ตอนที่ 12 จงใจกลั่นแกล้ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 12 จงใจกลั่นแกล้ง
ต๭นที่ 12 จงใจกลั่นแกล้ง หวีเจียวเจียวชะงักไป ทว่าขาของเธอเร็วกว่าความคิดของเธอ “ปั้ง”ประตูไม้ถูกคุณหนูตระกูลหวีเตะเข้าอย่างแรงอีกที “ใคร ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ” ฉินเหมียนมองไม้สลักที่อยู่บนพื้น ไม้พะยูงชั้นยอดส่งกลิ่นหอมของไม้ออกมา ปนเข้ากับความสับสนวุ่นวายในใจเธอ ปกคลุมไปทั่วห้องที่ถูกเปิดเผยนี้ การแอบฟังแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรเอาออกมา ทว่ากลับบังเอิญเหลือเกิน ที่สถานะของเธอตอนนี้ก็คือบุคคลหลักในหัวข้อที่เขาคุยกันเมื่อสักครู่นี้ หากถูกจับได้ขึ้นมา ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายเหลือเกิน ถึงว่าแม้สามารถทำให้เมิ่งเวยหยูนเสียหน้าเป็นสิ่งที่เธอปรารถนาที่สุด แต่เมื่อนึกถึงผลที่ตามมาจากการทำงานครั้งนี้พลาด มันอันตรายถึงชีวิตของแม่และเพื่อนรักของเธอ เธอจึงจำต้องแสร้างแสดงต่อไปให้ถึงที่สุด หวีเจียวเจียวยังคงจ้องมองประตูที่ปิดสนิท บานนั้น พูดเยือกเย็น“ไม่ออกมาใช่ไหม ดี ฉันจะคอยดูสิ วันนี้เธอจะหลบไปได้กี่น้ำ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะ อย่าลืมว่านี่คือบ้านของใคร” เธอไม่เชื่อหรอก ว่าเธอจะหาคนนอกคนหนึ่งที่หลบอยู่ในบ้านของตนไม่ได้ “พอแล้ว”หวีโย่วถิงอุ้มน้องสาวผู้ไม่ยอมรามือขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังลีฟท์“ฉันบอกแล้ว วันนี้วันเกิดคุณย่า ห้ามก่อเรื่อง” “พี่ มีคนแอบฟังเราคุยกัน และสิ่งที่พูดก็เป็นเรื่องไม่ดีของคนรักของพี่นะ พี่ไม่กลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียงของยัยคุณหนูตระกูลเมิ่งเหรือ” หวีเจียวเจียวไม่มีอารมณ์สนใจเรื่องชื่อเสียงอะไรของเมิ่งเวยหยูนอยู่แล้ว แต่ที่เธอพูดแบบนี้ก็เพื่อให้พี่ชายใหญ่คนนี้จัดการแทนเธอ เธอเตะขาไปมาอยู่กลางอากาศ ดิ้นรนเต็มที่ให้หวีโย่วถิงวางเธอลง ทว่าหวีโย่วถิงกลับไม่สนใจมองข้ามการดิ้นรนของเธอไปเลย สาวเท้ายาวเข้าไปในลีฟท์ ตอนที่ป้าหวังวิ่งขึ้นมาบนตึก หวีเจียวเจียวกำลังทำลายข้าวของอยู่ในห้องของเธอ หวีโย่วถิงยืนกอดอกอยู่ข้างประตู หลบหลีกของเล่นต่างๆที่ปาเข้ามา “งานเลี้ยงวันเกิดอะไร ฉันไม่อยากไปหรอก ไม่แน่คุณย่าไม่เห็นฉันไปร่วมงานยังจะยิ้มหน้าบานกว่าอีก” “เจียวเจียว ให้เวลาเธอสามนาที ไม่งั้นไม่รอนะ” หวีโย่วถิงพูดจบหันไปพยักหน้าเล็กน้อยให้ป้าหวัง“ป้าหวัง ลำบากหน่อยนะครับ” ป้าหวังสีหน้าลำบากใจ“คุณชายใหญ่ เกิดคุณหนูรองเธอ..........” “หากเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือดีๆ ฉันจะระงับบัตรเครดิตทั้งหมดของเธอ ทั้งหมด”พูดจบ หวีโย่วถิงก็เดินจากไปโดยไม่หันหน้ามามองด้วยซ้ำ กำราบน้องสาวคนนี้ของเขา การตัดแหล่งเงินคือวิธีที่ตรงไปตรงมาและใช้ได้ผลมากที่สุด เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ง่ายมากสำหรับเขา