บทที่ 1 ชดใช้ไม่ได้ก็จำคุก
1/
บทที่ 1 ชดใช้ไม่ได้ก็จำคุก
จากวันนี้ไป ฉันไม่ใช่คนต่ำต้อยนั้นอีก
(
)
已经是第一章了
บทที่ 1 ชดใช้ไม่ได้ก็จำคุก
บ๗ที่ 1 ชดใช้ไม่ได้ก็จำคุก หลังเที่ยงในเดือนกรกฎาคม เป็นเวลาที่แดดร้อนแรงที่สุด จางเรยปั่นจักรยานในโรงเรียนอย่างไว จางเรยปั่นจักรยานด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด แต่ก็ยังล้าหลังรถบีเอ็มดับเบิลยูที่อยู่ข้างหน้า “ซูชิง อย่าไปได้ไหม ? เราทำงานพาร์ไทม์เพิ่มอีก 2 งานได้ เราจะดิ้นรนขยันหาเงิน ! เราก็ซื้อรถได้ จะไม่ให้เธอนั่งรถจักรยานอีก นะซูชิง…….” จางเรยล้มทลาย เห็นว่าตามไม่ทันแล้ว ตะโกนออกไป: “โอ้ ไอ่คนอนาถายากจนนั้นบอกว่าจะซื้อรถเพื่อเธอ ซูชิง เธอเชื่อหรอ?” หวางเผิงหัวเราะเยาะในรถสปอร์ตขนาดเล็กตรงที่นั่งคนขับรถ “เชอะ คนอนาถายากจนอย่างมัน ขนาดซื้อแค่กระเป๋าอย่างต้องกู้ยืม จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อรถ? แค่คนอย่างมันยังกล้ามากวนโทโสคุณชายหวาง ใจกล้าบ้าบิ่นจริงๆ” ซูชิงพูดดูถูกเหยียดหยามพร้อมวางมือลูบกระเป๋าหนังLVใหม่ที่วางอยู่บนตาก “นี่ก็เป็นข้อแลกเปลี่ยนของมันที่มากวนคุณชายอย่างฉัน !”ซูชิงทำให้หวางเผิงอารมณ์ดี เอื้อมมือออกไปบีบเล่นเอวอันบางของซูชิง เขามองจากกระจกมองหลังยังเห็นจางเรยไล่หลังไม่ยอมแพ้ เลยเกิดกลยุทธ์ในใจขึ้นมาทันที พูดพร้อมยิ้มมุมปากร้ายๆว่า:“อยากแข่งกับกูใช่ป้ะ ชอบตามรถกูขนาดนี้ งั้นจะให้ตามรถแบบให้ดั่งใจแกเลย” “คุณชายเผงคิดจะทำอย่างไงคะ?”ซูชิงพูดคุยด้วยสายตาเสน่ห์น่าหลงใหล” “จะทำให้เคราะห์ซ้ำกรรมชัด เธอลองคิดดูถ้ามันขับรถอ่อนเน่ามาชนรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู จะเป็นอย่างไง? คนอนาถายากจนนั้นไม่มีเงินชดใช้ค่าซ่อมรถแน่นอน ” หวางเผิงพูดพร้อมเหยียบเบรกรถกะทันหัน รถหยุดทันทีที่มีเสียงแรงเสียดทางจากล้อรถระหว่างพื้นผิวทำให้รู้สึกแสบหู จางเรยใจกระตุก ไม่ทันเบรก เกิดแรงเฉื่อยขนาดใหญ่ ทำให้จางเรยชนท้ายรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูไปทั้งคนและรถ จางเรยทั้งตัวเด้งไปบนฝาหลังคารถ กลิ้งตกจากบนรถลงมาพื้น ทันใดนั้น จางเรยโดนถนนลาดยางที่แสบร้อนทิ้งรอยแผลไว้ทั้งตัว ส่วนหัวถูกโชนจนหน้ามืดตามัว “ว้าว นึกว่ารถหรูอะไรมาตามฉันซะอีก ขนาดตามท้ายแล้วยังไม่ยอมหยุด” หวางเผิงตั้งใจพูดด้วยเสียงสูง เดินลงมาจากรถสปอร์ตที่เย็นสบาย ทันทีทันใดนั้น พวกเขาดึงดูดสายตากลุ่มนักเรียนในโรงเรียนที่เลิกคาบ “นั่นไม่ใช่หวางเผิงลูกชายของท่านประธานโรงเรียนหรอ? นักเรียนคนนั้นเป็นใคร? ขนาดลูกชายของประธานโรงเรียนยังกล้ายุ่ง” “แกไม่รู้จักจางเรยที่เป็นเด็กเรียนเก่งหัวแข็งกระด้างหรอ? ได้ข่าวว่าตอนสอบปลายภาคเทอมหนึ่งคุณชายหวางอยากแอบลอกข้อสอบจางเรย บอกว่าถ้าทำให้มันได้ที่หนึ่ง จะให้จางเรยหนึ่งหมื่น! แต่จางเรยหัวแข็งกระด้างขนาด ยังไงก็ไม่ตกลง ไม่ให้คุณชายหวางลอกซักข้อ” “งั้นคุณชายหวังสอบได้ที่หนึ่งอย่างไงล่ะ?” “อันนี้ฉันก็ไม่รู้ละ คุณชายหวางเป็นคนอะไร? อยากได้ที่หนึ่งเป็นเรื่องง่ายจะตาย นี่จางเรยกล้าแย่งแฟนกับคุณชายหวาง ทะเยอะทะยานจริงๆ ต่อจากนี้จะเฮงซวยแน่นอน” จางเรยอดกลั้นความเจ็บปวดของบาดแผลบนตัวพร้อมลุกขึ้นจากเสียงเจรจาในกลุ่มเพื่อนร่วมห้อง สายตาจ้องตรงไปซูชิงที่ลงมาจากที่รองนั่งขับรถ:“ซูชิง เธอคบกับเราเพราะกระเป๋านั่นหรอ ฉันจางเรยในสายตาเธอเป็นแค่ที่กดเงินใช่ไหม?” “ที่กดเงิน? ” ซูชิงทำสีหน้าเว่อร์อย่างเกินจริง เหมือนได้ฟังเรื่องตลกที่ตลกที่สุด:“แกเข้าใจผิดอะไรกับฉันรึเปล่า? แค่คนยากไร้อย่างแกก็เป็นตู้เอทีเอ็มได้หรอ? ถ้าแกอยากเป็นตู้เอทีเอ็ม ก็ไม่มีสิทธิ์นั้นหรอกนะ” “ใช่แล้ว แค่เงินไม่กี่บาทของค่ากระเป๋าธรรมดานั้น เป็นแค่ค่าข้าวมือเดียวของกูเอง ถึงกับใช้ทั้งชีวิตมาตามกู ยังกล้ามาชนรถกูอีก แกรู้ค่าซ่อมบำรุงต้องใช้เท่าไหร่มั้ย บอกออกมาแกคงจะอึ้งตกใจมาก ” หวางเผิงพูดด้วยน้ำเสียงหัวเราะเยาะ “เพราะนายเบรกรถกะทันหัน ฉันเลยชน ค่าซ่อมบำรุงไม่ควรเป็นฉันชดใช้”จางเรยไม่อยากคุยกับหวางเผิง สายตามองไปที่ซูชิงที่เดียว “โห ขนาดนี้ยังทำให้นายดูออกเลยหรอ? ทำไงดีอ่ะ?” ซูชิงอ่อนอ้อนขยับไปข้างหวางเผิง ช่วยหวางเผิงถือร่มกันแดด:“ใช่ ฉันก็แค่เล่นๆกับนาย นายทำอะไรได้มั้ยละ?” “งั้นเธอเอากระเป๋าคืนฉัน! แต่ก่อนฉันมองเธอผิด ผู้หญิงเลวร่านแรดอย่างเธอ ไม่คู่ควรกับกระเป๋าใบนี้”จางเรยโกรธขึ้งจับแย่งกระเป๋า แต่กลับถูกหวางเผิงที่ทั้งอ้วนทั้งสูงผลักออก:“คนอนาถายากจนอย่างแกมาเล่นตลกป่ะเนี้ย? ของที่ให้ไปแล้วยังเอากลับได้ด้วยหรอ? ให้ไปแล้วก็เป็นของคนอื่นสิ ถ้าแย่งกลับมา ก็เป็นการชิงปล้นแล้วสิ แกอยากเข้าคุกใช่ป้ะ? รีบจ่ายค่าซ่อมบำรุงมา ไม่งั้นกูก็จะแจ้งความ!” พูดพร้อมผลักจางเรยอย่างแรงลงพื้น ลูกปัดหยกที่ใส่ไว้แต่เด็กตกลงจากข้อมือลงพื้นแตกกระจาย ทันใดนั้น ลำแสงสีขาวเล็กน้อยส่องออกมาจากลูกปัดเข้าไปในชีพจรของจางเรย จางเรยได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นในหู:“ระบบบุญคุณได้เปิดการใช้งานสำเร็จ ต้องการจะเปลี่ยนโชคตอนนี้ไหม ?” “ระบบอะไรนะ”จางเรยสตั้น นึกว่าตัวเองเห็นภาพภาพลวงตา จางเรยยังไม่ได้ตอบตบลงว่าจะเปลี่ยนโชคมั้ย ตรงข้างหน้าก็มีเสียง‘ปัง’ เพื่อนร่วมชั้นรอบๆที่อยากรู้อยากเห็น ตกใจ :“โอ้โห! ชนรถหรูหราชนติดกันสองรอบด้วยซ้ำ!” “รถเฟอร์รารี ! วันนี้ได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าจะเห็นรถเผอร์รารีในโรงเรียน ได้ข่าวว่าราคารถนี้ซื้อรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูของคุณชายหวางได้ถึง6คันเลยนะ นี่รถใครกัน นึกไม่ถึงเลยว่าจะอยู่ปรากฎตัวในโรงเรียนพวกเรา ” “ของเจ้านายเส้นใหญ่คนไหนรึเปล่า? ทีนี้คงทำให้คุณชายหวางอยู่ยากละ ” หวางเผิงได้ยินเสียงดัง ขมับคิ้วหนักมาก ไม่สนใจที่ไปรังแกจางเรยแล้ว รีบวิ่งไปข้างหน้าว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่กลับเมื่อตะกี้ที่ตัวเองจอดรถเป็นถนนลงดอย ตอนนั้นรีบลงรถรังแกคนเลยลืมดึงเบรกมือ ตอนนี้รถของจางเรยกำลังแนบติดมิดชิดกับท้ายรถเฟอร์รารี ชนจนสีรถหลุดในปริมาณมาก รอบนี้จบแล้ว หวางเผิงยังคิดค่าซ่อมรถเฟอร์รารีในใจไม่เสร็จ ก็เห็นขาที่เรียวขาวเนียนออกมาจากรถเฟอร์รารี ใส่รองเท้าส้นสูงเลิศงาม นุ่มกระโปรงยาวสีขาวเสน่ห์เป่งปัง ถึงจะไม่เห็นชื่อแบรนด์แต่ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของการดีไซน์ สะพายกระเป๋าลิมิเต็ดของHermèsข้างไหล่ งามละมุนน่าเกรงขามดูมีพลังสดใสร่าเริง เต็มไปด้วยอำนาจสง่าราศรีดั่งกุลสตรี ซึ่งสิ่งเหล่านั้นยังบวกความสง่างามซึ่งสืบมาจากสายสกุลยิ่งใหญ่ ผมยาวสละสลวย นางงาม ! ทุกคนต่างโดนหญิงสาวที่สวยดั่งนางฟ้าที่ลงมาจากรถเฟอร์รารีดึงดูดสายตา ขนาดซูชิงถือว่าเป็นคนสวยในมหาลัยอันดับต้นๆแล้ว แต่ตอนนี้ยืนข้างนางซูชิงกลับดรอปลง หวางเผิงเห็นคนสวยจึงเหม่อลอย ขยับไปข้างๆ :“คนสวย……” “นายชนสามีฉัน ยังไม่ขอโทษอีก” หญิงสาวขยะแขยงออกห่างหวางเผิง เดินตรงไปหาจางเรยที่กำลังหมอบอยู่กับพื้น ถามด้วยความเป็นห่วง:“คุณสามีคะ เป็นอะไรมั้ย” “สามี? ”คนดูต่างถอนหายใจ อึ้งทึ่งถามว่า:“ไอ่จางเรยไม่ใช่คนยากจนหรอ ? จะมีแฟนที่ทั้งสวยทั้งรวยได้ไง?” ไม่ได้มีแค่คนดูอึ้งทึ่ง ขนาดจางเรยที่เป็นเจ้าตัวในตอนนี้ยังงงเลย จ้องไปใบหน้าที่เนียนใสละเอียดผุดผ่อง ถามว่า:“ใคร ใครเป็นสามีของเธอ ? ” “ก็เธอไง จางเรย นายจำเราไม่ได้แล้วหรอ ? เราชื่อฉิงหวันหยู เราเป็นคู่หมั่นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กกับนาย ”ฉิงหวันหยูที่มีคู่ดวงตาอันเจิดจรัสราวกับอัญมณีน้ำเอกกล่าวเอง ช่วยเตือนความจำจางเรย แถมพูดจบยังทำตาใสปิ๊งๆกระพริบให้จางเรย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 1 ชดใช้ไม่ได้ก็จำคุก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A