ตอนที่733รู้จักคนมีเงิน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่733รู้จักคนมีเงิน
ตอนที่733รู้จักคนมีเงิน "ห๊ะ?"ปวิมลมองเธออย่างน่าสงสัย"ทำไมฉันถึงไม่เคยเรียกรถที่ดีแบบนี้ได้เลยสักครั้งล่ะรถคันนั้นราคาประมาณเกือบสิบล้านล่ะมั้ง?" ดราณีรู้สึกอึดอัดพลันหลบสายตาของฝ่ายตรงข้ามยิ้มแบบแหย๋ๆ"คงจะบังเอิญล่ะมั้ง" "จริงเหรอ?"ปวิมลพูดพลางหันหัวไปมองที่ประตูที่อยู่ด้านหลังของเธอเพียงแต่ว่ารถที่จอดอยู่เมื่อสักครู่ขับออกไปแล้ว "อืมรีบไปกันเถอะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็เข้าเรียนสายกันพอดี"ดราณีไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเธอมากนักเดินจูงมือเธอไปที่ประตูอาคารเรียนอย่างรวดเร็ว ปวิมลมองเห็นจังหวะการเดินผิดปกติของเธอก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เธอไม่เชื่อว่าจะมีใครเต็มใจเอารถราคาเป็นสิบล้านมาขับแท็กซี่ไม่ต้องพูดถึงค่าน้ำมันแค่ค่าสึกหรอก็คงไม่คุ้มแน่ๆ เธอไม่ค่อยได้นั่งแท็กซี่แบบนี้ถึงได้ใช้เหตุผลข้างๆคูๆมากลบเกลื่อนละมั้ง อย่างไรก็ดีปวิมลหรี่ตาลงไม่คิดว่าเธอจะมีดีอะไรปกติเห็นเป็นคนซื่อๆไม่รู้จักมารยาหญิงแต่ก็จับคนรวยได้ขนาดนี้ ชนัยใช้รถที่ราคาถูกที่สุดที่ใช้ในบริษัทรับส่งยังกลายเป็นคนรวยในสายตาคนอื่นซะอย่างนั้น ความสัมพันธ์ของดราณีกับเธอพูดไม่ได้ว่าสนิทสนมกันมากเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นธรรมดาๆถ้าพูดถึงการดำเนินชีวิตของเธอเรียบง่ายมากการดำเนินชีวิตของปวิมลตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง ปกติเธอจะแต่งตัวดูดีเสมอไม่ว่าจะไปเรียนหรือว่าไปซื้อข้าวมากินแม้แต่จะลงตึกไปเอาพัสดุเธอก็ต้องแต่งหน้าแต่งตาก่อนออกนอกห้องเสมอ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นตัวของตัวเองนั้นมากเกินไปแต่ดราณีคิดว่าทุกคนย่อมมีสิทธิ์เรื่องความเป็นตัวของตัวเองเฉพาะตัวและสามารถเลือกที่จะเป็นในสิ่งที่ตัวเองชอบแค่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ ดังนั้นจึงการถูกมองว่าเป็นคนที่อ่อนโยนต่อปวิมลที่สุดทั้งคู่พบกันก็จะคุยทักทายเป็นครั้งคราวเหมือนตอนนี้แต่ถ้าจะพูดถึงขั้นสนิทสนมมากกว่านี้ก็ไม่ใช่ เธอมาถึงห้องเรียนก่อนเวลาไม่ได้เข้าเรียนมาหลายวันเรียนผ่านกันไปตั้งหลายบทแล้วปวิมลก็ไม่ใช่คนที่เข้าเรียนตรงเวลาเท่าไรคงจะต้องยืมสมุดบันทึกของคนอื่นมาดูแล้วล่ะ "ดราณีช่วงนี้เธอยุ่งเรื่องอะไรอยู่เธอไม่ได้มาเข้าเรียนตั้งหลายวันแล้ว?"ปวิมลไม่ทันตระหนักว่าคำพูดของเธอจะรบกวนนักเรียนคนอื่นที่นั่งเรียนอยู่ได้แต่ซักไซ้ถามอยู่นั่นแหละ ดราณีไม่อยากทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เลยตอบคำถามเธอ"พ่อของฉันป่วยเข้าโรงพยาบาลอยู่เลยต้อลาไปเฝ้าไข้หลายวัน" "อ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง"ปวิมลพยักหน้าเลยทำท่าทีเสแสร้งถามไปว่า"ตอนนี้อาการของคุณลุงเป็นยังไงบ้างเป็นอะไรมากไหม?" "ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วฉันก็เลยกลับมาเรียนนี่ไงกลัวว่าจะกระทบเรื่องการสอบ"ดราณีกล่าวพลางอ่านและจดบันทึกการเรียนในใจก็หวังว่าเธอจะหยุดถามสักทีเพราะปวิมลกำลังรบกวนเรื่องเรียนของเธออยู่ ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆปวิมลก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง"ถ้าอย่างนั้นวันนี้เลิกเรียนแล้วฉันไปเยี่ยมคุณลุงที่โรงพยาบาลกับเธอได้ไหม?" มือที่กำลังจดอยู่หยุดชะงักมองเธออย่างฉงน"ห๊า?" "ฉันบอกว่าฉันจะไปโรงพยาบาลเยี่ยมคุณลุงกับเธอไง"ปวิมลไม่รู้สึกว่าคำพูดของเธอจะแปลกอะไรยังไงสีหน้าของเธอกระตือรือร้น"เราเป็นนักเรียนห้องเดียวกันปกติเธอก็ดีกับฉันมากถึงแม้ว่าไม่ได้พูดออกมาฉันก็รู้ดีครอบครัวเธอน่าจะเป็นคนพื้นที่อื่นใช่ไหมล่ะ?บ้านฉันเป็นคนพื้นที่นี้เดี๋ยวฉันจะไปซื้อของนิดๆหน่อยๆแล้วไปเยี่ยมคุณลุงกัน" ดราณีรู้สึกถึงความเอาใจใส่ของเธอแต่กลับไม่รู้สึกตื้นตันใจเลยสักนิดจะมีก็แต่ความกระวนกระวายใจมากกว่า... "ไม่เป็นไรพอดีว่าพ่อของฉันมีน้าที่เป็นญาติอยู่ที่นี่รบกวนเธอฉันกลัวว่าพวกเขาจะไม่สบายใจ" "ไม่สบายใจอะไรกันพวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันนี่หน่า..." ดราณีเห็นเธอคะยั้นคะยออดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะเธอ"ไม่ต้องจริงๆเรื่องที่โรงพยาบาลพวกเราจัดการได้เดี๋ยวรอให้พ่อของฉันร่างกายดีขึ้นก่อนเดี๋ยวค่อยชวนเธอมาเที่ยวบ้าน" ปวิมลเห็นเธอยืนกรานเช่นนั้นจะบังคับเธอต่อก็ไม่ได้เลยต้องยอมแพ้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ"ถ้าอย่างนั้นก็ได้" ที่จริงเธออยากจะไปเยี่ยมพ่อของดราณีซะที่ไหนกันแค่อยากยืมเรื่องนี้เพื่อสืบว่ารอบๆตัวเธอมีใครบ้างเท่านั้นเอง พ่อเธอย้ายมาจากที่อื่นเพื่อมาผ่าตัดที่นี่ดูเธอขยันเล่าเรียนแล้วยังจะหาทำงานพิเศษอีกสองสามงานขนาดนี้คงไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาดนั้นแน่ๆเพราะฉะนั้นเธออาจจะ... แค่เห็นรถคันนั้นในหัวของปวิมลก็เต็มไปด้วยจินตนาการต่างๆนานา คิดว่าความสวยของเธอน่าจะเป็นระดับดาวของมหาวิทยาลัยนี้แล้วรูปร่างหน้าตาของดราณีก็ระดับธรรมดาสู้เธอไม่ได้ถ้าจะใช้ดราณีเป็นเครื่องมือรู้จักพวกคนรวยก็ไม่แปลกเลย แต่ความคิดในใจของเธอดราณีไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิดเพียงแต่รู้สึกฉงนและคาดไม่ถึงเท่านั้น ไม่นานศาสตราจารย์เดินเข้าห้องเรียนมาชั่วครู่เสียงเอะอะในห้องก็เงียบลงในที่สุดดราณีก็สงบหูเสียที