บทที่ 136 ธุรกิจร้านค้าออนไลน์
1/
บทที่ 136 ธุรกิจร้านค้าออนไลน์
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 136 ธุรกิจร้านค้าออนไลน์
บทที่ 136 ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ เมื่อจากมา ก็ไม่คิดจะกลับไป ธรรมชาติคงไม่ยอมให้เขาได้หาเจอเช่นกัน เธอเห็นจากในโทรทัศน์ว่าในกี่วันนี้ เขาไม่อยู่ และเธอก็หาวิธีแก้ปัญหาชีวิตของตัวเองได้แล้ว ไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม แต่ว่าทุกเรื่องนั้นก็ต้องลองกันทั้งนั้น ถ้าไม่ลองจะพบเจอกับความสำเร็จได้อย่างไร เพราะว่ามันไม่ลอยมาตามสายลมเป็นแน่ ต้องหาเงิน และต้องดูแลเด็กๆทั้งสองไปด้วย เธอต้องหาวิธีที่จะได้ผลดีที่สุด เงินสำรองในมือนั้นได้ถูกนำไปซื้อคอมพิวเตอร์มือสองแล้ว ไม่ต้องคุณสมบัติที่ดีมาก แค่เข้าอินเทอร์เน็ตและโต้ตอบสนทนาได้ก็พอ และมือถืออีกหนึ่งเครื่อง สองพันหยวน เธอได้เริ่มธุรกิจร้านค้าออนไลน์ของเธอแล้ว ถ่ายรูปของใช้คนท้องที่มีอยู่ แต่ละชิ้นถ่ายออกมาได้สวยทีเดียว แล้วลงในร้านค้าออนไลน์บอกไซส์และกำหนดราคาออกมา เพ็ญนีติ์ยุ่งจนแทบไม่ได้หายใจหายคอ และก็ลืมผู้ชายอย่างปุริมไปได้โดยเร็ว อ้อยและส้มก็เป็นเด็กดี ทุกวันก็จะเล่นอยู่ที่ลานบ้านของเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านนั้นมีลูกชายหนึ่งคน โตอ้อยและส้มไม่กี่ปี เมื่อเล่นด้วยกัน นั่นทำให้เพ็ญนีติ์ลดปัญหาลงไปได้ อยากส่งพวกเธอไปโรงเรียนอนุบาลเหมือนกัน แต่เธอรู้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงต้นลม ดังนั้นจึงได้แค่ขอโทษอ้อยและส้มเท่านั้น แต่ถ้าหากมีเวลา เธอก็จะไปเล่นกับเด็กๆ ทั้งนี้เพ็ญนีติ์เอง ก็เป็นนักเรียนที่ดีของเมืองดรัล ความรู้ในการสอนเด็กน้อยของเธอก็ไม่เลวเหมือนกัน เธอโหลดคาบเรียนของโรงเรียนอนุบาลในอินเทอร์เน็ตมาเยอะแยะ ตอนที่ได้รับคำสั่งซื้อในร้านออนไลน์ครั้งแรก เธอดีใจมาก ในวันนั้นเธอฮัมเพลงทั้งวัน ขายไปหนึ่งชุดเหมือนกับเก็บเงินได้หนึ่งร้อยหยวน ถึงแม้ว่าจะได้กำไรไม่กี่สิบหยวนเท่านั้น แต่ถ้าขายได้เยอะ นั่นก็ได้เงินแล้ว ซื้อปลามาหนึ่งตัว เย็นวันนั้นเธอและเด็กๆต่างช่วยกันทำอาหาร นี่แหละคือชีวิต เธอพอใจมาก ไม่ได้ทานของแพง แต่ก็ได้ความสบายใจ ทุกวันตั้งใจกับการเข้าอินเทอร์เน็ตมาก มีลูกค้าเพิ่มเพื่อนในQQก็คอยส่งรูปสินค้าอย่างใจเย็น ใครคราแรกเธอเพียงแค่อยากได้เงินในการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งเดือนกว่าๆสินค้าที่มีอยู่ก็ถูกขายไปเยอะแล้ว โชคดีว่าเธอยังคงจำช่องทางการนำเข้าของสินค้าได้ เงินที่ขายของออกไปก็คือเงินทุน สั่งของเข้ามาทีละเล็กทีละน้อยเพื่อจำหน่ายอีกครั้ง โดยเร็วก็เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น และเริ่มที่จะคุ้นชินกับชีวิตที่เรียบง่ายเช่นนี้มากขึ้น “หม่ามี๊ แด๊ดดี๊ไม่ต้องการพวกเราแล้วหรือคะ” ทุกวันอ้อยจะมาถามคำถามเช่นนี้ เพ็ญนีติ์ชินแล้ว ปลอบโยนอ้อยด้วยรอยยิ้มหนึ่งที “ไม่ใช่ค่ะ” “แล้วพวกเราจะได้พบแด๊ดดี๊ตอนไหนหรือคะ” “ผ่านช่วงนี้ไปก่อนนะคะ เมื่อถึงเวลาหม่ามี๊จะพาพวกหนูไปหาแด๊ดดี๊ ตอนนี้แด๊ดดี๊ไปต่างประเทศ เขาไม่ได้อยู่เมืองดรัลค่ะ” “ไปต่างประเทศนานแค่ไหนกันคะ นี่มันเหมือนกับแด๊ดดี๊ของวูลฟ์เลย” เด็กๆกำลังต่อความคิดส่งถึงกัน เมื่อก่อนที่แด๊ดดี๊ยังไม่เจอพวกเธอ หม่ามี๊ก็บอกว่าแด๊ดดี๊ไปต่างประเทศ แต่ทีหลังพวกเธอถึงได้มารู้ ว่าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นเลย” “เฮ้อ แด๊ดดี๊ธุระเยอะจริงๆ” เมื่อเห็นใบหน้าที่งุนงงของเด็กๆเพ็ญนีติ์ก็รู้สึกกลัดกลุ้ม คงต้องใช้ประโยคนั้นจริงๆ เมื่อได้โกหกออกไปก็ต้องโกหกครั้งแล้วและครั้งเล่าบางทีอาจจะมากกว่าเมื่อก่อนเสียด้วย ไม่เช่นนั้นจะให้ทำอย่างไรกันล่ะ ถ้าเธอสามารถล้างสมองให้เด็กๆลืมว่าปุริมเป็นแด๊ดดี๊ของพวกเธอได้ก็คงจะดี “หม่ามี๊ หนูอยากไปโรงเรียนอนุบาล” ส้มกล่าวอยู่ข้างๆ เมื่อคำนวณเวลาแล้ว เธอได้ออกมาจากวิลล่าก็ผ่านไปเป็นเดือนๆแล้ว ใกล้จะเป็นช่วงสิ้นปีแล้ว การค้นหาคนของเขาก็คงจะเริ่มอ่อนลงแล้ว “อื้อ ได้ค่ะ รอหม่ามี๊หาโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ใกล้ๆบ้านนี้ได้ก่อนนะคะแล้วจะพาพวกหนูไป” เธอดีต่อพวกเด็กๆอยู่เสมอ แต่พวกเธอเองก็คงอยากได้ความรักจากเพื่อนวัยเดียวบ้างเหมือนกัน “อ้อย หม่ามี๊ หนูรู้อยู่ที่หนึ่ง ต้นน้ำของบ้านเราเมื่อก่อนก็เรียนที่นั่นค่ะ เพียงแค่ตอนนี้ขึ้นชั้นประถมแล้วจึงไม่ได้ไปอีก เครื่องแบบโรงเรียนนั้นดีมากๆ คุณครูก็ตั้งใจสอนกันมากๆเลย” “เช่นนั้นหนูบอกหม่ามี๊หน่อยว่าไปอย่างไร อีกสักพักหม่ามี๊จะพาพวกลูกไปดูสักรอบนะคะ” พูดว่าจะทำก็คือว่า ไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดนเด็กน้อยทั้งสองก่อกวนก็เป็นได้ แค่ต้องมานั่งตอบคำถามทั้งวันก็ปวดหัวแล้ว เมื่อไปดู ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชนขนาดเล็ก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกใดๆก็ครบครันดี เทียบกับโรงเรียนอนุบาลของอ้อยและส้มไม่ได้ แต่ว่าได้ยินจากเพื่อนบ้านใกล้ๆว่าครูที่นี่ดีมาก เธอจึงตัดสินใจให้เด็กๆมาเรียนที่โรงเรียนอนุบาลนี้ จ่ายค่าเทอมเสร็จแล้ว วันนี้ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ของเธอก็ทำให้เธอไม่ได้กินไม่นอนเลยทีเดียว ตกเย็น ก็จัดการกับชุดและรองเท้านักเรียนของเด็กๆ เธอยังคงไม่วางใจ มองพี่น้องสองสาวที่ล้มตัวนอนบนเตียงและห่มผ้าเรียบร้อยแล้ว เพ็ญนีติ์กล่าวอย่างจริงจัง “อ้อย ส้ม หม่ามี๊มีเรื่องต้องบอกกับพวกหนูเรื่องหนึ่ง” ท่าทางเคร่งเครียดของเธอนั้นเป็นอะไรที่เห็นได้ยากมาก ทำให้อ้อยและส้มต่างเบิกตาโต “หม่ามี๊ เรื่องอะไรหรือคะ” “หม่ามี๊หวังว่าตอนที่พวกหนูไปโรงเรียนกันจะไปบอกกับคนอื่นว่าแด๊ดดี๊ของหนูเป็นใคร และห้ามพูดเรื่องในบ้านของพวกเราออกไปเด็ดขาด ได้ไหมคะ” “ทำไมถึงบอกไม่ได้ล่ะ” เพ็ญนีติ์ยังคงหน้าเคร่งไว้ “เมื่อพูดไป พวกหนูก็จะไม่ได้เจอกับหม่ามี๊อีก” เธอตั้งใจพูดให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ ใครจะรู้กันว่าปุริมได้ส่งคนมาลอบตามหาหรือไม่ ดังนั้นเธอต้องระวังเอาไว้ก่อน “ได้ค่ะ พวกเราจะไม่พูด ขอแค่หม่ามี๊ส่งพวกหนูไปโรงเรียนอนุบาลเท่านั้น” “น่ารักค่ะ” ในใจรู้สึกเจ็บปวด เธอรู้สึกเหมือนตัวเองทำเรื่องที่ไม่ดีลงไปแล้วต้องหนีมาโดยที่ไม่กล้าพบหน้าใคร แต่เธอ ทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ เด็กน้อยทั้งสองต่างหลับไปอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยต้องหลับอย่างเพียงพอ แบบนั้นตัวจะได้สูงขึ้น ยังคงไม่วางใจ จึงนั่งมองพวกเธอหลับอยู่ข้างเตียงอยู่นาน เธอถึงได้เอนตัวลง แต่อย่างไรก็นอนไม่หลับ ทุกวันนี้ เธอไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ไม่ได้ดูโทรทัศน์ด้วย แต่เพราะโซเชียลถึงได้รู้ข่าวคราวของปุริม เขาสุขสบายมาก ข้างกายนั้นเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น มากจนเธอจำชื่อผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ และเพจอย่างเป็นทางการของบริษัททัดธนกรุ๊ปจำกัดเมื่อไม่นานมานี้ก็มีชื่อของผู้หญิงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน: ทฤนห์ ผู้หญิงที่โดนปุริมไล่เมื่อคราวนั้นกลับมาทำงานที่บริษัททัดธนกรุ๊ปจำกัดอีกครั้ง แต่ว่าข่าวคราวระหว่างเขาและเพ็ญภัทร์กลับไม่มีเลย เพ็ญภัทร์ยังคงรักษาตัว ที่โดนถ่ายอยู่บ่อยครั้งก็คงเป็นตอนที่เธอและเมนิลาออกไปเดินเล่นกัน ท้องของเธอเริ่มนูนออกแล้ว อีกไม่นานก็คงจะคลอดแล้ว ช่วงเช้าก็มาถึง เด็กๆอาบน้ำ เธอก็ทำอาหารเช้า โจ๊กข้าวฟ่างสีเหลืองสุดหอม ธัญพืชนั้นเป็นเมล็ดพืชที่ดีต่อการร่างกายที่สุด ดีกว่าพวกอาหารเสริมเป็นไหนๆ ดังนั้นเมื่อชีวิตดีขึ้น เธอจึงได้เปลี่ยนวิธีทำอาหารให้กับเด็กไข่เค็มต้มนั้น เธอก็ต้มเอง ตอนที่ต้มก็เติมเหล้านิดหน่อย ไข่แดงจึงมีความเยิ้มและหอมมาก อร่อยมากจริงๆ หนึ่งคนโจ๊กหนึ่งชามไข่เค็มหนึ่งฟอง และผักดองหนึ่งถ้วย เด็กทั้งสองทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่ดูมูมมามอยู่ในที เธอมองอย่างขบขัน รู้ว่าพวกเธออยากไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว เมื่อทานคำสุดท้ายจนเกลี้ยง ก็รีบลุกขึ้นยืนทันที “หม่ามี๊ ไปกันเถอะ” ส่งพวกเธอไป คุณครูก็ใจดีมาก โรงเรียนอนุบาลแบบปิด ทำให้เธอรู้สึกวางใจ ในอดีตยังไม่ได้รู้ว่าเป็นใครกันที่จะทำร้ายอ้อยและส้ม เธออยากไปตรวจสอบ แต่เธอไม่สามารถปล่อยวางเด็กทั้งสองไปได้ วันนี้ เด็กๆไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว ในใจของเธอจึงกลับมาคิดถึงเรื่องนั้นอีกครั้ง อยากจะตรวจสอบให้ชัดเจนไป ไม่ได้ทำเพื่อให้คนคนนั้นเขาสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ทำเพื่อความสบายใจในภายภาคหน้า รู้หน้าค่าตาไว้ จะได้ไม่ถูกคนเอาไปขายเพื่อเงินอีก เมื่อออกจากโรงเรียนอนุบาล นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เดินคนเดียวแบบนี้ ไม่มีเด็กน้อยทั้งสองมาจูงมือซ้ายขวา รู้สึกไม่คุ้นชินขึ้นมาทันใด