ตอนที่763 ฉลาดขึ้นหน่อย

ตอนที่763 ฉลาดขึ้นหน่อย ในเย็นวันนั้น เกวลินไม่รู้วัตถุประสงค์ของการมาของชนัย จึงไม่ได้เอาเรื่องนี้รายงานผู้จัดการส่วนตัวให้รู้ อ่านข่าวออนไลน์เธอถึงได้รู้ว่าชนัยมาที่โรงแรม ในอีกไม่กี่วันต่อมา มีข่าวออกมาครั้งที่สองว่าทั้งสองออกมาจากโรงแรมด้วยกัน ความร้อนแรงของข่าวก็ยิ่งปะทุ ภารดีรู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อถามหล่อน "เมื่อวานท่านชนัยไปหาเธอเหรอ?" เกวลินแต่งหน้าเพื่อกำลังเตรียมออกรายการ หล่อนพยักหน้า "ใช่ค่ะ" "ทำไมไม่บอกฉัน?" "เขาอยู่ไม่นานก็จากไป อีกอย่างตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว"หล่อนใช้คำพูดเพื่อกลบเกลื่อน ที่จริงแค่ไม่อยากให้พี่ภารดีรู้เยอะจนเกินไป เรื่องนี้หล่อนคิดมาทั้งคืน ในเมื่อท่าทีของชนัยดูไม่ชัดเจน ยังไงคนนอกก็ไม่รู้อยู่ดี ฉวยโอกาสนี้ให้คนอื่นคิดไปเองก็ดี ทำเป็นว่าชนัยชอบเธอ แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการหรือคนอื่นๆ ก็ต้องกลัวเธออยู่บ้าง ภารดีไม่รีบพูดต่อเธอรอจนหล่อนแต่งหน้าเกือบเสร็จ ก็ไล่ช่างแต่งหน้าให้ออกไปถามหล่อนตรงๆ "สิ่งที่ควรทำ ก็ทำแล้วใช่ไหม?" ประโยคเดียว จบทุกคำถาม เกวลินรู้ว่าเธอต้องการถามถึงเรื่องอะไร นึกถึงสายตาชายหนุ่มที่รังเกียจหล่อนคู่นั้น หล่อนก้มหน้าแอบซ่อนแววตาที่แสดงถึงความผิดหวัง ปากก็พูดน้ำเสียงดูมีความสุข "ใช่สิค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะเรียกฉันไปทำไม?" "เขามาหลังจากที่เธอโทรหาฉันใช่ไหม" "ค่ะ หลังจากนั้นตั้งนานเขาถึงได้มา ฉันเกือบจะนอนหลับแล้ว" เกวลินไม่อยากให้เธอถามมากไปกว่านี้ แสร้งทำเป็นหัวเราะร่า "ประธานชนัยนี่ก็จริง ๆ เลย บอกกับเขาแล้วว่าวันนี้ฉันมีอัดรายการต่อ ยังจะมาจนดึกดื่นอีก" คราวนี้ภารดีไม่ได้ถามต่ออีก ได้แต่กำชับหล่อน "นานๆทีจะมีโอกาสดีๆแบบนี้ เธอต้องเรียนรู้ที่จะคว้าไว้" เกวลินยิ้มๆ ใช้สายตาให้เธอสบายใจได้ "ฉันรู้แล้วค่ะ" อีกไม่นานการบันทึกรายการก็เริ่มขึ้น ทั้งหมดใช้ห้องแต่งตัวร่วมกัน ในช่วงที่ตกอับที่สุด ต้องแต่งหน้าเองด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่เพียงแต่มีห้องแต่งหน้าเป็นของตัวเอง แววตาของคนพวกนั้นที่มองเธอก็ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าคนอื่นจะมองหล่อนอย่างไร ถึงยังไงชนัยก็ยังไม่ได้แต่งงาน หล่อนไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกเสียหน้าอะไร อีกอย่างวงการนี้ดาราผู้หญิงที่จับสามีรวยๆของคนอื่นก็เยอะแยะ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หล่อนก็ยังดูดีกว่า