ทว่าหวีเจียวเจียวที่อยู่เบื้องหลังเขากลับก่นด่าไม่หยุด“หวีโย่วถิง ไอ้คนโง่ คนบ้า คนใจร้าย” หวางสือซานที่ออกมาจากลีฟท์ได้ยินคำพูดที่ไม่งามเหล่านี้เข้าพอดี แต่ถึงยังไงก็เป็นผู้ช่วยที่ติดตามหวีโย่วถิงมานานหลายปี ความไม่ตื่นตูมคือสมบัติขั้นพื้นฐานข้อหนึ่งของผู้ช่วย “เจ้านายครับ ข้อมูลเกี่ยวกับคุณหนานมู่คนนั้น ผมได้มาแล้วครับ”เขาพูดพลางยื่นไอแพดในมือให้หวีโย่วถิง หวีโย่วถิงรับไอแพดมา ดูไปด้วย สั่งการไปด้วย“ไปชั้นสอง” หากเขาเดาไม่ผิด คนที่อยู่ในห้องและปิดประตูไม่ยอมออกมานั้น คงเป็นคู่หมั้นคนนั้นของเขา ปฏิเสธและหลีกเลี่ยงก่อน จากนั้นแอบฟังไม่ยอมออกมา เมิ่งเวยหยูนในวันนี้ช่างผิดปกติเหลือเกิน คาดว่าหนานมู่คนนี้คงเป็นจุดลงมือที่ไม่เลวเลย นักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยเยล เป็นนักศึกษาร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขาสักด้วย บังเอิญเหลือเกิน บังเอิญจนน่าสงสัย ประตูลีฟท์เปิดออก“ติ้ง”ฉินเหมียนที่สวมกระโปรงตาข่ายสีม่วงปรากฏขึ้นตรงหน้า สีหน้าของเธอลนลานเหมือนคนที่กระทำความผิดแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขาไม่มีผิด “ฉัน.......”ฉินเหมียนกุมกระโปรงของตนไว้แน่น พยายามคิดหาคำอธิบาย เห็นเพียงหวีโย่วถิงที่เดินยิ้มออกมาจากลีฟท์ “กำลังตามหาฉันหรือ” เขาดึงมือฉินเหมียนเข้ามาจูง ใบหน้ารักใคร่“อยากกินอะไรไป” ฉินเหมียนพยักหน้าอย่างอัตโนมัติตามสัญชาตญาณ เธอไม่ได้อธิบายอะไรสักคำ หวีโย่วถิงก็ได้ให้ข้ออ้างสวยงามให้เธอรอดตัว มันช่างพอดิบพอดีเสียเหลือเกิน ทว่าฉินเหมียนกลับไม่รู้ บนโลกใบนี้ ยิ่งเป็นเรื่องที่บังเอิญก็ยิ่งเงื่อนงำซ่อนอยู่ และเธอได้ตกเข้าไปในหลุมพรางของหวีโย่วถิงโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว หวีเจียวเจียวลงมาข้างล่างอีกครั้ง บัดนี้ได้แต่งตัวสวยงาม ท่วงท่าสง่า ไม่เห็นคาบของคนขี้เมาอีกต่อไป เธอมองไปยังเมิ่งเวยหยูนที่รายล้อมไปด้วยผู้คน นึกหัวเราะเยาะขึ้นในใจ ก็แค่เพราะหัวใจดวงหนึ่ง ไม่อย่างนั้น ลำพังตระกูลไฮโซอย่างตระกูลเมิ่ง ไม่มีสิทธิ์มามีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหวีของพวกเขาด้วยซ้ำ เมื่อสัมผัสได้ถึงคนบนบันได ฉินเหมียนเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย เห็นหวีเจียวเจียวสวมชุดราตรีสีเหลือดวงหน้าเย่อหยิ่งเดินตรงมายังพวกเธอ เป็นสาวสวยที่มีสิทธิ์โอ้อวดจริงๆ เทียบกับใบหน้าของหวีโย่วถิงที่ขี้อายหน่อย คุณหนูรองแห่งตระกูลหวีสวยแบบเปิดเผยยิ่งกว่า “มาแล้ว”หวีโย่วถิงยื่นมือไปยังน้องสาวของตน“เตรียมคำอวยพรของเธอให้พร้อม คุณย่ายังรออยู่นะ” หวีเจียวเจียวมองมือเขาเล็กน้อย ทว่าไม่สนใจ กลับหันไปยื่นมือให้ฉินเหมียน“เรื่องคำอวยพรพวกนี้ เทียบกับพี่ที่เรียนการแพทย์มา ก็ต้องเป็นพี่เมิ่งที่เรียนภาษาศาสตร์มาเก่งกว่าสิ” เธอดึงมือฉินเหมียนมาเองโดยพลการ แววตาเต็มไปด้วยความจงใจกลั่นแกล้ง“พี่เมิ่ง พี่ว่าฉันควรจะพูดอะไรกับคุณย่าบ้างล่ะ”
已经是最新一章了
加载中