บทที่7 พนันสิ   1/    
已经是第一章了
บทที่7 พนันสิ
บ๗ที่7 พนันสิ เขาได้ค่าใช้จ่ายเดือนละแสน ดื่มเหล้าที่แพงแบบนี้ไม่กี่ขวด ถึงแม้จะเจ็บใจนิด ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีตังค์กิน “ได้เลย”พนักงานพูดอย่างตื่นเต้น เหล้าแพงแบบนี้ เดือนนึงพวกเขาขายไม่ออกกี่ขวดหรอก คืนนี้มีคนรวยแข่งฐานะ เขาฉวยโอกาสทำเปปร์เซ็นสูงขึ้น “รอแป่ปนึง ฉันยังพูดไม่จบ”เห็นพนักงานรีบลงออเดอร์ จางเรยห้ามไว้“เอากรีนวิชมา5ขวดไว้ก่อน ไม่พอค่อยสั่งเพิ่ม” “5ขวด?”พนักงานอึ้งจนตาโต 5ขวด 2แสน9หมื่นนะ! หวางเผิงตกใจทนไม่ไหว :“ไอ่เด็กเปรตแกบ้าหรอ?กรีนวิช5ขวดแกจะดื่มหมดหรอ?” “ไม่ว่าจะดื่มหมดหรือดื่มไม่หมดนายไม่ต้องยุ่ง นายจ่ายอย่างเดียวก็พอแล้ว” “ฉันไม่ได้บอกจะเลี้ยงซะหน่อย ทำไมฉันถึงต้องจ่าย?”หวางเผิงพูด เพื่อนที่มาวันนี้ล้วนมาเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้เขา ยังไงก็ต้องจ่ายเองอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องหารครึ่งกับจางเรย ใช้ตังค์3หมื่น5มาแก้หน้า แต่อัน3แสนล่ะ? อย่างน้อยเขาจ่ายหนึ่งครึ่งก็ต้องใช้แสนห้า เกินความสามารถจางเรยที่แน่นอน ซึ่งหวางเผิงเชื่อมั่นว่าจางเรยไม่มีตังค์เยอะแบบนี้แน่นอน “แสดงว่าคุณชายหวางคงอยากดื่มสุราบาลองไม่อยากจ่ายเงินละสิ”จางเรยขมับ ๆ ไหล่“กลัวก็ยอมสิ รังแกเพื่อนถือนี่โคตรปิ๊อด “กูกลัว?กูจะกลัวมึงเนี่ยนะ?”หวางเผิงทำตัวใหญ่เป็นนิสัย มีแต่คนอื่นที่จะกลัวตัวเอง ตัวไม่เคยไปกลัวใคร ยิ่งโดนคนอนาถายากจนแบบนี้มาล้อต่อหน้าผู้คน โกรธขึ้นมาไม่แคร์อย่างอื่นทันที:“ดื่มก็ดื่มสิ กูจะกลัวมึงได้ไง?” พนักงานกลัวว่าพวกเขาอยากถอนคำ เลยรีบเอาเหล้ามา เปิดฝาของกรีนวิชทั้ง5ขวดไว้ อยากถอนคำพูดก็ไม่ทันแล้วแหละ จางเรยเทออกเป็น2แก้วเล็กทุกขวด เหล้า5แก้วตั้งไว้หน้าหวางเผิงกับตัวเอง ที่เหลืออยู่ก็ให้เพื่อนคนอื่นเอาไปแบ่ง ยิ่งทุกคนต่างยังไม่เคยดื่มเหล้าที่แพงแบบนี้มาก่อนเลยไม่เกรงใจยกแก้งชูไชโยกัน หวางเผิงมองเหล้า5แก้วที่ตัวเองซื้อมาในราคาแสน5 รู้สึกคอแห้ง:“ดื่มสิ รออะไร!” จางเรยยกแก้วขึ้นมา ดื่มทีละแก้วจนทั้ง5แก้วเข้าท้องหมด เหล้าดีจริง ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ออกว่ารสชาติดีอย่างไงแต่ความลื่นละมุนตอนผ่านคอทำให้จางเรยต้องยอมจริง