บทที่ 5 ไม่ต้องพูดละ รูดบัตรเลย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 5 ไม่ต้องพูดละ รูดบัตรเลย
บ๗ที่ 5 ไม่ต้องพูดละ รูดการ์ดเลย จางเรยตั้งใจดูละเอียด ปรึกษากับแม่ว่า:“แม่ แม่ว่าอันนี้เป็นไง อันนี้ไม่ดี ทางเข้าบ้านตรงข้ามห้องนอน……ห้องน้ำอันนั้นอยู่ข้างห้องครัว……อันนี้ บันไดเยอะเกินแล้ว คนวัยชราไม่ควรขึ้นลงบันได……” “ไม่มีตังค์ก็บอกไม่มีตังค์สิ มาทำตัวรวยที่นี่ สุดท้ายก็ไม่มีบ้านหลังไหนที่ถูกใจแกป้ะ แล้วทำเป็นหาข้ออ้างว่าไม่มีที่โดนใจค่อยกลับอย่างซื่อตรง เห้อ”โจวจวนไม่คิดว่าจางเรย จะใช้วิธีนี้ถอยกลับ โกรธจนสายตาโผยเผลอ เฉินเจียทำหน้า‘ดูสิ สองคนนี้เป็นคนอนาถายากจน’มองไปที่ผู้จัดการ ยังมีผู้จัดการที่หน้ายิ้มๆ :“ค่อยๆเลือกดู ไม่รีบครับ” จางเรยค่อนข้างประทับใจท่าทางที่ผู้จัดการแสดงออก เจออยู่หลังนึงที่เป๊ะทุกด้านพอดีนั้น ยื่นแปลนชั้นไปหน้าผู้จัดการ:“หลังนี้แหละ ราคาเท่าไหร่?” “คุณสายตาดีมากเลยครับ ราคาสี่ล้านสองแสนบาท” “รูดการ์ด” จางเรยยื่นบัตรเครดิตออกไป “อะไรนะ?” จางเรยทำทุกคนตกใจ แต่ยังดีที่ผู้จัดการพูดจาสุภาพเป็นมิตร เขาให้บริการดีก็เพื่อชื่อเสียงของแบรนด์ แต่ในใจก็ไม่ได้คิดว่าจางเรยจะซื้อบ้านจริงๆ เขายื่นบัตรเครดิตมาอย่างง่ายซื่อตรง ทำให้ผู้จัดการยังไม่ทันตั้งตัว “รูดการ์ด ฉันจะซื้อบ้านหลังนี้” “แต่คุณดูไปแค่แปลนชั้นยังไม่ได้ดูห้องบอร์ดรูมเลย” “แค่นี้ก็พอแล้ว” “คุณจะจ่ายงวดเดียวหรือกู้เงินสินเชื่อ?” ผู้จัดการรู้สึกเซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง ลูกค้าซื่อตรงๆแบบนี้ไม่มีเยอะ “จ่ายงวดเดียว ฉันจะย้ายเข้าไปอย่างเร็วที่สุด” “ไม่มีปัญหา ลูกค้าจ่ายงวดเดี๋ยวจะได้ลด10% แต่ว่าถ้าจะย้ายเข้า……”ผู้จัดการรีบสั่งเฉินเจียไปหยิบหนังสือสัญญาซื้อบ้านมาพร้อมอธิบายว่า:“ถึงบ้านจะเป็นบ้านที่สร้างเสร็จย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย แต่คุณต้องดีไซน์ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเฟอร์นิเจอร์อีก ย้ายเข้ามากลัวว่าจะ……” “งั้นไม่รับส่วนลด10% ฉันจะเอาจามแปลนชั้น ได้มั้ย?”