” เธอปฏิเสธครั้งนี้ไปแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ปฏิเสธอีกคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอนึกถึงคุณผลดาคิ้วของเธอก็อดไม่ได้ที่จะย่นเข้าหากันอย่างลำบากใจ “นภนต์ เราไปเจอกันข้างนอกเถอะ ส่วนจะเป็นที่ไหนให้นายเลือกเลย” ขอแค่ไม่ใช่เป็นที่บ้านของเขา “แต่ว่าคุณป้าบอกว่าอยากเจอเธอ เพ็ญนีติ์ ผลดาจะออกไปพรุ่งนี้ เธอเข้ามาเถอะ” เขาเดาเรื่องที่เธอไม่สบายใจถูก เขาพูดโน้มน้าวขึ้นเสียงต่ำ พอปากเริ่มกำลังจะขยับ เงาดำๆข้างนอกประตูปรากฏขึ้นอีกครั้ง เหมือนเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตู จึงทำให้เธอรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว “โอเค” “รีบเข้านอนนะ แฮปปี้นิวเยียร์” “แฮปปี้นิวเยียร์ มั่งคั่งร่ำรวย” “มั่งคั่งร่ำรวย บาย...” นภนต์กดวางสาย เพ็ญนีติ์ถอนหายใจยาวๆ รีบกดปิดน้ำที่ฝักบัว ขณะผลักเปิดประตูออกมา ปุริม อยู่ด้านนอกจริงๆ “ทำอะไรหน่ะ?” เธอแค่อาบน้ำเฉยๆ แต่เขาทำยังกะเป็นวิญญาณคอยตามหลอกหลอน “อากาศในห้องน้ำมันร้อน ปีเก่าผ่านไปแล้ว ผมกลัวว่าคุณจะไม่เปิดพัดลมระบายอากาศ และจะมาเป็นอะไรอยู่ในคอนโดผม แบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่ “ขอบคุณจ้า” เธอเดินผ่านหน้าเขาตรงเข้าไปยังเตียงในห้อง เอ่ยขึ้นโดยไม่หันหน้ากลับมามอง “ฉันจะนอนแล้ว” เขาจ้องมองมือถือที่เธอถืออยู่ในมือ “ทำไมนานจังเลย?” “อะไรนาน?” เธอคิดว่าเขาว่าเรื่องเธออาบน้ำนาน เขายิ้ม “ไม่มีอะไร ผมออกไปแล้วนะ” จริงๆที่เขาถามก็คือ ทำไมเธอต้องโทรศัพท์หานายนภนต์นั้นนานจังเลย ทั้งๆที่ง่วงเต็มทน แต่ทำไม พอปุริมออกไปแล้ว หลังจากที่เธอปิดประตูแล้ว กลับไม่รู้สึกง่วงแล้ว ล้มตัวลงอยู่นาน สัมผัสได้ว่าทั่วทั้งเตียงเต็มไปด้วยกลิ่นตัวของปุริม นอนไม่หลับ นอนไม่หลับจริงๆ จึงคลุมชุดคลุมแล้วเดินออกไปตรงระเบียง ขณะที่เลื่อนผ้าม่านเปิดออก ท้องฟ้าทั่วทั้งเมืองดรัลสว่างระยิบระยับไปด้วยดอกไม้ไฟงดงามมากจริงๆ มองดูอย่างสงบ ปีใหม่แล้วสินะ เธออายุเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งปีแล้ว เข้าสู่เลขสามแล้ว แต่ก็ยังคงโดดเดี๋ยวอยู่เหมือนเดิม คอนโดเงียบมาก เธอรู้ว่าเด็กๆหลับไปนานแล้ว แล้วปุริมล่ะ? เวลานี้เขาน่าจะเข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหลบนโซฟาไปแล้ว เขาไม่เหมือนเธอ อย่างน้อยตอนที่เขาห่อเกี้ยวอยู่นั้นยังได้หลับอยู่พักหนึ่ง แต่เขาสิ ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้นอนแม้แต่น้อย เหมือนหูได้ยินเสียงกรนของเขาแว่วมา คนนอนไม่หลับอย่างเธอกลับอยากจะดื่มเหล้าอีกแล้ว ขอดื่มเหล้าแดงนิดหน่อย ลูกก็หาเจอแล้วเธอสบายใจขึ้นมากแล้ว เทศกาลแบบนี้ ต้องดื่มสักหน่อย ไม่งั้น จิตใจมันจะควบคุมความหวาดกลัวไม่ได้ สาเหตุเพราะอะไร เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ค่อยแอบย่องไปเปิดประตูห้องเหมือนแมว ห้องรับแขกข้างหน้ามืดสนิทมองไม่เห็นแม้เงาใคร ห่างจากโซฟาตัวนั้นพอควร เธอจึงไม่ได้ยินเสียงกรนของปุริม แต่ว่าเงียบไปแบบนี้แสดงว่าเขาคงหลับไปแล้ว รีบก้าวเท้าเล็กๆเดินมุ่งหน้าไปยังบันได เพียงแค่ถึงบาร์เหล้าเล็กๆชั้นสอง เธอก็จะสามารถทำตามใจไม่กลัวอะไรทั้งนั้น อยากทำอะไรก็ทำได้ ปุริมที่นอนอยู่ห้องรับแขกนั้นไม่ได้ยินแน่นอน บันไดที่หมุนวน ขณะก้าวข้ามทีละขั้นทีละขั้นอยู่นั้น เธอได้ยินเสียมเต้นตุ๊บๆของหัวใจตัวเองอีกครั้ง ขณะยืนอยู่บนบันไดคิดได้ว่าต้องหันมองลงมา เธอเริ่มคุ้นชินกับความมืดแล้ว เธอที่อยู่ในมุมมืดมองเห็นเงาดำๆที่ซ่อนตัวอยู่บนโซฟา น่าจะเป็นปุริม พอกลับหลังหัน เพ็ญนีต์ เดินเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก แพรวเดียวก็ถึงบาร์เหล้านั้นแล้ว ลากเก้าอี้มานั่ง หอบหายใจอย่างแรง เธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองตื่นเต้นระแวง เหมือนนักเรียนสาวที่แอบโดดเรียน แต่ว่า เธอก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรผิดนี่นา หรือว่าไม่จริง? ในที่สุดก็สงบสติอารมณ์ลง นึกขึ้นได้ว่าตอนเดินเข้ามาลืมเปิดไฟ ไม่ได้กลัวว่าที่นี่จะมืด แต่ว่ามองไม่เห็นอะไรเลย เธอหาเหล้าที่เธอต้องการไม่เจอ มือกดเปิดสวิตช์ ไฟหน้าประตูจึงส่องเข้ามาแต่ทันใดนั้น เธอเห็นว่ามีคนอยู่ข้างหน้าหนึ่งคน “อา...” ร้องอย่างตกใจ แต่เสียงยังไม่ทันได้เล็ดลอดออกมาก็มีมือมาปิดปากไว้เสียก่อน “เพ็ญนีติ์ เดี๋ยวเด็กๆก็ตกใจตื่นเพราะคุณหรอก” เสียงของเขาดังขึ้นเหมือนเสียงผู้คุมตอนขึ้นมาจากนรก ทำให้เธอกลัว ถ้ารู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว เธอจะไม่มีทางมาที่นี่แน่นอน แต่ตอนนี้ ถ้าจะถอยก็ไม่ทันแล้ว เขาเอามืออกจากเธอ “อยากดื่มอะไร? ไวน์แดงหรอ ที่นี่ของผมมียี่ห้อแปดสามด้วย” เธอพยักหน้า ก็พูดอะไรไม่ได้แล้วนิ ไม่รู้สึกแม้กระทั่งว่าตัวเองเดินตามก้นเขาไปนั่งที่โต๊ะแล้วโต๊ะไม้กลมสีแดง ประดับด้วยลายดอกไม้สีทอง มองดูแล้วช่างดูหรูหราโอ่อ่าน่าดู ใช่แล้ว สำหรับเขาแล้ว อะไรๆก็ต้องมีราคาอยู่แล้ว แม้กระทั่งเหล้าไวน์ก็เช่นเดียวกัน ไวน์แดงสามแปด บนโลกใบนี้ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่โชคดีได้ดื่มมัน เหล้าดีมีระดับก็เหมือนกับ แก้วที่เขารินให้เธอในวันนี้ก่อนที่ฟ้าจะมืดในตอนนั้น แต่ตอนนั้นจิตใจเธอมัวแต่คิดเรื่องลูกอยู่ แต่ตอนนี้ที่เหลืออยู่คงมีแค่เรื่องของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า บาร์เหล้าเล็กๆนี้ ราวกับเป็นของใจของเขาและเธอที่สื่อถึงกันได้ ทั้งสองคนมาเจอกันโดยมิได้นัดหมาย เธอยกเหล้าขึ้น ค่อยๆกลืนลงลำคอทีละคำ ไม่อยากจะเมา แต่แค่อยากจะดื่มสักหน่อยเท่านั้น “ขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน?” “พึ่งจะมาถึง ม้านั่งยังเย็นๆอยู่เลย คุณดูสิ ยังไม่ทันได้เปิดไฟคุณก็มาแล้ว” เขายิ้ม ระดับมุมปากที่โค้งลงทำให้เขาดูดีมาก ทำให้ดวงตาเธอพราวขึ้นชั่วขณะ ค่อยยกแก้วขึ้นดื่มต่อ ลนลานดื่มไปหนึ่งคำ เห็นว่าเธอไม่ตอบ เขาจึงเอ่ยขึ้นต่อ “นอนไม่หลับหรอ?” “ฉันไม่ชินกับเตียง ดังนั้น พรุ่งนี้ฉันต้องกลับบ้าน” ถึงตอนนี้ การที่เธอจะกลับบ้านมันก็เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว “ได้ แล้วแต่คุณเลย เพียงแค่คุณไม่หายตัวไปก็พอแล้ว” เขายอมง่ายๆอย่างนี้จริงหรอ “เหอะๆ อ้อยและส้มรู้ว่าคุณรักพวกเขามากขนาดนี้ พวกเขาต้องดีใจมากๆแน่ๆ” เขาวางแก้วเหล้าในมือลงสายตาจ้องไปที่เขา จ้องอยู่นานโดยไม่พูดอะไร มองจนเธอเริ่มทำอะไรไม่ถูก “ปุริม เลิกมองฉันแบบนี้ได้แล้ว มองอย่างกับตกหลุมรักฉันแล้วอย่างงั้นแหละ ปุริม ฉันมีความจริงบางอย่างจะบอกคุณ คุณอยากฟังไหม” เธอส่งยิ้มแบบมีเลศนัยให้กับเขา หลังจากได้อาบน้ำแล้ว เธอก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว “คุณพูดมาสิ” ยังคงขมวดคิ้วจ้องมองเธอต่อ ราวกับว่าใบหน้าของเธอมีดอกไม้อยู่จริงๆ เขาวางข้อศอกตั้งลงบนโต๊ะ ขยับใบหน้าเข้าใกล้เขา ระยะห่างของทั้งสองใกล้ชิดกันมาก จ้องมองที่ดวงตาของเขา เธอยิ้มและเอ่ยขึ้น :”คุณพูดสิ ว่าเมื่อสักครู่คุณเห็นเป็นภาพซ้อนของเพ็ญภัทร์์อีกคนหนึ่งใช่ไหม?” เขาใช้เธอเป็นเงาอีกแล้ว เธอไม่ได้โง่นะ มือที่ถือเเก้วอยู่สั่นเล็กน้อย ถ้าหากเธอไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้าบาร์เหล้ามาจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้คิดถึงเพ็ญภัทร์์เลยจริงๆ สายตาจ้องไปที่โทรศัพท์บนโต๊ะ เขาส่ายหัวเบาๆ จากนั้นก็เปลี่ยนกลับมายิ้มเหมือนเดิม “เพ็ญนีติ์ คุณกำลังหึง ใช่ไม่ใช่?” มือข้างนั้นยังคงค้ำอยู่ที่โต๊ะไม่ขยับ แต่ว่า มืออีกข้างที่ถือแก้วเหล้าอยู่เริ่มมีการเคลื่อนไหว มองกลับไปที่ดวงตาของเขา ชั่วพริบตาเดียวเธอยกแก้วเหล้าที่เหลืออยู่เทลงบนหัวของเขาโดยไม่ให้เหลือสักหยด กลิ่นเหล้าคลุ้ง ไหลหยดลง “ปุริม คุณหลงตัวเองเกินไปแล้ว” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินออกไป หมดอารมณ์ดื่มเหล้าเลย ชายหนุ่มนั่งพิงเก้าอี้อยู่เงียบๆ เขายังคงถือแก้วเหล้าไว้ในมืออยู่ท่าเดิม มองแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินจากไป สายตาเขาจ้องตามจนกระทั่งนาที่ที่ประตูปิดลง หลงรักบ้างแล้วจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าใคร.... “หม่ามี๊ วันนี้พวกเราจะไปไหนกันคะ?” เพ็ญนีติ์เข้าไปหาอ้อยและส้มแต่เช้าตรู่ ปุริมช่างรอบคอบจริงๆ เตรียมให้ทั้งชุดของเธอและเด็กๆ เขาช่างมีอำนาจนัก เพียงแค่โทรศัพท์ไป จะมีคนมาส่งในทุกอย่างที่เขาต้องการ ชุดของเด็กๆเป็นชุดกระโปรงสีชมพู ปักลายดอกไม้รอบๆ พอใส่เขาไปแล้วยิ่งทำให้เด็กๆดูสวยราวกับตุ๊กตา สวยงามจริงๆ ปีใหม่แล้วใส่ชุดใหม่นี้ออกไปข้างนอก คงจะดึงดูดสายตาผู้คนน่าดู และเธอก็ใส่ชุดที่ยั่วยวนสายตาผู้คนเช่นเดียวกัน เสื้อคลุมยาวสีม่วงอ่อน แล๊กกิ้งขายาวสีดำ บวกกับรองเท้าบู๊ทที่สีเดียวกันเข้าคู่กับชุดพอดี ใส่เข้าไปแล้วดูสง่างามเหลือเกิน นอกจากโชว์เพียงแค่คออันขาวสวยนวลของเธอแล้ว ส่วนอื่นไม่ได้โชว์ออกมาแม้แต่น้อยนิด ผมยาวสวยถูกมัดรวมไว้ ยังคงตรงสวยเหมือนเมื่อก่อน “ไปกันเถอะ วันนี้เราจะไปช๊อปปิ้งกัน และก็กลับไปที่บ้านกัน เมื่อวานก็ไม่ได้กลับกันทั้งคืนแล้วนี่นา” “โอเคโอเค แต่ว่า แดดดี๊ล่ะคะ?” “แดดดี๊ก็อยู่ที่นี่ไงคะ” เธอเอ่ยขึ้น “ทำไมละคะ? แดดดี๊อยู่คนเดียวมันโดดเดี๋ยวนะคะ พวกเราจะให้แดดดี๊ไปด้วย” อ้อยงอแงแล้ว แต่ในแววตาของเพ็ญนีติ์นั้นแน่วแน่ ทั้งหมดนี้เป็นแผนที่ส้มและอ้อยแอบหนีออกจากบ้านมา ครอบครัวเราสี่คนจะฉลองปีใหม่จะต้องอยู่ด้วยกันให้ครบ ในขณะที่เพ็ญนีติ์กำลังจะตอบลูก ปุริมผลักประตูเปิดเข้ามา “คุณหญิงทั้งหลายแต่งตัวเสร็จหรือยังเอ่ย คนขับรถรอนานจนรอไม่ไหวแล้ว” อ้อยริมตรงดิ่งไปที่เขา หยุดอยู่ตรงหน้าจากนั้นจับกระโปรงขยับเท้าหมุนรอบตัวหนึ่งรอบ นานแล้วที่ไม่ได้ใส่กระโปรงสวยๆแบบนี้ เธอมีความสุขสุดๆ “สวยไหมคะ แดดดี๊?” “สวยมาก เหมาะกับลูกมากๆเลย” โชคดีที่ในคอนโดยังมีชุดของอ้อยและส้มไว้ เขากลัวว่าถ้าเกิดในตอนที่หาเด็กๆเจอแบบกะทันหันนั้น แล้วจะไม่มีชุดให้ลูกเปลี่ยนตอนอาบน้ำ ดังนั้นในทุกๆช่วงฤดูเขาจะซื้อเตรียมไว้ ส่วนสัดส่วนขนาดก็ใช้การคาดคะเนเอา คิดไม่ถึงว่ามันจะพอดีขนาดนี้ “ชุดของหม่ามี้ก็สวยค่ะ แดดดี๊พวกเราจะออกไปแล้ว แดดดี๊จะไปด้วยไหมคะ?” “แดดดี๊เป็นคนขับรถ ก็ทำหน้าที่แค่ขับรถสิคะ” เขายิ้ม ใบหน้าเต็มไปด้วยความอบอุ่น ทำให้คนไม่กล้าแม้แต่ปฏิเสธ อีกอย่างส้มและอ้อยต่างก็อยู่ตรงหน้า ไม่เคยเห็นผู้ชายที่ถือดีขนาดนี้ ใครบอกกันว่าจะให้เป็นคนขับรถ “อ้อย มานี่มาลูก พวกเราจะไปหาพ่อบุญธรรม ไม่รบกวนแดดดี๊นะคะ แดดดี๊งานยุ่ง แดดดี๊มีงานส่วนตัวที่ต้องทำ” ยังมีเพ็ญภัทร์์ด้วย เธอรู้ดีว่าเขาไม่เคยลืมเธอเลย ปุริมเงยหน้าขึ้นขยิบตาให้เธอ ราวกับกำลังพูดว่า : คุณกำลังหึงอยู่หรอ? “ไม่รบกวนอะไรเลย วันนี้แดดดี๊ว่าง ประชุมอะไรต่างๆย้ายไปวันอื่นหมดแล้ว ดังนั้น อ้อยคะส้มคะ ให้แดดดี๊พาลูกๆไปเที่ยว ดีไหมคะ?” “ดีค่ะดีค่ะ หม่ามี๊ ให้แดดดี๊ไปส่งพวกเราเถอะนะคะ” อ้อยและส้มเขย่าแขนขอร้องของเพ็ญนีติ์
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 147 เขาคอยตามมาหลอกหลอน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A