ๆ หวางเผิงดื่มเสร็จรู้สึกเสียใจภายหลัง ปากแข็งทำให้ต้องเครียด ตั้งแสนห้าเลยนะ ค่าใช้จ่ายเขาไม่พอด้วยซ้ำ! จะให้ทำไงดีเนี่ย? หรือจะดื่มสุด ๆ มอมเหล้าให้ตัวเองเมา พอถึงตอนนั้นยังไงก็ต้องมีคนเป็นคนจ่ายอยู่ดี ไม่งั้นใครก็กลับไม่ได้แน่นอน! พอนึกถึงนี่ หวางเผิงอยากจะปรบมือให้กับแผนตัวเอง หลังดื่มเหล้า5แก้วแล้วอารมณ์ดีพูดว่า:“เหล้าดี!เอามาอีก!” “เอาเหล้ามาอีกไม่ได้แล้ว”จางเรยคิดแผนไว้แต่แรก เลยบางแก้วหวางเผิงไว้:“ดื่มเยอะไม่ดีต่อร่างกาย ยิ่งคุณชายหวางยังต้องเป็นคนจ่ายบิลอีก ถ้าคุณชายหวาง พวกแกจะจ่ายแทนหรอ?” พูดจบ เพื่อนคนอื่นได้สติ ใช่แล้ว คุณชายหวางเมาไม่ได้ ไม่งั้นไม่มีคนจ่ายตังค์จะทำไง ทันทีนั้น เพื่อน ๆ ไม่มีใครยอมเทเหล้าให้หวางเผิงและจางเรยอีก แม้แต่สักแก้ว เหล้า5ขวดถูกเพื่อน ๆ ดื่มหมดภายในพริบตา หวางเผิงรู้สึกตัวเองเน่ากากอ่อน เขาชวนเพื่อนมาเป็นหน้าเป็นตาให้ตัวเอง แต่สุดท้ายตัวเองกลายเป็นคนที่เสียเงินเลี้ยงเหล้าเพื่อนไปเปล่าๆ กลับได้ชิมไปแค่ไม่กี่คำ ? ประเด็นคือ ตั้งแต่ที่จางเรยเข้ามา จากที่ตัวเองควรเป็นพี่ใหญ่ กลับกลายเป็นจางเรย ตอนนี้ไม่มีใครที่ฟังคำสั่งตัวเอง กลายเป็นว่าทุกคนทำตามที่จางเรยพูด หวางเผิงลุกขึ้นมา ไหวผลิกนิด ๆ :“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” “คุณชายหวางอยากแอบหนีรึเปล่า?”จางเรยหัวเราะเยาะ:“พวกแกต้องจับตาดูคุณชายหวางไว้นะ ค่าเหล้าคืนนี้ ฉันจะจ่ายแค่ส่วนของฉันกับส่วนหลิวเฮ่า ที่เหลือถ้าคุณชายหวางไม่จ่าย พวกแกก็หารกันซะ ยังไงทุกคนก็หายเมากันแล้ว ไม่มีใครออกไปได้แน่นอน” พอจางเรยพูดแบบนี้เส็รจ คนอื่นใครจะไปกล้าปล่อยให้คุณชายหวางกลับ? ไม่รอให้จางเรยสั่ง พวกเขาก็จับตัวหวางเผิงไว้เอง:“คุณชายหวาง แกพึ้งดื่มไปไม่กี่แก้วก็อยากไปเข้าห้องน้ำแล้วหรอ” “ฉันปวดฉี่” หวางเผิงอั้นจนหน้าแดงโด่งทั้งหน้า ก็ไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำจริง ๆ แต่รีบเตรียมเงินอ่ะ ใช่ว่าจะไม่จ่ายบิลจริงแล้วให้เพื่อนพวกเศรษฐบุตรหัวเราะเยาะสิ? ต่อไปเขาจะอยู่ในวงเพื่อนได้ไงล่ะ ? “ถ้าคุณชายหวางปวดฉี่จริงก็ไปจ่ายบิลได้แล้วแกจะไปฉี่ไหนก็ไปซะ”จางเรยเห็นว่าทำงานแตกพอใจแล้ว กำลังจะพาหลิวเฮ่ากลับ หวางเผิงรีบจับเพื่อนเศรษฐบุตรไปข้างมุม:“ช่วยหน่อย วันนี้ไม่ได้พกเงินเยอะขนาดนี้” “คุณชายหวางอย่างแกก็มีตอนเงินไม่พอด้วยหรอ?”