ตอนที่741แผนทำลายคู่รัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่741แผนทำลายคู่รัก
ตอนที่741แผนทำลายคู่รัก เสียงยังไม่หลุดออกจากปากทันใดนั้นต้นคอของหล่อนถูกพละกำลังที่แรงมากดึงขึ้นมาเมื่อหล่อนมองไปยังด้านหน้าเห็นเงาสีดำที่ทอดลงมาไม่ทันมีการตั้งรับใดๆปากก็ถูกครอบครองปิดสนิทอย่างแน่นหนา เขาโจมตีอย่างดุเดือดส่วนมืออีกข้างก็ดันบริเวณด้านหลังเอวคอดของเธอและพยายามผลักดันตัวเธอชิดผนังกำแพงด้านหน้า หลังของดราณีชิดผนังกำแพงในที่สุดเธอก็หาทางออกให้ตัวเองได้นิดหนึ่งหล่อนเบิกโตโพลงมองคนที่อยู่ตรงหน้าหล่อน เมื่อเทียบกับความตกใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหล่อนแล้วชนัยกำลังหลับตาขนคิ้วสั่นเทาตอนจูบเธอเขารุนแรงไปนิดเขาแทบไม่ได้สนใจเลยว่าฟันของเขาจะขบโดนริมฝีปากเธอหรือไม่แต่เขาพยายามใช้ลิ้นลุกล้ำเข้ามาแทรกเกี่ยวกระหวัดกวัดแกว่งเกี่ยวพันปลายลิ้นของเธอยิ่งทวีคูณเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ ทำไมเขาถึงได้... ดราณีรับไม่ได้กับจุมพิตอันเร่าร้อนที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวเธอพยายามหลีกเลี่ยงแต่กับถูกเขาใช้มือกดบังคับไว้แน่นครึ่งตัวของเขาเกือบแนบสนิทชิดกายเธอความร้อนระอุกำลังถาโถมและเริ่มลุกไหม้ “ชะชนัย.....”ดราณีเริ่มอ่อนระทวยยืนไม่ไหวเมื่อกี้เพิ่งเผชิญหน้ากับความน่ากลัวของคุณปู่ยังไม่ทันตั้งตัวไหงตอนนี้กลับมาเนื้อแนบแอบชิดขนาดนี้หล่อนไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ชนัยไม่ได้มีความคิดที่จะปล่อยหล่อนให้หลุดมือไปยิ่งควานหาร้องขอมากขึ้นทีละนิดๆ ในทรวงอกกำยำของเขามันมีเรื่องราวต่างๆมากมายที่กำลังสัมผัสได้ซึ่งไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดได้ต้องทำอะไรสักอย่างดวงตาของเขาร้อนดั่งไฟกำลังแผดเผาเขาได้ยินหัวใจของเขาเองที่กำลังเต้นอยู่ ‘ตุ๊บ—ตุ๊บ--’ เสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆมันดังสนั่นเข้าไปในโสตประสาทหูเสียงนั่นมันทำให้เลือดเขาพล่านซ่านไม่หยุดไปทั่วกายเหมือนกับเลือดกำลังวิ่งเตลิดชนเข้ากับเส้นเลือดหรือของอะไรบางอย่างที่กำลังโจมตีร่างกายของเขาอยู่ ชนัยไม่สามารถทนต่อไปได้แล้วสิ่งที่เขาหื่นกระหายคือสาวน้อยของเขามีเพียงแค่ดราณีเท่านั้นที่สามารถเป็นยาชั้นดีที่จะรักษาอาการของเขาได้ เขาหลับตาพริ้มพร้อมทั้งบรรจงจูบเธอไม่หยุดหย่อนในดวงตาของเขามันปรากฎภาพที่หล่อนกล้าที่จะยืนเผชิญหน้าสู้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นด้านหน้าหล่อนกลัวมากทำไมเขาจะไม่รู้ เหตุเพราะฝ่ามือเขานั้นกุมมือสาวน้อยเย็นเฉียบ แต่ตอนนั้นสาวน้อยก็เลือกมีจะปกป้องเขา ชีวิตสามสิบสามปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างปู่กับเขาไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุธรรมดาเขาเป็นตัวแทนในเรื่องราวต่างๆมากมาย เป็นตัวแทนซึ่งการสูญเสียและความเย็นชาอันหนาวเหน็บในวัยเด็กของเขาเป็นตัวแทนในเรื่องการรับผิดชอบอย่างไม่มีทางเลือกและการร้องขอเป็นคนคอยการแทรกแซงชีวิตเขาทุกกระเบียดนิ้วทั้งชีวิต