เธอส่งคืนสมุดบันทึกให้นักเรียนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างหน้าตั้งหน้าตั้งตาฟังที่อาจารย์สอนแต่พลาดสายตาที่ปวิมลมองกวาดมาที่เธอ เมื่อบ่ายสี่โมงครึ่งคาบเรียนที่ยาวนานจบลงดราณีทุ่มเทในเรื่องการเรียนตอนเงยหน้ายังรู้สึกหัวหนักๆ เธอเก็บสมุดบันทึกและปากกาใส่กระเป๋ากำลังจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องเรียนโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะก็สั่นสองที หยิบขึ้นดูที่แท้ชนัยส่งข้อความมา ดราณีกำลังเตรียมจะตอบกลับเธอยังไม่ทันลงมือจะพิมพ์มีหัวของใครคนหนึ่งชะโงกเข้ามา "ใครกันใครกันแฟนเหรอ?" เธอหลบไม่ทันปวิมลมองเห็นเนื้อหาของข้อความเสียแล้วเห็นชัดว่าเป็นคำพูดที่ผู้ชายพูดกับผู้หญิง:ฉันถึงมหาวิทยาลัยแล้วรออยู่ที่กลางซอยเล็กๆทางตะวันตก เขาเป็นใครกันแน่มารอยังต้องแอบรออยู่ที่ซอยเล็กๆด้วย?ถ้าไม่กลัวว่าถูกใครเห็นก็คงไม่ต้องแอบในที่ๆลึกลับขนาดนั้น? ดราณีรีบล็อคหน้าจอโทรศัพท์มือถือทันทีมองดูปวิมลอีกครั้งคิ้วขมวดขึ้นเธอไม่ใช่คนที่จะชอบโมโหใส่คนอื่นแต่ตอนนี้เริ่มจะโมโหขึ้นมา"ปวิมลเธอแอบดูข้อความในโทรศัพท์ของฉันทำไม?" ในสายตาของเธอคนที่ดูข้อความของคนอื่นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบของผู้เป็นเจ้าของคือการกระทำที่ผิดศีลธรรมและไม่มีมารยาทอย่างมาก ปวิมลดูท่าทีของเธอออกแต่ยังไม่สำนึกว่าตัวเองผิดรู้สึกแค่ว่าเธอแสดงเก่งทำเป็นตีหน้าพูดมาประโยคหนึ่ง"ฉันไม่รู้ว่าเธอถือขนาดนี้อีกอย่างแปบเดียวเองฉันยังไม่ทันเห็นอะไรเลย......" ไม่เห็นจริงๆเหรอ? ดราณีอยากถามแต่ในสุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดอะไร คำพูดแบบนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรถึงแม้ว่าเธอจะเห็นเธอก็ไม่ยอมบอกหรอก "ฉันมีธุระขอตัวก่อน"ทิ้งประโยคนี้ไว้ดราณีไม่สนใจว่าปฏิกิริยาของเธอจะเป็นยังไงเดินอ้อมเก้าอี้เดินออกไปจากห้อง ปวิมลมองตามหลังเธอที่ออกไปจากห้องเรียนไฟโมหะก็ลุกกรุ่นอยู่ในใจ หาเกาะคนมีเงินได้ยังกลัวจะให้คนอื่นรู้นี่มันเหตุผลอะไร?เป็นแค่เด็กเสี่ยหล่อนยังแสดงท่าทีสูงส่งอีก? ปวิมลยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหยิ่งคิดก็ยิ่งกลืนความโกรธนี้ไม่ลงมองดูหลังของเธอที่เดินจากไปเธอโกรธจนกัดฟันกรอด เธอค่อยๆสะกดรอยตามปวิมลระยะห่างประมาณห้าเมตรจะได้ไม่รู้ตัวแล้วก็ตามทัน ส่วนดราณีที่เดินอยู่ด้านหน้าไม่คิดว่าเธอจะถูกสะกดรอยตามแถมกลางวันแสกๆในมหาวิทยาลัยอีกจะมีใครตามเธอ เธอเดินอย่างรวดเร็วเกือบจะถึงซอยที่อยู่ด้านทิศตะวันตกของมหาลัยแปบเดียวก็มองเห็นรถSUVสีแชมเปญจอดรออยู่ข้างซอย ตอนแรกปวิมลคิดว่ารถที่จะมารับจะเป็นรถเบนส์สีดำที่เห็นเมื่อกลางวันนี้ไม่คิดว่าจะเป็น...SUV?!
已经是最新一章了
加载中