ตอนที่761 นัดเจอกันที่โรงแรม

ตอนที่761 นัดเจอกันที่โรงแรม เกวลินอยากจะบอกว่ามี แต่เธอรู้ว่าการโกหกไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ จึงตอบอย่างไม่โกรธอะไร "ไม่มีอะไรนี่" ถ้าหล่อนเกาะชนัยได้ วันนี้หล่อนคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้? ไม่มีอะไร ...... ประธานณภัทรรู้สึกสับสนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกวลินพูดจริงหรือโกหก แต่ถ้าสองคนคนไม่รู้จักกันจริง ทำไมชนัยถึงไม่สกัดข่าวก่อนที่จะแพร่สะพัดออกไป ถึงแม้ว่าข่าวจะถูกปล่อยออกมาแล้ว เขาก็ควรออกมาแก้ข่าวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหล่อน แต่เขากลับไม่แก้ข่าวปล่อยไว้เฉยๆ? ผลที่จะตามมาของการทำแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น ประธานณภัทรรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้เป็นที่น่าจับตามองของนักข่าว ท่าทีไม่ร้อนไม่หนาวของเขา อาจจะทำให้มีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ปฏิเสธก็หมายความว่ายอมรับ ตอนนี้ประธานณภัทรให้ข้อสรุปเช่นนี้ จะไม่รู้ได้ยังไงว่าต่อไปจะมีข่าวลืออะไรออกมาอีก? ไม่ เขารู้ดี แต่เขาก็ให้ข้อสรุปเช่นนี้ ประธานณภัทรคิดนานเป็นวัน ถ้าอย่างนั้นก็ยังไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นยังไง สำหรับเกวลินแล้วตอนนี้หล่อนอยู่ในจุดที่โดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างโหดร้ายและดุดันพวกเขาจะต้องฉวยโอกาสนี้เพื่อดึงหล่อนขึ้นมา ไม่แน่ว่าหล่อนอาจจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส กลายเป็นตัวทำเงินให้กับบริษัทก็ได้ "ภารดี เดี๋ยวหลังจากกลับไป พวกนักสื่อข่าวให้ประชาสัมพันธ์กับแผนกโฆษณาจัดการไป แล้วก็แพร่ข่าวนี้ออกไปให้มาก ๆ ยังไงฝ่ายชนัยก็ไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีอะไร เราต้องทำลึกลับสักหน่อย เติมไฟให้โหมแรงกว่าเดิมเยอะๆ แต่อย่าลืมควบคุมเรื่องนี้ให้ดีอย่าให้ลุกลามใหญ่โตจนเกินไป ต้องรู้จักคำว่าพอดี" ประธานณภัทรสั่งการให้ลูกน้องจัดการเรื่องต่ออย่างรวดเร็ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถนัดของเขา ตอนนี้นักแสดงที่เขาปั้นมากับมือล้วนเป็นดาราที่มีชื่อเสียง แถมทำเงินให้บริษัทของเขาเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นในด้านนี้ เขารู้ดีที่สุดว่า ตอนนี้เกวลินต้องการอะไร เขามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พี่ภารดีทำอาชีพผู้จัดการส่วนตัวดารามานาน แค่ฟังก็รู้ลู่ทางของผู้เป็นหัวหน้า ใครไม่อยากให้ดาราให้สังกัดตัวเองเป็นดาวดังบ้าง จะทำเรื่องแบบนี้ต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างมารวมกันถึงจะเข้าล็อกได้ ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว เพราะฉะนั้นต้องคว้าโอกาสนี้ไว้อย่าปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด ดังนั้นข่าวของเกวลินดังขนาดขึ้นหน้าหนึ่ง อยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงค่อยๆจางหายไป บรรดาชาวเน็ตก็ชอบขุดคุ้ย แต่เรื่องที่พวกเขาขุดคุ้ยได้ของพระเอกเรื่องนี้น้อยมาก