ตั้งแต่เขาเริ่มจำความได้ปู่พยายามทดสอบเขาตลอดเวลาการทดสอบที่ว่านี้ไม่ใช่การทำการบ้านให้เสร็จหรือการเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมมากมายแต่สุดท้ายแล้วการทดสอบนี้มันเหมือนการทดสอบที่ไม่ใช้ความเป็นมนุษย์ การทดสอบแบนี้วันแล้ววันเล่ามันทำให้ชนัยชินชาจนพ่อกับแม่ยังรับรู้ถึงผลกระทบชนัยถึงได้เกิดอารมณ์ความรู้สึกอื่นตามมานั่นคือความ–เกลียด แม้ว่าจะเป็นความเกลียดชังนานวันเข้ามันกลายเป็นทรมานหากเป็นการเกลียดกันธรรมดามันคงแก้ไขได้แต่กับเขามันไม่ใช่การใช้อารมณ์ความรู้สึกหลอมรวมเข้าด้วยกันมันทำให้เขาทรมานทุกวัน แปบเดียวระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมามันก็ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องกลัวเลยว่าหากชนัยหงุดหงิดใจขึ้นมาจะไม่เกิดอาการลงไม้ลงมือทำอะไรปู่ได้จริงๆบางสิ่งที่มันฝังเข้าไปในกระดูกตั้งแต่เด็กแล้วไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ แต่ตอนนี้กลับมีหล่อนที่ยอมเอาตัวเองยืนหยัดต่อสู่อยู่ด้านหน้าระหว่างเขากับปู่ ความรู้สึกแบบนี้มันเกินคำว่าซาบซึ้งไม่มีคำพูดใดๆที่สามารถอธิบายถ่ายทอดออกมาได้ ดราณีรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอารมณ์ของเขาที่ปล่อยวางไม่ได้สักทีหล่อนซุกในอ้อมอกเขาอย่างว่าง่ายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆ ถึงแม้ว่าเดาไม่ถูกว่าทำไมอารมณ์เขาถึงได้ขึ้นได้ขนาดนี้แต่พอจับจุดได้เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ก็เดาออกได้บ้าง ชีวิตเขาน่าจะผ่านความยากลำบากมาก่อนมั้งไม่งั้นคงไม่อารมณ์รุนแรงกับเรื่องเล็กๆนี้ได้แน่ๆ บ้านของเธอก็แค่ม่มีเงินแต่พ่อแม่ของเธอเสนานีและทยุติต่างให้แต่สิ่งที่ดีที่สุดแก่เธอเสมอแต่ชนัยช่างต่างกับเธอเขาไม่เคยได้อะไรเลยนอกจากเงิน เขาจุมพิตจนไม่สามารถหยุดยั้งชนัยตวัดแขนเกี่ยวตัวหล่อนหอบขึ้นสวรรค์วืมานชั้นสองเขากวาดโทรศัพท์มือถือที่เงียบสนิทที่วางอยู่ตรงกลางผ้าห่มปุยนุ่นลงพื้นเสียงดังครืดๆ ทั้งตัวของดราณีก็ยังคงอยู่ในอ้อมอกของเขาประหนึ่งว่าหล่อนเอาตัวเองประเคนให้กับผู้ชายคนนี้จนหมดสิ้น การชอบใครสักคนก็ไม่มีอะไรที่ต้องหวงแหนอีกต่อไปขอแค่ให้ในสิ่งที่ตัวเองมีทั้งหมดไปก็เท่านั้น หากว่าตอนนี้เขาไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรความรู้สึกแบบนี้ดราณีเข้าใจ หากแต่ในครั้งนี้ชนัยค่อนข้างรุนแรงก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้งเขาแค่ทำเธอเจ็บนิดเจ็บหน่อยแต่ดราณีก็ไม่ได้บ่นอะไรหล่อนยินยอมอย่างหมดใจกับการทรมานอย่างไร้ขีดจำกัดในขณะนี้ หน้าต่างด้านนอกแสงตะวันลับขอบฟ้าเสียงอื้ออึงเบาลงเวลานั้นเขานอนแนบทาบร่างด้านหลังของหล่อนเสียงแหบกระซิบอย่างเบาๆมันทำให้หัวใจโลดเต้น“พูดมาสิว่ารักฉัน” ดราณีแอ่นตัวขึ้นพร้อมกับเปล่งเสียงบอกรักตามลมหายใจที่เร่งรีบติดๆขัดๆ“ฉันรักคุณ” “เรียกชื่อผม” “ชนัย....”