ตอนที่772 ต้องไม่ให้เขารู้เด็ดขาด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่772 ต้องไม่ให้เขารู้เด็ดขาด
ตอนที่772 ต้องไม่ให้เขารู้เด็ดขาด สิ่งที่เธอทำได้คืออยู่ข้างๆเขา ถ้าหากเรื่องแบบนี้เธอยังหนักแน่นไม่ได้ ก็สู้ปล่อยเขาไปตั้งแต่แรกไม่ได้ “ตั้งแต่เล็กจนโตนอกจากเรื่องเรียนแล้ว ก็เหมือนกับว่าไม่เคยจะจริงจังเรื่องอะไรมาก่อน ครั้งนี้ฉันอยากจะหนักแน่นสักครั้ง” ชนัยสงสารจับใจ “จะเหนื่อยมากนะ” “ฉันรู้ ฉันไม่กลัว” ดราณีไม่ลังเลเลยสักนิด เหมือนกับพูดเรื่องธรรมดาๆเรื่องนึง “ยังดีที่ได้เจอคุณ” ชนัยไม่ใช่คนที่ชอบพูดอะไรเลี่ยนๆแบบนี้ วินาทีมันพรั่งพรูออกมาจากใจจริงๆ “ถ้าไม่ใช่คุณ ผมคงยอมแพ้ไปแล้ว” การกดขี่ของชายชราก็ดี การกำกับดูแลของครอบครัวก็ดี ทั้งหมดนี้จะตกอยู่ในหัวของเขาไม่ช้าก็เร็ว มันก็แค่เป็นเรื่องของเวลา เพราะฉะนั้นชนัยเลยไม่เคยโทษดราณีเลย ถึงแม้ไม่มีเธอ เขาก็ต้องเจอชะตากรรมนี้อยู่ดี ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตระกูลธิสกุล คนสองคนนั่งอยู่บนชิงช้าในสวน บนตัวมีผ้าห่มบางๆปิดไว้ ราวกับเป็นฟิล์มปกป้องตัวเอง ดราณีกำลังจะมอบทุกอย่างให้เขา แต่เขากลับผ่อนคลายไม่ได้ เขาไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว ไม่ว่าจะยากยังไงก็ต้องอดทนต่อไป เพื่ออนาคตของเธอ อนาคตที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่สองคนกำลังจู๋จี๋กันอยู่ ณ บ้านธิสกุล ชายชราก็ได้รับข่าวจากทางเกวลินพอดี “ท่านประธาน ข่าวลือยังคงแพร่กระจายอยู่ เกวลินส่งกลับบริษัทแล้วครับ” พ่อบ้านรายงานอย่างนอบน้อม ท่าทีเกร็งๆเพราะกลัวว่าชายชราจะโกรธ แล้วภัยพิบัติจะมาถึงตัว ชายชราฟังแล้วหน้าตานิ่งเฉย “ชนัยล่ะ” อยู่ที่วิลล่าครับ “อยู่กับเด็กนั่นใช่ไหม” พ่อบ้านได้ยินถึงความเย็นที่เพิ่มขึ้นและเปลือกตาก็กระตุกขึ้น "ใช่ครับ" ชายชราถอนหายใจอย่างเย็นชา "โอเค เขายืนยันจะอยู่กับผู้หญิงคนนั้นแล้ว" พ่อบ้านไม่กล้าพูดต่อ และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ จริง ๆแล้วชายชรามีความเมตตามาก ไม่งั้นคงไม่คอยเตือนแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ชนัยจะรู้สึกถึงเจตนาที่แท้จริงของชายชรา แต่เขาก็ยังแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเขาไม่ได้มีความหมายอะไรในสายตาของเขา อย่าว่าแต่ท่านประธานเลย เขาเองก็ยังบีบเหงื่อเลย ขณะที่อ้ำอึ้งอยู่ ชายชราก็ถามต่อ “ทางบ้านของเด็กสาวเป็นยังไงบ้าง” “แม่ของเธอต่อต้านการคบกัน แต่เหมือนกับดราณีไม่ยอมเชื่อฟัง” ฉะนั้นตอนนี้ก็คือ สองฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการที่สองคนคบหากัน แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจ ท่านประธานเห็นว่าชนัยยอมกลับมาสืบทอดกิจการ เลยไม่อยากทำให้มันรุนแรง แต่ตอนนี้เห็นเขาแคร์เด็กสาวขนาดนี้ ถ้าหากไม่ตัดไฟแต่ต้นลม เกรงว่าผลสรุปจะยิ่งแย่ แต่ไม่ว่าจะยังไง ตระกูลธิสกุลก็ไม่มีวันรับสะใภ้อย่างดราณีเข้ามาได้ เมื่อก่อนเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ก็เหมือนกัน ดังนั้นชายชราตัดสินใจแล้วและมันเป็นใบเหลืองใบสุดท้ายของเขา "ส่งข้อมูลของดราณีให้กับศัตรูและให้คนอื่นช่วยเราจัดการ” พ่อบ้านชะงักไป เขาพบกับดราณีครั้งหนึ่ง เขานึกถึงใบหน้าที่อ่อนเยาว์ แม้ว่าจะไม่ได้คุยอะไรกันมาก แต่ก็อดจะสงสารเธอไม่ได้ “ท่านประธานครับ ถ้าคุณชนัยรู้เรื่องนี้ล่ะก็...........” ไม่รอให้เขาพูดจบ ชายชราก็กวาดสายตาอำมหิตมาทางเขา “แกมีสิทธิอะไรมาสั่งสอนฉัน” พ่อบ้านรีบเงียบปากทันที “ขอประธานโทษครับ ผมพูดมากไปแล้ว” ชายชราสูดลมหายใจลึก มือที่วางไว้บนพนักพิงกำแน่น นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว “ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง ฉันต้องยับยั้งไม่ให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ความรักมันไม่ได้มีผลดีต่อเขา มันจะยิ่งทำให้เขาอ่อนแอและดึงเขาลง” ตอนนี้ยังมีโอกาสที่จะแยกทั้งสองออกจากกัน เขาจะต้องไม่ใจอ่อน “ท่านประธานครับ ไม่ทราบว่าเราควรจะส่งข้อมูลให้ใครครับ” พ่อบ้านถามเพื่อความแน่ใจ เพราะศัตรูของตระกูลธิสกุลก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ชายชราครุ่นคิด ในสมองมีสองตัวเลือก คือตระกูลหลิวในทางใต้ และตระกูลจิรวราพงศ์ที่เพิ่งขยับขึ้นมา คิดไปคิดมาก็เลือกตระกูลจิรวราพงศ์ อิทธิพลของตระกูลหลิว ในเมือง J นั้นหยั่งรากลึกเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าจะไม่ได้ไปจับมือกับครอบครัวธิสกุล แต่ก็ไม่ได้เป็นเป้าหมายที่ดี อีกนัยหนึ่ง สไตล์การบริหารของตระกูลจิรวราพงศ์นั้นค่อนข้างจะเหลาะแหละกว่า ควบคุมได้ง่ายกว่า พ่อบ้านพยักหน้า “ผมจะรีบไปสั่งการครับ” —— เมื่อเวลาผ่านไป เกวลินยังคงเป็นจุดสนใจในสายตาของประชาชน เกือบสองเดือนของการแสดงบทบาทนี้ มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าเธอต้องแลกกับอะไรบ้าง ไม่สามารถชี้แจง ไม่สามารถยอมรับ สองประโยคนี้ทำให้เธอโดนจำกัดในทุกๆเรื่อง ทั้งต้องแบกรับข่าวลือการเป็นแฟนสาวของชนัย ทั้งต้องระวังความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง เธอไม่ใช่ไม่เคยคุยกับทางบ้านของชนัยเรื่องนี้ ถ้าต้องการให้เธอเป็นโล่ให้ ควรจะมีบอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัยให้บ้าง แต่เหมือนอีกฝั่งนึงก็ไม่ได้ใส่ใจจะปกป้องเธอขนาดนั้น จนเวลาผ่านไปนานยิ่งทำให้เกวลินคลั่ง เมื่อไหร่มันจะจบสักที ในงานประกาศผลรางวัล เกวลินได้รับตำแหน่งเป็นดาวดวงใหม่ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นรางวัลที่ธรรมดามาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวในงานประกาศรางวัลแบบนี้ มีดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนเฝ้ามองเธออยู่ล่างเวที และผู้คนส่วนใหญ่ในแวดวงก็แสดงดวงตาดูถูกเหยียดหยาม ไม่มีใครมีความประทับใจที่ดีต่อดาราที่มาจากข่าวลือ ดาราหญิงส่วนใหญ่ขี้อิจฉา ดาราชายส่วนใหญ่ก็มักจะมุ่งหวังเรื่องเซ็กส์ แต่เกวลินก็ไม่ได้ใส่ใจมาก เรื่องที่เธอกำลังประสบอยู่มันรุนแรงกว่านี้มาก ทำให้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจปฏิกิริยาของคนอื่น ดังนั้นหลังจากที่เธอขึ้นรับรางวัลบนเวที เธอพูดอย่างจริงใจว่า —— นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีของการเข้าวงการที่ฉันมายืนอยู่บนเวทีนี้ ฉันรู้ว่ามีหลายสิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้และหลาย ๆ คนก็ตั้งแง่ฉันต่างๆนานา ตัวฉันเองก็ทำแบบนี้เหมือนกัน แต่พอผ่านอะไรมาถึงทำให้เข้าใจว่า พอเข้าสู่แวดวงนี้ ทุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง เราไม่มีวันรู้เลยว่าวินาทีถัดไปจะเกิดอะไรขึ้น เราทำได้แค่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด หวังว่าจะได้รับกำลังใจเล็กน้อยจากทุกคน เพราะยังไงฉันก็ต้องก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป ขอบคุณทุกคนค่ะ
已经是最新一章了
加载中