จางเรยพูดตรง ๆ แต่ก่อนเขาเคยแจกโบว์ชัวร์ของธุรกิจค้าขายบ้าน พอรู้ว่าดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ในแปลงชั้นในตึกขายบ้านใช้แต่ของดีๆ คุณภาพรับรองไว้ใจได้ ซึ่งมีคนมากมายที่ไปดูบ้านทุกวันที่ตึกทำงานขายบ้าน สารอันตรายพวกฟอร์มาลดีไฮด์ก็คงจัดการเรียบร้อยหมดนานแล้ว ผู้จัดการเห็นว่าจางเรยซื่อตรงแบบนี้ก็ไม่ลีลาเหมือนกันตอบตงลงทันที :“ได้สิ ชำระเงินเสร็จก็สามารถขนของเข้าบ้านคืนนี้ได้เลย” “ดีมาก!” เฉินเจียวิ่งเหยาะๆไปเอาหนังสือเซ็นสัญญาซื้อบ้านมา ยื่นให้จางเรย อย่างกับฝัน ขายงวดรายใหญ่ออกแบบนี้ได้แล้วหรอ? ถึงแม้ว่าเกิดความขัดแย้งเล็กน้อย แต่อย่างไงจางเรยก็เป็นลูกค้าที่หล่อนรับไว้ ถ้าจะซื้อบ้านจริงๆ ค่าคอมมิชชั่นก็ต้องคิดเป็นของหล่อนแน่นอน เปลี่ยนสีหน้าอารมณ์ทันทียอมให้เป็นคนช่วยถือรองเท้า พูดเพราะกับจางเรย:“คุณจางคะ ฝ่ายเราต้องการสำเนาเอกสารบัตรประชาชนของคุณไว้ คุณอ่านหนังสือสัญญาดู ถ้าไม่มีปัญหาก็เซ็นเลย” “แม่ เอาบัตรประชาชนมา”จางเรยให้คุณแม่หยิบบัตรประชาชนให้ ส่วนเขาก็จับหนังสือสัญญาอ่าน จนถึงวินาทีนี้ โจวจวนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มาถึงจังหวะนี้แล้วจางเรยอาจมีเงินซื้อบ้านจริงๆก็ได้? ยิ่งหล่อนอยากเอาชนะพี่สาวมาแต่เด็ก หลายปีนี้ฐานะก็ดีกว่าพี่ นำพี่ทุกเรื่อง ตอนนี้จางเรยจะซื้อบ้านดีขนาดนี้ให้พี่สาว ซึ่งจะซื้อบ้านในนามพี่สาว ทันใดนั้น โจวจวนริษยาโมโห ประชดว่า:“พี่สาวนี่มีบุญดีจริง ๆ มีลูกชายรวยแถมยังกตัญญู จะเอบ้านเก่า ๆ หลังนั้นทำไงละ ถอนฟ้องเลยสิ” จางเรยทนไม่ไหวกับทัศนคติของป้า:“ไอ่ป้าแก่ หน้าด้านกว่าแกคงไม่มีอีกละ ” “สำเนาเอกสารบัตรประชาชนเรียบร้อย”เฉินเจียยื่นกลับให้ไว้หน้าแม่จางเรยอย่างถ่อมน้อม มองหน้าจางเรยด้วยความกระตืดรือร้น แค่เขาเซ็นสัญญาแล้วรูดการ์ด ตัวเองก็มีรายได้กองใหญ่เข้าตามด้วย จะตื่นเต้นได้ไงล่ะ ! จางเรยอ่านหนังสือสัญญาอย่างไว สุดท้ายหยุดสายตาบนลายเซ็นต์ของพนักงานที่ปรึกษาการขาย ที่ตรงนั้นเขียนไว้ชัดเจน:เฉินเจีย “หนังสือสัญญานี่มีปัญหา ฉันไม่เซ็นต์” พอพูดออก ทุกคนตื่นตาตกใจ ความรู้สึกเฉินเจียเหมือนได้นั่งรถไฟเหาะ ถามด้วยความประหม่าว่า:“มีปัญหาอะไร?หนังสือสัญญาพวกเราใช้ฉบับเดียวกันทั้งหมด ทนายความตรวจเช็คหลายรอบ ไม่มีข้อผิดพลาดแน่นอน” โจวจวนพูดฉวยโอกาสว่า:“หรือว่าอยากจับผิดเรื่องหนังสือสัญญามาปกปิดเรื่องที่ไม่มีเงินซื้อบ้านรึเปล่า?” ขนาดคุณแม่จางเรยยังมึนงง:“จางเรย นี่……” “ปัญหาคือพนักงานที่ปรึกษาการขายเป็นเฉินเจีย ถ้าชื่อหล่อนไม่เปลี่ยน บ้านนี้ฉันก็ไม่ซื้อ”จางเรยพูดยิ้ม ๆ ไปมองไปทางผู้จัดการ ผู้จัดการไม่ประทับใจเฉินเจียแต่แรก เป็นตึกก่อสร้างเกรดสูงแบบพรีเมี่ยมจะเกิดข้อขัดแย้งกับลูกค้าได้ไง ทีแรกคิดว่าจะรอจางเรยกลับก่อนค่อยมาจัดการเฉินเจีย แต่เห็นจางเรยโกรธแค้นเฉินเจียแบบนี้ มองออกความโกรธจางเรยทันที เลยโบกมือเรียกพนักงานที่ปรึกษาการขายคนใหม่ไปเอาหนังสือสัญญามาใหม่ ลงนามผู้จัดการตำแหน่งพนักงานที่ปรึกษาการขายเอง จางเรยถึงจะพอใจให้คุณแม่เซ็นชื่อลงใบสัญญา ตัวเองค่อยไปชำระเงิน หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย เฉินเจียหน้าซีด ค่าคอมมิชชั่นรายใหญ่นี่หลุดจากมือหล่อนทีเดียวเลย หันไปเองโจวจวนในเวลานี้ สีหน้าท่าทางก็ไม่ค่อยดีแล้ว โจวจวนเป็นแค่ลูกค้าที่วางแค่ค่ามัดจำ ขนาดเงินดาวน์ยังไม่จ่ายเลย ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อมั้ยด้วยซ้ำแต่ลับทำให้หล่อนเสียหายขนาดนี้ มองแรงโจวจวนเสร็จ เฉินเจียคิดอยากรีบเลิกงาน แค่กลับถูกจางเรยเรียกตัวไว้ จางเรยยิ้มแฉะสดใส :“ไม่ทราบว่า ตอนนี้ฉันมีสิทธิ์จะฟ้องร้องรึยัง?” เฉินเจียเปลี่ยนหน้าทันที หน้าซีดจากเดิมหลายเป็นหน้าแดง:“คุณ มีสิทธิ์แล้ว ขอร้องคุณใจกว้างให้อภัย……” จางเรยยิ้ม ๆ มองไปทางผู้จัดการ ผู้จัดการพูดอย่างเย็นชา:“คุณมีสิทธิ์ฟ้องร้องหล่อนแน่นอนเพราะหล่อนให้บริการลูกค้าไม่ดี พูดจาไม่สุภาพ ฝ่ายผมจะยกเลิกจ้างเฉินเจีย คุณว่าแบบนี้พอใจไหม?” “พอใจแล้ว”จางเรยพยักหน้าใส่ จางเรยพึ้งจะเห็นว่าไอ่ป้าแก่โจวจวนไม่รู้วิ่งไปทางประตูตอนไหน กำลังจะแอบหนี “ป้า ฉันเตือนแกไว้ก่อน รีบยอมเอาบ้านออกมา ไม่งั้นฉันจะไม่มืออ่อนแน่นอน”จางเรยพูดเตือน โจวจวนเหมือนหนที่ต้องหลบแมว ไม่มีหน้ามองไปทางจางเรย หันหลังก็เดินออกไปเลย “แม่ ตอนนี้ฉันพาท่านไปดูบ้านใหม่กัน”หลังจัดการเรื่องนี้เรียบร้อย ผู้จัดการพาจางเรยและแม่จางเรยไปจดทะเบียน ไปชมบ้านจำลองรอบนึง แม่จางเรยพูดอย่างไม่น่าเชื่อ“ต่อไปนี้ นี่ก็เป็นบ้านพวกเราจริงหรอ?ฉันไม่ได้ฝันใช่มั้ย?” “ไม่ ต่อจากนี้คุณเป็นเจ้าของบ้านนี้แล้ว ของเหล่านี้เป็นของคุณแม่หมดเลย”จางเรยยิ้มพูด เห็นคุณแม่มีความสุขแบบนี้ จางเรยรู้สึกอิ่มใจมากมาย คุณแม่จางเรยรอไม่ไหวแล้ว หลังจากส่งผู้จัดการกลับ แม่จางเรยจูงมือจางเรยไปนั่งบนโซฟา:“จางเรย แกบอกกับฉันตรง ๆ เงินพวกนี้แกไปเอามาจากไหน?อย่าบอกนะว่าแกไปปล้นธนาคาร?”
已经是最新一章了
加载中