ใบหน้าของเธอแดงระเรื่ออย่างกับลูกพีชหล่อนพริ้มตาลงพร้อมทั้งร้องเรียกหาเขาไม่หยุด“ชนัยชนัย....” เสียงนั่นมันดังจนถึงหัวใจด้านในสุดเขาคลายตัวเธอออกจากอ้อมอกสายตาบ่งบอกถึงความตื้นตัน“อย่าจากผมไป” ดราณียื่นมือออกมาลูบคลำหน้าอกที่แข็งแก่งของเขา“ขอแค่คุณไปล่อยมือฉันก็จะไม่ไปจากคุณ” เธอไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยสักอย่างสวยกว่าเธอก็มีฉลาดกว่าดีกว่าเธอก็มีไม่น้อยหากพูดถึงประเด็นสักนิดน่าจะเป็นที่เขามั่นใจในตัดสินใจแล้วจะไม่การเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ด้านชนัยเองหล่อนมั่นใจแล้วเขาก็จะไม่ปล่อยเธอไป ชนัยกอดประคองหล่อนแน่นศีรษะซอกไซ้ไคลคลึงบริเวณซอกคอของหล่อนจุมพิตเนิบนาบบนหัวไหล่กลมกลึงแต่ทว่าในใจลึกๆของเขามีบางอย่างที่ว่างเปล่ามันไม่สามารถพรรณาออกมากได้ ที่ตาแก่นั่นพูดมั่นทิ่มทะลุเข้าไปในเลือดเนื้อของเขาแค่คิดถึงมันทำให้เจ็บปวดรวดร้าวอย่างอดไม่ได้ ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนถึงสองทุ่มครึ่งหลังจากชำระร่างกายเสร็จชนัยให้หัวหน้าพ่อครัวของวิลลาจัดเตรียมส่งอาหารขึ้นมาด้านบน ปลานึ่งซีอิ๊วผัดซาลารี่ใส่กุ้งสดหน่อไม้แห้งผัดเนื้อวัวผัดเห็ดหอมทรงเครื่องและซุปเป็ดตุ๋นซึ่งอาหารสี่อย่างน้ำซุปหนึ่งอย่างเป็นอาหารปกติธรรมดารสชาติค่อนข้างจืดและรับประทานง่าย วันนี้ดราณีไม่ได้ทานอาหารกลางวันตอนนี้เป็นเวลาที่เธอหิวพอดีไม่รู้ว่าตั้งใจรักษาภาพพจน์ไว้หรือป่าวหรือยังไงคีบอาหารได้ก็ยัดใส่ปากแน่นเร็วกว่าปกติมาก ชนัยมองเธอที่กินอย่างอิ่มหมีพีมันไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เผลอหลุดหัวเราะออกมาอย่างขำขัน หลังจากที่ผู้ใหญ่กลับไปเขาเองได้แต่คิดหนักสีหน้าวิตกพอได้ยินเสียงเขาหัวเราะดราณีเลยหันมาไปที่มาของเสียงนั่น“หัวเราะอะไร?” “หัวเราะเธอไงยังมีกะจิตกะใจกินข้าวได้อีก” เดิมที่เขาคิดว่าถึงแม้ดราณีสามารถทนต่อความกดดันได้แต่ก็ไม่ใช่สภาพที่ยังไงก็ได้แบบนี้ดูแล้วเป็นเขาเองที่ดูเธอผิดไป ในทางกลับกันเพราะว่าหล่อนไม่รู้เลยว่านิสัยและอำนาจทั้งหมดของคุณปู่ที่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไรเลยไม่ได้เก็บมาคิดเท่าไหร่ ดราณียกถ้วยขึ้นโกยข้าวที่อยู่ในนั้นเข้าปากกินเสร็จถึงได้พูดว่า“งั้นฉันต้องควรทำยังไงล่ะ?ไม่กินไม่ดื่มอะไรเลยหรอ?” ชนัยได้แต่ส่ายหัวไปมามันไม่ใช่สิ่งที่พูดออกมาอะไรแบบนั้น หล่อนไม่รู้ก็ดีแล้วไม่ต้องมาแบกรับอะไว้ตั้งแต่เริ่มแรกปัญหาพวกนี้ก็ไม่ควรเอามาทำให้เธอลำบากไปด้วยกัน ดราณีมองใบหน้าเขาที่แสดงออกมาว่าจะยอมพูดอะไรออกมาหล่อนได้แต่เช็ดปากและวางตะเกียบที่ถืออยู่ในมือวางบนถ้วยและพูดด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า“ชนัยฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่และคุณก็รู้ว่าระหว่างคุณกับฉันเราทำข้อตกลงกันไว้แล้วคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแน่ๆแต่ว่าฉันอ่ะใช้ใจของฉันพิจารณามันออกมาฉันอยากจะเดินไปกับคุณตลอดฉันรู้ว่ามันยากมากแต่ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ขอแค่ครั้งนี้คุณเชื่อฉันสักครั้งได้ไหมคะ?” เขาขมวดคิ้ว“ฉันไม่ได้ไม่เชื่อใจเธอ” “งั้นเรื่องอะไรล่ะ?” ขนตาที่ดกดำหล่นลงบนเปลือกตาของเขามันบดบังความรู้สึกเขาไว้เขากลืนคำพูดลงคอที่แห้งผากเห็นได้ชัดว่ากำลังเครียด
已经是最新一章了
加载中