บทที่ 135 ต้องจากกันแล้วจริงๆ
1/
บทที่ 135 ต้องจากกันแล้วจริงๆ
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 135 ต้องจากกันแล้วจริงๆ
บทที่ 135 ต้องจากกันแล้วจริงๆ ข้างนอกรถ ทันใดนั้นก็มีเสียงน้ำดังขึ้น รถเพิ่งขับผ่านสายตาจับจ้องไปยังน้ำพุตรงกลางนั้น เธอสะบัดมือออก ไอโฟนสีแดงไวน์เครื่องนั้นก็ตกไปยังใจกลางน้ำพุ ภายใต้ไฟสีขาวทันใดนั้นก็เห็นหยดน้ำกระเด็นขึ้นมา แค่ชั่วพริบตา แต่มันทำให้เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจน ปุริม ลาก่อน ครั้งนี้ เธอจะไปแล้วจริงๆ ดีที่สุดก็อย่าได้เจอกันอีกเลย อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟ นั่นคือหนี้ที่เขาติดหนี้เธอและเด็กๆ แต่เธอไม่อยากให้เขาชดใช้มาอีก ที่เขาให้เธอมา เธอไม่เอามาแม้แต่ชิ้นเดียว เธอขอคืนเขาทั้งหมด “คุณครับ สามีของคุณคงไม่ใช่ว่าเขา... เขา...” ชายคนนั้นเหมือนจะเริ่มจับใจความได้ ดูมีความไม่สบายใจจนต้องกล่าวต่อ: “มันอาจจะแค่การเล่นสนุกกันเท่านั้นก็ได้ ให้โอกาสเขาอีกสักครั้งเถอะ จะไม่สนคนอื่นก็ต้องสนลูกทั้งสองของคุณนะ” เป็นคำแนะนำที่จริงใจมาก แนะนำให้สามีภรรยากลับมารักกันไม่ใช่หนีจากกัน เขาไม่ได้พูดผิด เพียงแค่ปุริมไม่ใช่สามีเธอ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่ ตั้งแต่หัวจรดเท่านั้นเธอเป็นแค่หมากที่มีประโยชน์ต่อเขาก็เท่านั้น “ขอบคุณค่ะ ฉันจะลองพิจารณาอีกครั้งดู” แค่พิจารณาถึงผลลัพธ์ที่ตาม ก็คือเธอหนีไปได้แล้วนั่นแหละ “ที่โทรมาเมื่อครู่คงเป็นสามีของคุณ ผมคิดว่า เขาคงยังใส่ใจคุณอยู่นะ” ชายคนนั้นยังคงพยายามแนะนำแบบอ้ำอึ้ง เป็นคนดีจริงๆ “ฮะฮะ ก่อนที่ฉันจะจากมาก็โทรหาเขาแล้วค่ะ” “อ๋อ” คนขับหักพวงมาลัยหนึ่งรอบ “เขารู้ว่าคุณจะจากมาหรือ” คิดว่ารู้นะ เขาเดาได้ตั้งนานแล้วว่าเธอจะหนี แต่คงไม่คิดว่าเขาที่ให้บอดี้การ์ดมากมายมาจับตามองเธอขนาดนั้น เธอยังสามารถหนีมาได้ “เปล่าค่ะ เขากำลังอยู่กับผู้หญิงในดวงใจของเขาพอดี” คือเพ็ญภัทร์ บางเวลาเธอก็คิดว่าลูกในท้องของเพ็ญภัทร์ก็เป็นของปุริมนั่นแหละ ไม่เช่นนั้น เขาจะตื่นตระหนกเช่นนั้นทำไม เขาคงไม่ใช่เพื่อลูกของจิณณะเลยตื่นตระหนกขนาดนั้นหรอก คำถามนี้ก็อยู่ในใจของเธอมาโดยตลอด และทั้งชีวิตนี้เธอคงไม่ได้ถามมัน เป็นอิสระแล้ว ความรู้สึกของการเป็นอิสระมันดีจริงๆ แต่ราคาของมันช่างสูงนัก ตั้งแต่นั้นมา เธอไม่สามารถปรากฏตัวในเมืองดรัลในอย่างตามใจเลย “เฮ้อ...” คนขับถอนหายใจออกมา แล้วขับรถต่อ “คุณจะไปไหน ให้ผมไปส่งคุณเถอะ พาเด็กไปด้วยสองคนแบบนี้มันไม่ง่ายหรอกนะ” ชายคนนั้นช่างเห็นอกเห็นใจ บนโลกนี้ยังมีคนดีดีอีกมาก เมื่อรู้เช่นนี้ทันใดนั้น ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา ดวงตามองออกไปนอกรถ “แบบนั้นก็ขอรบกวนคุณด้วยนะคะ ผ่านถนนไปอีกสองเส้นแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้วค่ะ” ไม่ใช่ว่าไม่อยากเรียกรถ แต่ต้องอุ้มเด็กทั้งสองไปด้วยมันลำบากมากจริงๆ อุ้มไปพร้อมกันเธอคงเหนื่อยจนจะตาย แต่ต้องวางลงที่พื้น พวกเธอยังหลับสนิทกันอยู่เลย “ได้” คนขับตอบรับ เขาถือว่าเป็นคนจิตใจดีเลยทีเดียว ในใจรู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออก ต่อจากนี้เธอจะไปคนดีมากขึ้นแล้วกัน ถึงแล้ว รถจอดลง ชายคนนั้นกล่าว: “มีอะไรให้ผมช่วยไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเรียกเพื่อนมารับค่ะ” ความจริงแล้วไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นเจ้าของบ้านต่างหากชายคนนั้นโบกมือลาเธอ มองเธอและลูกๆด้วยความเห็นอกเห็นใจ ก่อนจะขับรถจากไป มองไปยังรถที่จากไป เพ็ญนีติ์ถึงได้รู้สึกขึ้น เด็กๆหลับกันลึกจัง เธออุ้มคนเดียวทั้งสองคนอย่างนี้ก็เริ่มไม่ไหวแล้วเช่นกัน แถมเธอยังไม่ได้โทรศัพท์เลยด้วย คิดหนักอยู่ครู่ เธอก็เรียกเบาๆ “อ้อย ส้ม ตื่นลูก” บางทีปริมาณของยานั้นไม่ได้เยอะมาก แต่อาจเพราะโดนโยนอยู่สองสามครั้งด้วย เด็กน้อยทั้งสองเมื่อโดนเธอปลุกครั้งสองครั้งก็ตื่นขึ้น กะพริบตาปริบๆ แสงไฟข้างทางที่สลัวส่องมายังที่พวกเธอทั้งสองจนดูเหมือนกับหมีแพนด้าตัวเล็กที่น่ารักๆ “หม่ามี๊ พวกเราอยู่ที่ไหนกันหรือคะ” เมื่อเห็นว่าอยู่ข้างนอก ใบหน้าเล็กทั้งสองก็ดูงุนงง “อ่า รอข้างนอกก่อนนะคะ หม่ามี๊โทรศัพท์สักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาบอกพวกหนูนะว่าจะไปไหน” “ได้ค่ะ” เด็กน้อยทั้งสองตื่นเต็มตาแล้ว ไม่สนว่าจะอยู่ที่ไหน แค่มีหม่ามี๊อยู่ด้วยก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพ็ญนีติ์โทรออกหาเจ้าของบ้าน “คุณน้าคะ ฉันถึงแล้วค่ะ อยู่ข้างล่างตึกนี่” “รอฉันสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันให้คนรักของฉันขับรถสามล้อไปรับ” “ขอบคุณค่ะ” สามีของเจ้าของบ้านนั้นเป็นคนที่เชื่อถือได้ที่เดียว และรถสามล้อก็ขับมาถึงอย่างราวเร็ว บนรถนั้นมีของที่ซื้อไว้ช่วงตอนท้องที่เธอยังอยู่ที่บ้านเช่านั้น ยังมีเสื้อผ้าเด็กเล็กอีกด้วย แต่เดิมของใช้พวกนั้นคงไม่ได้ใช้แล้ว ดูไม่น่าจะใช้ได้แล้วด้วย และบางอย่างก็ใช้มาหกปีแล้ว คงต้องเปลี่ยนได้ล่ะ “คุณเพ็ญนีติ์ จะให้ไปส่งที่ไหนครับ” เธอเริ่มมึนงง “ไปข้างหน้าก่อนแล้วกันค่ะ” เธอเองก็ไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนเหมือนกัน เพียงแค่ไปให้ไกลจากปุริมยิ่งไกลยิ่งดี “ได้ครับ เดี๋ยวผมไปส่งพวกคุณเอง” รถสามล้อคันเล็กๆ มีแม่และเด็กนั่งจนสามคนในยามดึกนี้ขับไม่ข้างหน้าอย่างเรื่อยๆ บ้านของเจ้าของบ้านนั้นห่างจากเธอที่เช่าไปไม่มาก ห่างแค่ถนนเส้นเดียวเท่านั้น เมื่อถึงปากทางเข้า สายตาของเธอเหลือบมองไปยังบ้านที่เช่าในเมื่อก่อน ในตอนที่รถสามล้อค่อยขับผ่านนั้น เธอเหมือนเห็นรถคันสีดำไม่ทราบรุ่นจอดอยู่ใต้ตึกตรงนั้น แต่รู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก จนทำให้ใจเธอเต้นรัว แต่แล้ว