คราวนี้นักแสดงหญิงที่หล่อนต้องมาบันทึกรายการด้วยมีชื่อว่า นิรัช ซึ่งเธอคนนี้มักจะถูกรับเชิญให้มาออกรายการเป็นประจำ ตอนแรกเป็นนักร้อง ต่อมาแสดงละครเรื่องหนึ่งก็โด่งดัง รับงานโฆษณาสินค้าไม่หวาดไม่ไหว เป็นตัวเรียกเรตติ้งของรายการนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่เกวลินเป็นข่าวโด่งดังถึงได้รับเชิญมาออกรายการนี้ชั่วคราว ในเวลานี้ทั้งสองพบกันในสตูดิโอบรรยากาศเปลี่ยนไปทันที เมื่อก่อนนิรัชอยู่ที่มูตี้คลับเฮาส์ ใช้เส้นสายเพื่อนที่รู้จักมีเกียรติได้ใกล้ชิดดื่มเหล้ากับชนัยอยู่ไม่กี่ครั้ง แม้ว่าในวงเหล้าไม่ได้ทำให้เธอสนิทกับเขาสักเท่าไร ยังไงก็ได้ใกล้ชิดกับชนัยมากกว่าคนอื่นอยู่ดี ดาราหญิงมากมายห้อมล้อมเขาไม่ขาดสาย แต่ล่ะชื่อพูดออกมาก็มีแต่ดาราดังๆสาวๆสวยๆทั้งสิ้น แต่เขากลับไม่เคยให้ใจใครเลยสักคน ดังนั้นชนัยผู้ที่มีอิทธิพลที่รวยมาก ทำให้เป็นที่หมายปองของผู้หญิงพวกนี้ แต่ก็ไม่มีใครครองใจเขาได้นาน มาวันนี้ดาราระดับล่างอย่างเกวลินกลับเป็นข่าวกับเขาอย่างโด่งดัง? นิรัชรู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่เป็นอารมณ์อิจฉาที่ไม่สามารถคว้าโอกาสแบบนี้มาได้ ตอนนี้ได้เห็นหน้าหล่อน อดไม่ได้ที่จะทักทายด้วยถ้อยคำเสียดสี "เธอคือเกวลินเหรอ?พูดไปพูดมารู้สึกว่าครั้งนี้เราจะเจอกันเป็นครั้งแรกสินะ" ตอนนั้นทุกคนกำลังจัดระเบียบฉากอยู่ ยังไม่ได้เริ่มบันทึกเทปรายการ หลังจากได้ยินเสียงเกวลินมองไปทางเธอ ช่างเป็นใบหน้าที่งามไม่มีที่ติ แม้ว่าเธอจะทำหน้ายิ้ม แต่ในคำพูดก็ฟังออกว่าเธอต้องการเสียดสีว่าหล่อนไม่มีประสบการณ์ เหมือนดาราชั้นล่างทั่วๆไป ดังนั้นเกวลินก็ยิ้มตอบกลับและกล่าวว่า "แหม๋ พี่นิรัชก็ทำลืมไปได้ เมื่อก่อนในกองถ่ายละครเราก็เคยร่วมงานกันแล้วนิค่ะ" "อ๋อ?" นิรัชเคยแสดงละครแค่เรื่องเดียว ลองนึกๆดูก็นึกไม่ออก "เธอคงรับบทเป็นตัวประกอบล่ะสินะ ถ้าเธอเล่นบทเด่นๆฉันจะจำไม่ได้ได้อย่างไร" รอยยิ้มบนใบหน้าของเกวลินแข็งทื่อไปพักหนึ่ง "เป็นแค่นักแสดงสมทบเองค่ะ ไม่น่าพี่นิรัชถึงจำไม่ได้" "ก็ใช่น่ะสิ แต่เธอก็อย่าโกรธกันเลยนะ ละครเรื่องหนึ่งมีนักแสดงตั้งหลายคน ฉันคงจำไม่ได้ทุกคนหรอก" "แน่นอนค่ะ"เกวลินยิ้มแล้วเบือนหน้าหนี นั่งบนโซฟากลางสตูดิโอยืดอกเตรียมถ่าย ท่าทางยังกับจะนั่งเมฆ "ต่อไป คงมีโอกาสร่วมงานกันบ่อยๆค่ะ" คราวนี้นิรัชเริ่มจะยิ้มไม่ออก ก็แค่เกาะชนัยได้เท่าเองล่ะ ดูหน้าเชิดๆของหล่อนสิน่าหมั่นไส้ ทำงานร่วมกันเหรอ?