เกวลินเลยกลายเป็นจุดขุดคุ้ยอย่างสนุกสนาน ดีที่ประวัติของหล่อนไม่ค่อยโชกโชน เพียงแต่ปีที่ผ่านมาหล่อนเริ่มเข้าสังคมไปดื่มเหล้าเพื่อเอาใจพวกสปอนเซอร์ในวงการบันเทิงต่างๆ ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบอะไรกับชื่อเสียงหล่อนมากมาย คำเชิญเข้าร่วมรายการต่างๆเข้ามาไม่หยุดหย่อน พี่ภารดีเลือกไม่กี่รายการให้หล่อน ในที่สุดก็เลือกได้ว่าจะไปออกรายการอาหารแบบสัมภาษณ์ดารา เธอเลือกคาแรคเตอร์ให้หล่อนเป็นเด็กสาวที่เป็นมิตรใกล้ชิดง่าย และเป็นกันเอง แบบนี้จะส่งผลง่ายเวลาที่หล่อนต้องการล้างมลทินให้กับตัวเอง ในวันที่เลือกรายการที่จะออกนี้เอง ฝ่ายชนัยที่ไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเลยก็มีข่าวเข้ามา บอกให้หล่อนมาหาเขาที่โรงแรม S อีกฝ่ายทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง คำพูดแบบนี้ทำให้คนฟังจินตนาการไปได้ต่างๆนาๆ แต่สำหรับภาวดีแล้ว นี้เป็นโอกาสทองที่หายากยิ่ง ชนัยนำโชคมาให้เกวลินยิ่งใหญ่มหาศาลเพราะฐานะของผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ความจริงแล้วเธอก็ไม่ชัดเจน รู้แค่ว่า ประธานณภัทรค่อยข้างยำเกรงเขา ถ้าเบื้องหลังมีตัวละครทองค้ำอยู่ พวกเขายังต้องเป็นห่วงเรื่องเงินอัดฉีดหรือ? ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น อย่างน้อยกำไรของ JM ก็ต้องแบ่งให้พวกเขาอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเรื่องแบบนี้เกวลินก็รู้ดี ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่ใช่คนที่มีความเชื่อมั่นและอดทนสูงเป็นพิเศษ ดีที่เป็นคนพูดง่ายรู้ว่าต้องทำอะไร ทำให้ภารดีรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นในคืนนั้นเอง หลังจากรถตู้สีดำมาถึงที่โรงแรม S มุ่งหน้าไปลานจอดรถใต้ดิน ป้องกันพวกปาปารัสซี่ ภารดีส่งคนลงที่ด้านหน้าลิฟต์ เธอไม่ได้ลงไปด้วย แค่พูดสั่งหล่อนไม่กี่ประโยค "แสดงให้ดีล่ะ" เกวลินยิ้มให้เธอวางใจ "ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะทำให้ดีที่สุด" หลังจากที่หล่อนเรียนจบโรงเรียนการละครก็เซ็นต์สัญญากับJM เมื่อก่อนหล่อนลำพองตนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร วันๆก็ได้แต่ฝันว่าตัวเองจะเป็นดาวดังขึ้นมาสักวัน ผลออกมาคือหลังจากที่ละครที่หล่อนเล่นเป็นนักแสดงสมทบโด่งดัง ส่วนหล่อนเป็นตัวประกอบเอกหนึ่งในห้าของเรื่องก็เลยพลอยมีชื่อเสียงไปด้วย แต่ทางต่อจากนั้นไม่ได้ราบรื่น ต่อมาหล่อนรับงานเป็นนักแสดงสมทบอีกสองเรื่องแต่ละครไม่ได้ดังอะไรในยุคของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วแบบนี้ชื่อเสียงของหล่อนก็หายเข้ากลีบเมฆไปในไม่ช้า ตอนนี้ฟ้าประทานโอกาสทองให้หล่อนทั้งที หล่อนจึงไม่ได้อวดดีเหมือนแต่ก่อน คิดแต่ว่าอยากให้ชนัยมีความสุขเท่านั้น หล่อนจะได้มีเงินทองไหลเข้ากระเป๋า อยากให้คนที่ดูถูกหล่อนเอาไว้เสียใจ อีกอย่างฝ่ายนั้นก็ไม่ใช่ตาลุงเสี่ยแก่ ชนัยหน้าตาก็หล่อเหลา แม้ว่าจะไม่เคยเห็นเนื้อหนังมังสากับตา ก็พอจะดูออกว่าภายใต้เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ร่างกายของเขาน่าซบขนาดไหน และที่สำคัญที่สุดคือเขาโสดสนิทยังไม่ได้แต่งงาน