เมื่อรถสามล้อขับผ่าน ตรงหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นบรรยากาศของตัวเมืองไปแล้ว ไม่ได้มีเงาของรถคันนั้นอีก บางทีเธอคงตาฝาด “หม่ามี๊ พวกเรากำลังจะไปไหนหรือคะ” “หม่ามี๊ แล้วแด๊ดดี๊ล่ะ”“หม่ามี๊ หนูอยากกลับบ้าน” “หม่ามี๊ หนูง่วง” “หม่ามี๊ ท้องฟ้ามืดจัง” ..... เด็กๆเองก็รู้สึกกลัว จนขยับเข้ามาใกล้เธอ แต่ใจของเธอนั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว “หม่ามี๊จะพาพวกหนูไปเที่ยวที่ที่หนึ่ง หม่ามี๊อยู่กับพวกหนูอยู่ตลอดนะคะ” ส้มผละตัวออกจากอ้อมกอดของเธอ ดวงตาคู่โตสีนิลนั้นจดจ้องมาที่เธอ “หม่ามี๊ทะเลาะกับแด๊ดดี๊ใช่ไหมคะ” เธอส่ายหน้า เปล่าค่ะ” “หม่ามี๊ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ทำไมแด๊ดดี๊ถึงไม่กลับบ้านเลย” ความรู้สึกของเด็กๆนั้นไวอยู่แล้ว แค่ถามมาไม่กี่คำเท่านั้นเธอก็อับจนด้วยคำพูดทันที ตอนที่กำลังจะพูด โทรศัพท์ของสามีเจ้าบ้านที่กำลังขับรถสามล้ออยู่ก็ดังขึ้นมา เสียงที่ดังขึ้นมาในยามค่ำคืนอย่างนี้มันช่างน่าแปลก ชายหนุ่มขับรถมือเดียวอีกมือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ที่รักมีเรื่องอะไร” หนังตาของเพ็ญนีติ์กระตุก ทันใดนั้นรถสีดำที่เพิ่งเห็นก็ฉายขึ้นมาในหัว เธอยืนมือไปแย่งโทรศัพท์ของชายหนุ่ม ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงจากปลายสายกล่าวว่า “มีคนมาตามหาตัวผู้หญิงคนนั้น หากช่วยเขาตามหาจนเจอเขาจะมอบเงินให้พวกเรา คุณลองหาทาง...” “ปิ๊ป” เพ็ญนีติ์ปิดโทรศัพท์ของชายหนุ่มทันที “ไอ๋หยา แบตหมดแล้ว ฉันอยากลงแล้วค่ะ คุณจอดลงตรงนี้เถอะ” ถนนตรงนี้ใหญ่มาก รถผ่านไปมาเยอะแยะ เธอเองก็เพิ่งเห็นว่ามีรถแท็กซี่ขับผ่านไป “ตรงนี้ใกล้กับที่คุณจะไปอย่างนั้นหรือ หากไม่ใกล้ คุณจะพาลูกคุณและของลงตรงนี้ทำไม” ชายหนุ่มไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ถามอย่างไม่เข้าใจก็เท่านั้น “อ๋อ เพื่อนของฉันส่งข้อความมาค่ะ เขาบอกจะมารับฉัน แบบนั้นฉันไม่รบกวนคุณ แล้วให้เขาไปส่งฉันดีกว่าค่ะ” “ได้ครับ” ชายหนุ่มจอดรถลง แล้ววางกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่สองลูกนั้นลงข้างทาง และมอบซองสีชมพูเล็กๆให้เธอ “นี่ให้คุณครับ ภรรยาผมบอกว่าให้มอบมันกับคุณ” ฉันยื่นมือไปรับ ภรรยาเขาต้องการขายเธอให้กับปุริมเพื่อเอาเงินเป็นแน่ แต่สุดท้ายก็ยังคืนเงินค่าห้องให้กับเธอ เธอกำลังร้อนใจ ดังนั้นจึงรับมันมา “ขอบคุณค่ะ” จดจำเพียงความดีของคนอื่น แล้วลืมเรื่องแย่ๆของคนอื่นไปดีกว่า “โทรศัพท์คุณค่ะ” “เช่นนั้นผมไปก่อน” ชายหนุ่มกล่าว ขับรถสามล้อออกไปอย่างไว เพราะว่ารถว่างแล้ว เขาจึงขับเร็วขึ้น ไม่รู้เลยสักนิดว่าโทรศัพท์โดนเพ็ญนีติ์ปิดเครื่องไป ในใจรู้สึกขอโทษ แต่เธอไม่มีเวลาให้คิดมากขนาดนั้น รีบเรียกรถมาหนึ่งคัน กลางคืนผู้โดยสารน้อยมาก เพียงแค่โบกมือก็เรียกรถได้แล้ว คนขับลงมาช่วยเธอขนของขึ้นรถ ตอนที่รถออกตัว