เศรษฐบุตรกวนฉียิ้มถาม ปกติเขาสนิทกับหวางเผิงที่สุด เวลานี้เขาไม่ยอมให้หวางเผิงหน้าแตกหรอกหน่า เลยหยัดบัตรเครดิตให้มือหวางเผิง “ขอบคุณนะเพื่อน เดี๋ยวจ่ายบิลเสร็จ แกคิดแผนจัดการไอ่เด็กเปรตนั่นเลบยะ จะให้เขาไปแบบนี้ไม่ได้” “ไว้ใจได้เลย เดี๋ยวฉันจัดการเอง”กวนฉีวางมือไว้หน้าอกเป็นการรับรองไว้ หลังเลิกงานเหล้า จ่ายบิลเสร็จ จางเรยพาหลิวเฮ่าไปเรียกรถข้างถนน คืนนี้ จางเรยได้เปลี่ยนบุคลิกในใจเพื่อนทุกคน แต่ก่อนนึกว่าจางเรยเป็นแค่เด็กหัวแข็งเรียนดีเฉยๆ ไม่คิดว่าจางเรยทั้งเรียนดีและรวย ค่าเหล้าแสนห้าจ่ายอย่างไม่กระพริบตา จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้จน เขาแค่เงียบทำตัวค้อมต่ำเฉย ๆ เพื่อนทุกคนส่งจางเรยกลับด้วยสายตามองจางเรยเป็นลูกพี่ใหญ่ กวนฉียิ้มแย้มขยับมาข้างจางเรย:“เพื่อนได้หว่ะ เป็นลูกรักของบริษัทไหนหนอ ทำไมแต่ก่อนฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย?” “แกไม่รู้เยอะแล้ว”จางเรยไม่อยากเสียเวลากับพวกเขา ในสายตาจางเรย ลูกเศรษฐบุตรพวกนี้ก็เหมือนหวางเผิง วัน ๆ ไม่เรียนหนังหาหนังสือ เอาแต่ดูถูกคน กวนฉีหัวเราะผุชซ์ทันที บอกด้วยสายตาไม่ดีว่า:“รู้มั้ยกูเป็นใคร กล้าคุยแบบนี้กับกู อย่าคิดว่าแค่เลี้ยงเหล้าราคาแสนห้าเพื่อนก็ซ่าได้ บ้านกูทำงานอสังหาริมทรัพย์ Yuanhe Vilaที่โด่งดังเคยได้ยินมั้ย นั่นเป็นตึกที่บ้านกูสร้าง จางเรยทำตาหยี Yuanhe Vila? นั่นไม่ใช่หมู่บ้านคอนโดที่ตัวเองพึ้งซื้อไปเองหรอ? “อ้อ เป็นบ้านแกสร้างนี่เอง เคารพมาก ๆ เลยนะ” “555 รู้ไว้ซะ กูหาเงินเร็วกว่ามึงอีก ตะกี้ตอนดื่มเหล้ากับมึงก็มีลูกค้าที่เป็นนักศึกษาเพิ่งซื้อบ้านจ่ายงวดเดียวไปเอง เล่าพวกนี้ให้ฟังก็แค่อยากให้รู้ว่าเหนือดินยังฟ้า เหนือป๊อก8ยังมีป๊อก9 อย่าซ่าเกิน!คนรวยกว่าแกมอีกเยอะ!” “เก่งจริง ๆ ”จางเรยควักคีย์การ์ดของYuanhe villaออกมาโชว์อย่างถ่อมตน:“ถ้าฉันเดาไม่ผิด ลูกค้าคนนั้นซื้อในราคา4ล้าน2แสนสินะ ซื้อตามห้องตัวอย่างด้วยใช่ป้ะ?” “แกรู้ได้ไง?”กวนฉีสตั๊น สายตามองไปคีน์การ์ดที่อยู่ในมือของจางเรย อย่าบอกนะว่าเป็นแก……” 
已经是最新一章了
加载中