ชายโสดหญิงโสด ถึงเป็นข่าวด้วยกันจะเป็นไรไป? คิดไปคิดมา เกวลินก็ตรงแด่วไปขึ้นลิฟต์ห้องที่จองไว้ของชนัยอยู่ชั้นยี่สิบสามหล่อนกดหมายเลขชั้นสักครู่ลิฟท์ก็มาถึง หลังจากเดินออกมาจากลิฟท์ หล่อนมองหาหมายเลขห้องจากป้ายบอกทางตรงทางเดินก็เดินมาหาห้องของชนัยเจอ หล่อนสูดหายใจเข้าลึก ปรับทวงท่าอีกหน่อย แล้วก็เคาะประตูใช้บัตรห้องพักที่ภารดีเตรียมไว้ให้รูดเข้าไปในห้อง ‘ติ๊ดๆ’เสียงเปิดประตูดังขึ้น หล่อนตื่นเต้นจนใจแทบเต้นออกมาข้างนอก หล่อนพลักประตูเข้าไปในห้อง ใบหน้ายิ้มอย่างเขะเขินและเต็มไปด้วยความหวัง "ท่านชนัย ไม่เจอกันนานเลยนะคะ...." ตอนแรกคิดว่าจะเห็นเงาของชายคนนั้น พอหาดูดีๆถึงรู้ว่าห้องว่างเปล่า คนหายไปไหนแล้วล่ะ? เกวลินขมวดคิ้ว หาอย่างละเอียดดูที่ห้องน้ำก็ไม่มีแม้แต่เงา เธอดึงม่านลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาภารดี "พี่ภารดีออกจากโรงแรมไปแล้วหรือยังคะ?" "เพิ่งเลี้ยวออกมาจากโรงแรมเอง เกิดอะไรขึ้น?" พอภารดีเห็นว่าหล่อนโทรมาหาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าท่า หล่อนมีเวลาโทรมาก็แสดงว่าเรื่องนี้คงไม่ราบรื่นอย่างที่คิดไว้... และอย่างที่คิด วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงที่กำลังตกใจของเกวลิน "ท่านชนัยไม่ได้อยู่ที่นี่ ในห้องไม่มีใครเลย" "ไม่มีใครเลย?" คร่าวนี้ ทำให้ผู้เจนจัดอย่างภาวดีก็รู้สึกตกตะลึงไปเหมือนกัน "จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ... " "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้ฉันเพิ่งเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นมีใครอยู่ อีกอย่างฉันก็ไม่มีเบอร์ติดต่อท่านชนัย" เกวลินคิดทบทวนไปมาก็เคยเจอกับชนัยแค่ครั้งเดียว ไม่ต้องพูดถึงเบอร์ติดต่อส่วนตัวเลย แม้แต่เบอร์ติดต่อเลขาของเขายังไม่มี คิดไปคิดมาก็น่าหัวเราะ ข่าวลือกระฉ่อนขนาดนั้น แต่พวกเขากลับไม่สนิทกันสักนิด ภารดีรีบให้หล่อนสงบสติอารมณ์ไว้ "เธออย่าเพิ่งรีบ ฉันลองโทรคุยกับประธานณภัทรก่อนเธอรออยู่ในห้องนั้นก่อน" "ได้ค่ะ" หลังจากวางสาย ภาวดีก็รีบโทรหาประธานณภัทรทันทีหลังจากอธิบายรายละเอียดทั้งหมดจบประธานณภัทรเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยาก "เอาอย่างนี้ เธอบอกให้เกวลินรอในห้องนั้นไปก่อน ฉันก็ไม่ได้สนิทอะไรกับทางชนัย เรื่องแบบนี้พวกเธอคิดวิธีแก้ไขกันเองแล้วกัน ระวังอย่าให้กระทบมาถึงบริษัทและตัวฉันด้วย " ภารดีไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยกเลิกแผนการ หันกลับมาปลอบใจเกวลินแทน เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย ท่านชนัยผู้นี้หมายความว่ายังไงกันแน่? อีกทางหนึ่งก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องข่าวอื้อฉาว อีกทางหนึ่งก็หลบหน้า ในเมื่อไม่อยากเจอ แล้วจะนัดหล่อนออกมาหาทำไม ? หรือเป็นเพราะว่าอยากตกเป็นข่าวมากขึ้น ? ความคิดนี้แวบเข้ามาในสมองเพียงชั่วครู่เธอก็กำจัดไป หรือว่าจะเป็นเพราะอย่างอื่น แต่อีกฝ่ายคือชนัย เขาไม่เห็นจำเป็นต้องใช้วิธีการแบบนี้โหมไฟข่าว ภารดีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว คงทำได้แค่ไปตายเอาดาบหน้า