ความเหน็บหนาวนี้ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว หันหลังกลับ และจ้องมองไปทางโรงเรียนอนุบาลอีกครั้ง ลูกๆของเธอต่างก็โตกันแล้ว วันหนึ่งก็คงต้องมีช่วงเวลาที่หายไปจากระยะสายตาของเธอ แบบนั้นก็ดี เธอจะได้ไปตรวจสอบคนคนนั้น บางทีการตัดสินใจในอดีตนั้น นานไปก็ยังคงไม่ลืม มือถือในมือเองก็เป็นของมือสองที่ซื้อมาจากในตลาด ราคาก็อย่างถูก คุณสมบัติง่ายๆก็ใช้ได้แล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าในเมืองดรัล ทุกวันก็ได้ข่าวของปุริมและนภนต์อย่างชัดเจน แต่เธอก็ครึ่งปีแล้วที่ไม่ได้ติดต่อพวกเขาไปเลย ปัทมาล่ะ ไม่รู้ว่ายังคงคิดถึงเธออยู่หรือไม่ บางที ควรโทรไปสักครั้ง อย่างน้อยที่สุดก็ไถ่ถามกันสักคำ การจากไปอย่างนานโดยไร้เหตุผลแบบนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างแย่จริงๆ แต่ว่า เพราะว่าปุริม เธอจึงไม่มีวิธีจริงๆ ไม่อยากใช้โทรศัพท์ของตัวเองโทรไป เพราะว่าเพียงแค่มีคนรู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอ แบบนั้นภายหลังเธอคงได้สูญเสียวันคืนอันสงบสุขไปแน่ๆ วันที่สงบสุขอย่างวันนี้ เธอชอบมันนะ ดูแลตัวเองและได้ดูแลเด็กๆ ช่างมีความสุขจริงๆ โดยประมาณก็ให้เป็นแบบนี้ เธอกับผู้ชาย คงไม่มีวาสนาต่อกัน โอกาสแบบนั้น ไม่สนใจหรอก ในที่ชายเมืองแบบนี้ไม่มีตู้โทรศัพท์สาธารณะเลย ถ้าอยากจะโทรต้องไปที่ร้านค้าเล็กๆเท่านั้น ราคาก็ถูก เมื่อถึงยกโทรศัพท์มา นิ้วมือที่จะกดโทรออกนั้นรู้สึกหนักอึ้ง นานมากแล้วที่ไม่ได้โทรศัพท์ ถึงแม้ตอนที่หนีมาได้สองวันเธอจะเคยใช้ซิมโทรศัพท์ที่ใช้เมื่อก่อนส่งข้อความไปหาปัทมาและนภนต์ว่าตอนนี้เธอได้หนีออกจากเมืองดรัลมาโดยสวัสดิภาพแล้ว แต่ตอนนี้เธอรู้สึกผิดอยู่นิดหน่อย พวกเขาต่างก็เป็นห่วงเธอ แต่เธอกลับไม่ส่งข่าวคราวใดใดให้เลย จำเบอร์ของตระกูลศาสตร์พงษ์ได้ เพราะช่วงวันหยุดเมื่อก่อน เธอมักจะโทรหาปัทมารายงานความปลอดภัยอยู่เสมอ และถามไถ่ทั่วไป นั่นคือของขวัญอย่างน้อยที่จะให้ได้ แต่วันนี้ มันก็ผ่านมานานแล้ว โทรศัพท์ดังขึ้น ผ่านมาครึ่งวันถึงได้มีคนรับสาย แต่ไม่คิดว่านั่นคือผลดา ”สวัสดีค่ะ ผลดาค่ะ ใครโทรมาคะ” มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย เธอหวังที่สุดว่าคนที่จะรับสายคือปัทมา ไม่หวังให้เป็นผลดา และไม่หวังให้เป็นนภนต์ เพราะหากเป็นนภนต์ เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน เธอกลัวว่าเขาจะคาดคั้น แต่ถ้าเป็นผลดานั่นยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เธอถึงไม่อยากคุยกับผลดา และยิ่งไม่อยากให้ผลดารู้ว่าเธอไปที่ตระกูลศาสตร์พงษ์มา ไม่อย่างนั้น ผลดาต้องคิดว่าเธอมีแผนการอะไรอีกแน่ ไม่เอา เธอไม่อยากจริงๆ ค่อยๆเคลื่อนโทรศัพท์ห่างหูไป แต่เสียงของผลดายังคงดังอยู่ “นั่นใครคะ รีบพูดมาสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะวางสาย...”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 136 ธุรกิจร้านค้าออนไลน์
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A