ใจเธอก็เริ่มเบาลง ครั้งนี้ คงถือว่าเป็นการหนีจากปุริมได้สักที รถแท็กซี่มาส่งเพ็ญนีติ์แถวชานเมือง มองออกไปนอกรถ ที่นี่เหมือนกับสลัมในเมืองดรัล แต่ไมได้คึกคักเหมือนกับในตัวเมือง เมื่อลงจากรถ ฟ้าก็ใกล้สว่างแล้ว เธอเห็นคำว่าให้เช่าสองคำนี้ตัวใหญ่ๆถึงได้รีบลง แค่เคาะประตู ก็มีคนตอบมาโดยเร็ว ”ใครคะ” “มาเช่าบ้านค่ะ” เธอตะโกนเสียงแผ่ว ไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจเช่นนี้มาก่อนเลยประตูเปิดแล้ว หนึ่งประหนึ่งลานบ้าน ในลานมีบ้านอีกสามหลัง เมื่อมองเข้าไปรอบด้านดูสะอาดสะอ้านไปหมด เป็นแม่บ้านอายุประมาณสามสิบกว่าๆที่มาเปิดประตู ใส่ชุดนอนที่ดูสบายๆ และดูเหมือนจะยังไม่ตื่นดีด้วย ใช้สายตาสำรวจเธอและลูกๆอยู่รอบหนึ่ง ”คุณต้องการจะเช่าบ้านหรือ” “ค่ะ” เธอแย้มยิ้ม นั่นเป็นการแสดงออกเพื่อให้ดูอ่อนโยน ในความจริงแล้วไม่มีอะไรที่น่ากลัวสักนิด เธอไม่ใช่แค่หนีมาจากปุริม แต่ยังขโมยหนังสือรับรองของเธอกลับมาด้วย เขาน่าจะเอาไปตอนที่เธออยู่ที่บ้านตระกูลศาสตร์พงษ์ แต่เธอก็สามารถทำมันกลับมาได้ อย่าได้คิดว่าเรื่องลับที่เขาทำ เพียงแค่เธอใช้ใจคิดก็รู้ได้แล้วว่าเขาเอาของไปวางไว้ที่ไหน ฮะฮะ ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเอาความสนใจไปไว้ที่ตัวเพ็ญภัทร์ทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงคิดไม่ถึงว่าเธอจะหลบรอดสายตามากมายนั้นแล้วหนีไปได้ และยังพาอ้อยและส้มมาอีกด้วย แต่เธอ ก็หนีมาแล้ว หนีมาแบบราบรื่นและสงบสุดๆเพียงคนเดียว ก็สามารถเคลื่อนฟ้าได้เหมือนกัน ปุริม พวกเขาเสร็จเธอแล้ว “แค่พวกคุณสามคนหรือ” “ใช่ค่ะ ลูกๆของฉันทั้งสองเป็นเด็กน่ารักนะคะ พวกเธอไม่สร้างความรำคาญให้แก่คุณแน่นอน” กลัวว่าเจ้าของบ้านคนใหม่จะไม่เห็นด้วย เธอจึงต้องรีบพูดไว้ก่อน “เด็กน้อยอายุห้าขวบกันแล้วใช่ไหม” “ใช่แล้วค่ะคุณน้า หนูกับน้องอายุเท่ากัน เป็นแฝดกันค่ะ ปีนี้ห้าขวบแล้ว” ส้มตอบกลับย่างมีมรรยาท เพียงครู่เดียวเจ้าของบ้านก็เริ่มหลงรักเธอ ยื่นมือมาลูบหัวเธอเบาๆ “เด็กน้อยช่างน่ารักจริงๆ หนึ่งเดือนสองร้อยหยวน มีหนึ่งห้อง ถ้าเห็นด้วยก็เข้ามาอยู่ได้เลยค่ะ” เพ็ญนีติ์พยักหน้า “ค่ะ ฉันเห็นด้วย” อยู่แถวนี้ แล้วยังเป็นบ้านชั้นเดียว ก็คงถูกตามราคาโดยธรรมชาติแล้ว แต่ยังโชคดีที่มันถูกถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นเธอคงจ่ายค่าเช่าไม่ไหว และก็ตกลงก็ตามนี้ เธอรู้เธอออกไปไหนไม่ได้ ปุริมจะต้องตามหาเธอแบบคว่ำฟ้าพลิกแผ่นดินแน่ น้อยที่สุดก็คงไม่หยุดภายในสองเดือนนี้ เธอรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร นั่นก็คืออ้อยและส้ม เขาไม่ได้ชอบเธอ เขาเพียงวางเธอในตำแหน่งหมากที่มีประโยชน์เท่านั้น แต่เขาก็ยอมรับลูกของเขาไว้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 135 ต้องจากกันแล้วจริงๆ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A