ตอนที่784 แม้ว่าจะตายก็ต้องตายไปด้วยกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่784 แม้ว่าจะตายก็ต้องตายไปด้วยกัน
ตอนที่84 แม้ว่าจะตายก็ต้องตายไปด้วยกัน ตอนนั้นเองทุกสายตาจับจ้องไปที่เธอ ดราณีได้แต่งงๆ แค่รู้ว่าสายตาทุกคู่ส่งสายตาอย่างดีใจมาให้เธอ มันทำให้ใจเธอเต้นแรง นัชชางอตัวลงกระซิบที่หูของหนุ่มน้อย “รีบไปเรียกอาชนัยกลับมาแล้วบอกด้วยว่าอาดราณีฟื้นแล้ว” “ได้ครับ!” เด็กน้อยวิ่งทะลุออกไปนอกห้องพัก ดราณีมองนัชชาที่ด้านข้างลำตัวหล่อน “เป็นไงบ้าง ได้ยินเสียงของฉันไหม?” ดราณีอยากบอกว่าได้ยินเสียง แต่ว่าไม่มีเสียงเปล่งออกมา แค่จะพยักหน้าสำหรับเธอแล้วยังลำบากเลย ครึ่งนาทีผ่านไป ประตูห้องถูกคนเปิดออก แผ่นหลังที่ผ่านตาไปไวมาก จากนั้น ริมฝีปากของเธอก็มีริมฝีปากที่นุ่มนวลจุมพิตลงมาเบาๆ ผู้ชายก้มหัวลงไปจูมเธอ “ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว” ในที่สุด ... เตชิตถึงกับซาบซึ้งจนเหงื่อไหล แค่ผ่านไปคืนเดียว หากเป็นสองวันหนึ่งคืนล่ะ เขาพอจะเข้าใจอยู่ สายตาของดราณีตื่นตระหนกเล็กน้อย ปรัณรีบมาอย่างไว เขาตรวจสักพัก ถึงได้ถอนหายใจออกมา “ฟื้นขึ้นมาได้นี่ถือว่าร่างกายแข็งแรงมาก เพราะงั้นไม่กังวลอะไรให้มากนัก เพราะว่าอาการบาดเจ็บมันจะค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ แค่รอเท่านั้น” ชนัยพยักหน้า ไม่ต้องบอกให้รอหรอกคดราณีให้ทำอะไรเขาก็จะไม่เถียงสักคำ เตชิตรู้ว่าพวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัวเลยพานัชชากับเด็กน้อยออกมา หมอและพยาบาลที่ตรวจร่างกายเสร็จต่างก็ออกมาเช่นกัน คาดเดาได้ว่าในห้องพักผู้ป่วยคงมีค่คนสองคน ดราณีพูดไม่ได้ ในใจหล่อนคิดเรื่องมากมาย ความจำก่อนที่เกิดเรื่องจนหมดสติ อารมณ์ติดลบมากๆและเข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว หล่อนกังวลว่าที่บริเวณช่องท้องทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่.... ชนัยรับรู้ถึงอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเธอถึงได้คลายกังวลลงไปบ้าง ทำได้แต่ดูแลเธอให้ดีที่สุดและอยู่ข้างกายเธอไม่ห่าง ทั้งสองคนเป็นแบบนี้ไปเกือบอาทิตย์จนเข้าวันที่แปด ชนัยก็เริ่มทนไม่ไหวเขารีบคว้าปรัณมาถาม “เธอเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดอะไรเลย ที่แกสั่งยามามันได้เรื่องไหมเนี่ย?” ปรัณนิ่งไปสักพัก “แกเครียดจนลามมาถึงการรักษาของฉันแล้วหรอ?” ชนัยที่หน้าตาบูดบึ้งยอมปล่อยมือออก “แล้วทำไมหล่อนไม่ยอมพูด” “หลังจากตรวจอาการแล้วเธอพูดได้ แต่ว่ารายละเอียดที่ไม่ยอมพูดนั้น ต้องถามแกแล้วแหละ” “ถามฉัน? ฉันไม่ใช่หมอสักหน่อย จะรู้ได้ไงวะ” ปรัณได้แต่ส่ายหัว น้ำเสียงดูตั้งใจมาก “มีเหตุผลสองย่าง หนึ่งคือเธอยังปรับตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ว่าดูแล้วเปอร์เซนต์มันน้อยมาก สองคือ เธอไม่อยากคุยกับแกเลยเลือกที่จะเงียบแทน” ชนัยฟังแล้วสีหน้ายิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม ในใจเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ถ้าเธอไม่อยากคุยกับฉัน งั้น ... ปรัณคิดว่าเขาคงมีปัญหาอีกมากมายที่อยากจะถามเขา ที่ไหนได้แปบเดียวคนที่อยู่ตรงหน้าก็หันหลังหายไปเสียแล้ว เขามองงประตูที่ว่างเปล่า ได้แต่ถอนหายใจแบบไม่เสียง “มันช่างน่าอึดอัดใจเสียจริงๆเลย” ตอนที่ชนัยกลับมาที่ห้องพักคนป่วย ดราณีกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ ตอนนี้เธอสามารถที่จะนั่งอ่านหนังสือได้แล้ว อีกหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เวลาที่เขาเข้ามาเธอก็ไม่ได้มองเขานานแปบเดียวก็หันมาสนใจหนังสือ ชนัยยืนอยู่หน้าประตูประมาณครึ่งนาทีได้ ในใจตีกันวุ่น แต่ที่สุดแล้วก็เดินเข้าไปข้างๆตัวเธอ “ดราณี เธอพูดได้แล้วใช่ไหม?” ดราณีตัวแข็ง การตอบสนองเล็กน้อยนี่อยู่ในสายตาของชนัย เขางอตัวลง ตามองตา “ทำไมไม่สนใจผม หือ? เบื่อผมแล้วหรอ?” ขนาดตอบเขาเธอยังคงนิ่งอยู่ เขาก็ไม่ได้เบื่อ ถามต่อ “บอกผมว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ตามผมรับได้ ถ้าไม่อยากเจอผมไม่อยากคุยกับผม ผมสามารถหาคนมาแทนได้ อย่าทำให้ตัวเองลำบากเลย ได้ไหม? ” เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ทำให้เขาเครียด และไม่อยากบังคับเธอมากเกินไป ชนัยถึงกลับต้องยืนขึ้นเพื่อออกไปปรับอารมณ์ตัวเองสักหน่อย ตอนที่เขากำลังหันตัวกลับ เขากลับได้ยินเสียงแหบ “ฉันไม่ชอบความคิดแบบนี้ของคุณ” ไม่ได้หวังว่าเธอจะเปิดปากตอบ แต่เมื่อได้ยินคำพูด ชนัยสับสนเล็กน้อย “อะไรนะ?” ดราณีเงยหัวมองเขา “สองวันก่อนที่คุณคุยกับปรัณฉันได้ยินหมดแล้ว ที่บอกว่ารอวันที่ฉันหายแล้วค่อยคิดถึงความสัมพันธ์ของเราสองคน ไม่ใช่หรอ?” ชนัยตกตะลึง คิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาเป็นวันที่เธอฟื้นขึ้นมาได้สองวันแล้วที่เขาพูดกับปรัณหน้าห้องพักคนไข้ ตอนนั้นพวกเขาคิดว่าหล่อนคงหลับไปแล้วเลยไม่ได้ปิดประตูให้แน่น ที่แท้หล่อนได้ยิน ดราณีชูนิ้วชี้แล้วชี้ไปที่ปากแผลบริเวณหน้าท้องตนเอง “เพื่อคุณฉันยอมบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเจ็บขนาดไหน ฉันไม่เคยเสียใจเลย แต่ตอนที่ได้ยินประโยคนนั้น ฉันเสียใจที่คิดแบบนั้น ควรจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วคุณต้องคิดแบบนี้ ตอนนั้นไม่ควรจะรับมีดแทนคุณเลย....” ตอนที่เธอพูด เธอกลืนความขมขื่นลงคอ และบังคับไม่ให้ระเบิดออกมาแต่น้ำตามันก็ไหลออกมาแทน เธออยากจะเช็ดมันแต่ช้ากว่าชนัย “ผมแค่กลัวว่าคุณจะเกิดอันตรายเพราะผมอีกครั้ง” “งั้นคุณก็เลยจะใสหัวฉันไปใช่ไหม?” ดราณีกลัวน้ำตาจะหล่นไปยังฝ่ามือเขาที่ตั้งใจจะเช็ดแทน “ฉันไม่ต้องให้คุณทำแบบนี้” “ดราณี...” “ถ้าคุณวางแผนไว้แบบนี้แล้วก็ไม่ต้องมาดูแลฉัน” หล่อนกล้ำกลืนฝืนทนความรู้สึกที่ปวดใจไว้ และทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรสักนิดแบบนั้น “ยังไงคุณก็คิดจะไสหัวฉันไปอยู่ดี” “ผมไม่เคย” ชนัยปวดใจได้แต่เอาเธอเข้ายังอ้อมออกเบาๆ ทรวงอกเริ่มเต้นแรง “ผมไม่เคยคิดอยากให้คุณไปไหนเลย ปล่อยคุณไปมันก็เหมือนเอาชีวิตผมไปด้วย มันทำให้ผมเจ็บคุณรู้หรือป่าว!?” “ฉันไม่รู้ ที่ฉันดูออกตั้งแต่ที่ฉันอาการดีขึ้นคุณพยายามไล่ฉันไป” ดราณีเสียงเริ่มเศร้าโศก “สิ่งที่ผมทำไม่ใช่ว่าเพื่อให้คุณไปจากผม...” เสียงสดใสของสาวน้อยที่กึกก้องอยู่ในหูของเขามันเหมือนกับกำลังตบหัวชนัยเรียกให้ชนัยตื่น ตอนที่เธอตกอยู่ในอันตรายเขาไม่สามารถคาดเดาได้ถึงทำให้สาวน้อยของเขาเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายจริงๆ สิ่งที่เธอต้องการก็แค่การที่เขาอยู่เป็นเพื่อนเธอเท่านั้นเอง สักพัก ก้อนเมฆที่บดบังพระอาทิตย์ก็สลายไป สิ่งที่อยู่ในใจหล่อนเขาเข้าใจมันทั้งหมดแล้ว ชนัยจับมือคู่นั้นแน่ เอ่ยขอโทษเบาๆ “ผมผิดไปแล้ว” ดราณีหยุดการต่อต้านหลังจากได้ยินประโยคขอโทษนั่น น้ำตาก็หยุดไหลและสะอื้นนิดๆ “จะไม่ไล่เธอไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีวันนั้นอีกแล้ว” “แล้วถ้าคราวหน้าฉันเกิดเรื่องอันตรายขึ้นมาล่ะ?” คุณจะเปลี่ยนแปลงมันไหม? “ไม่มีทาง ถ้าตายก็ต้องตายไปด้วยกัน” ประโยคนี้ทำเอาดราณียิ้มได้ หล่อนพยักหน้าเบาๆ และเซ็นต์สัญญาชีวิตฉบับนี้ “ค่ะ”
已经是最新一章了
加载中