ดูเหมือนหล่อนอยากจะปีนขึ้นมาบนหัวเธอซะมากกว่า ? ใบหน้าของทั้งคู่มีแต่รอยยิ้มเข้าหากัน แต่ในใจก็หมั่นไส้ฝ่ายตรงข้ามกันอยู่ เกวลินยังไม่เป็นไร ตอนนี้หล่อนไม่กลัวใครอยู่แล้ว มีชนัยดั้นหลังอยู่ จะมีใครกล้าว่าอะไรเธอ? ที่ยิ่งโมโหคือนิรัช ไฟโมหะลุกท่วมใจ หลายครั้งที่ตอนกำลังบันทึกรายการอยู่จงใจเสียดสี จนทำให้ผู้กำกับรายการใกล้จะทนไม่ไหว ร้องคัตอยู่หลายครั้ง บันทึกรายการอยู่เกือบห้าชั่วโมงถึงเสร็จ สงครามทางจิตและความเครียดตึงจนแทบขาด กลับมานั่งที่ห้องพักรับรองนิรัชเตะรองเท้าที่ใส่อยู่ออก โมโหจนไฟลุกหัว "เกวลินคนนี้ชั้นต่ำจริง ๆ ดูท่าทางไม่เห็นหัวใครของหล่อนสิ ยังไม่ทันได้ดังจริงๆด้วยซ้ำทำเป็นแน่! " ผู้จัดการส่วนตัวรีบเดินไปปิดประตูห้องรับรองทันที แล้วกระซิบว่า "เธอก็พูดน้อยๆหน่อยเถอะ คนอื่นได้ยินเดี๋ยวก็เป็นข่าวอีกหรอก" ก่อนหน้านี้นิรัชก็เป็นข่าวว่าโอ้อวดเล่นตัว ถ้ามีข่าวทำนองนี้อีก มันก็ยากที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอกลับมาดีเหมือนเดิม อยู่ในแวดวงบันเทิงนอกเหนือจากหลักการของปัญหาต่างๆแล้ว อีกสองจุดใหญ่ที่ไม่ควรทำคือ หนึ่งเรื่องการเมือง สองก็คือโอ้อวดเล่นตัว ในความคิดของชาวเน็ต ดาราที่หาเงินง่ายๆแล้วทำเป็นเล่นตัว เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ใครที่มีประวัติดำแบบนี้ ไม่ว่าเรื่องจะผ่านไปนานขนาดไหนก็ต้องถูกขุดคุ้นมาเป็นขี้ปากจนได้ ดังนั้นไม่ว่าดาราคนนั้นจะภูมิใจโอ้อวดเล่นตัวขนาดไหน ในเวลาออกสื่อก็ต้องทำตัวสุภาพอ่อนโยน ส่วนดาราที่แสดงออกถึงตัวตนเยอะๆแต่ในใจไม่ได้คิดอะไร พอตอนออกสื่อก็ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ทำให้รู้สึกไม่ค่อยมีมารยาททำให้ถูกเข้าใจผิดได้ง่ายๆ นิรัชเป็นประเภทแรกดังนั้นต้องค่อยกังวลดูแลเป็นพิเศษ ตอนนี้ พอนึกถึงเกวลินชูหน้าชูตา นิรัชก็โมโหจนไฟออกหูมองใบหน้าที่งามอย่างไรที่ติของตัวเอง ก็ทำให้โมโหหนักขึ้นกว่าเดิม "เธอพูดสิ ฉันสู้นังเกวลินไม่ได้ตรงไหน ชนัยถึงชอบหล่อนไม่มาชอบฉัน?" พูดๆไปเกวลินก็ไม่ใช่หน้าใหม่ ถึงแม้ว่าชนัยจะมองหาคนที่มีประสบการณ์น้อย ทำไมไม่ไปหานักแสดงภาพยนตร์ทำไมต้องเลือกดาราชั้นล่างแบบนี้ด้วย? เมื่อพูดถึงปัญหานี้ ผู้จัดการของเธอก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ได้แต่คิดว่าท่านชนัยคงอยากจะเปลี่ยนรสชาติละมั้ง "เธอไม่ต้องคิดมากหรอก คนมีเงินแบบนี้อีกไม่นานคงเฉดหัวทิ้งแล้วมีใหม่ รออีกสักพักฉันค่อยหาวิธีให้เธอใกล้ชิดกับเขา ลองดูจัดงานเลี้ยงเชิญเขามา เธอก็ทำตัวฉลาดๆหน่อยล่ะ" ได้ยินดังนั้น นิรัชถึงคลายความโกรธลงไปบ้าง ถูเล็บไปมาพลางพยักหน้า "ถ้าอย่างนั่นก็ต้องรบกวนคุณแล้ว"