บทที่ 153 ความผกผันครั้งยิ่งใหญ่
1/
บทที่ 153 ความผกผันครั้งยิ่งใหญ่
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 153 ความผกผันครั้งยิ่งใหญ่
บทที่ 153 ความผกผันครั้งยิ่งใหญ่ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดของชายหนุ่ม ผู้ชายที่ดูดุร้ายในอดีตนั้นไม่มีอีกแล้ว จิณณะที่เห็นอยู่ในตอนนี้ดูแตกต่างไปมาก ไม่เหมือนตัวเขาในเมื่อก่อนเลยสักนิด ปุริมกำหมัด ไม่อยากต่อยแต่ก็ปล่อยหมัดไปแล้ว หมัดนี้ต่อยจิณณะจนซวนเซ “จิณณะ หากเกิดอันตรายอะไรกับเพ็ญภัทร์ ฉันจะชดใช้ด้วยชีวิตให้แกเอง ชีวิตแลกด้วยชีวิต” จ้องมองชายหนุ่มสองคนที่กำลังจะตีกัน เมนิลารีบไปอย่างไว อย่ากล่าวถึงเมนิเลย ในตอนที่เพ็ญนีติ์รู้สึกว่าปุริมและจิณณะจะต้องตีกันแน่ๆ แต่เหนือความคาดหมาย จิณณะไม่ได้ตอบกลับ หมัดนั้นทำให้หน้าของเขาช้ำไปซีก ริมฝีปากมีเลือดออก เขาจ้องปุริมแล้วกล่าวเสียงต่ำ: “เพ็ญภัทร์เป็นภรรยาของฉัน เรื่องของเธอแกไม่ต้องกังวล แกไปเถอะ แกไปซะ หากไม่มีแก ฉันกับเธอคงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ ลูก ลูกของเพ็ญภัทร์...” เขากล่าวออกมา ความร้อนแรงในคราแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงพึมพำแผ่วเบา เหมือนนึกถึงในอดีตช่วงก่อนจะเสียเพ็ญภัทร์ไป เหมือนว่าจิตใต้สำนึกเขาดูยุ่งเหยิงไปหมด ปุริมเงื้อหมัดอีกครั้ง แต่ถูกเมนิลาเข้ามาขว้างระหว่างชายหนุ่มทั้งสองเสียก่อน “ปุริม จิณณะพูดถูก เพ็ญภัทร์คือภรรยาของเขา ที่นี่คงไม่ต้องให้แกอยู่หรอก แกไปเถอะ” เพ็ญนีติ์ส่ายหน้า เธอไม่เข้าใจเมนิลาจริง ทำไมถึงลำเอียงเข้าข้างแต่จิณณะ “คุณป้าคะ ทั้งสองคนต่างก็เป็นลูกชายของคุณป้า แต่ทำไมคุณถึงปฏิบัติต่างกันเช่นนี้ล่ะคะ” “นั่นก็เป็นเรื่องของฉัน ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกอย่างเธอมาสนใจหรอก” เหลือบตามองเพ็ญนีติ์ เมนิลาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย “พ่อเป็นแบบไหนลูกก็เป็นแบบนั้น คนใหญ่ได้ผู้หญิงเช่นไรคนลูกก็ได้ผู้หญิงแบบเดียวกัน ปุริม แกหาให้ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ” มือที่กำแน่นอยู่แล้วยิ่งกำแน่นขึ้นไปอีก สายตาของปุริมราวกับมีดที่กำลังเชือดเฉือนเมนิลา เขาเค้นเสียงต่ำ “อย่าคิดว่าผมไม่รู้ คุณต้องการจะอาศัยเพ็ญภัทร์ เพียงแค่เธอไม่สามารถบอกเหตุผลกับผมได้ อย่าให้ผมตรวจเจอ ไม่อย่างนั้นผมจะให้คุณอยู่ไม่สู้ตาย เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ คุณไม่ใช่แม่ของผม ไม่ใช่อีกต่อไป” “หลีกทางครับ... หลีกทาง...” ในตอนที่ปุริมกำลังเผชิญหน้ากับเมนิลา ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก เพ็ญนีติ์ได้ยินเสียงร้องของเด็ก เงยหน้าขึ้น พยาบาลกำลังอุ้มเด็กคนหนึ่งออกมา “ใครเป็นญาติครับ เด็กปลอดภัยครับ ออกมาจากท้องแม่แล้วครับ” “ผมครับ...” จิณณะเข้าไปคนแรก มือที่ยื่นไปรับเด็กนั้นสั่นไปหมด “นี่คือลูกของผมหรือ” “ใช่ค่ะ คลอดก่อนกำหนดครึ่งเดือน ยังคงต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล” นางพยาบาลกล่าวอย่างขบขัน “คุณดูสิคะ ลูกของคุณเหมือนกับแด๊ดดี๊มากเลย” “เขา... เขาไม่ได้รับบาดเจ็บหรือ” “ไม่ค่ะ โชคดีมาก ที่มีดเล่มนั้นเฉียดขาของเขาไป ไม่อย่างนั้นอันตรายน่าดู” จิณณะก็รีบแย่งเด็กมาทันที กอดไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่น โดยไม่สนว่าเด็กกำลังร้องอยู่หรือไม่ รีบกล่าวอย่างร้อนรน: “แล้วหม่ามี๊เด็กล่ะ” “กำลังช่วยชีวิตอยู่ค่ะ คนแม่เสียเลือดเยอะมาก” สมองของจิณณะเหมือนมีเสียงระเบิดดังขึ้น “ต้องการเลือดหรือไม่ เอาเลือดผมไปได้เลยนะ ผมอยากให้เธอมีชีวิตอยู่ ต้องมีชีวิตอยู่เท่านั้น” “เลือดในคลังเลือดยังมีเพียงพอค่ะ คุณสบายใจได้ ฉันขอตัวเข้าไปก่อนนะคะ” พยาบาลกล่าวจบก็เข้าไปในห้องผ่าตัด ‘กำลังผ่าตัด’ คำนั้นยังคงสว่างต่อไป ทำให้คนที่มองอยู่เริ่มขลาดกลัว หากเพ็ญภัทร์ยังไม่ออกมา ก็ไม่มีใครวางใจทั้งนั้น เด็กน้อยร้องอยู่ไม่นานก็หยุดร้องลง เด็กน้อยยังไม่ได้หลับ ยังคงเบิกตามองผู้คนและสิ่งของไปรอบ ท่าทางเช่นนั้นทำให้คนต่างเข้าไปใกล้เขาอย่างไม่รู้ตัว เมนิลากล่าวกับจิณณะ: “ส่งเด็กมาให้แม่มา” “ไม่ ไม่ต้อง ผมจะอุ้มเขา อุ้มรอเพ็ญภัทร์ออกมา” เพียงขยับกาย จิณณะก็หลบมือของเมนิลาที่ยื่นมา “แล้วเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงกันล่ะ” แต่เมนิลากลับไม่ได้สนใจความเป็นความตายของเพ็ญภัทร์สักนิด ตอนนี้สิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดคือเด็กน้อยเท่านั้น “หลีกไป” จิณณะผลักออกด้วยความหงุดหงิด “เพ็ญภัทร์จะออกมาแล้ว” ท่าทางของเขาดูมึนงง สายตาของเขาดูไม่จับจ้องไปที่ใดเลย บางทีในสมองของเขาอาจจะยังวนเวียนที่คำพูดของพยาบาลว่า: กำลังช่วยชีวิตคนแม่อยู่ค่ะ แรงของจิณณะเยอะมาก และเพิ่มกับที่เมนิลาไม่คิดว่าจิณณะจะลงมือกับเธอเช่นนี้ ความไม่ระวังทำให้เธอลงไปกองที่พื้น มองจิณณะอย่างโกรธเกรี้ยว เกลียดจนอยากจะตบจิณณะ แต่แล้วเธอก็อดทนไว้ ยังไงก็ลูกชายของเธอ ลูกชายทั้งสองที่ได้การปฏิบัติมาต่างกัน เธอค้ำกำแพงลุกขึ้นมา และกล่าวเสียงอ่อน: “จิณณะส่งเด็กมาให้แม่เถอะ แบบนั้น พอเพ็ญภัทร์ออกมา แกก็จะได้ไปดูแลเพ็ญภัทร์อย่างไรล่ะ” น้ำเสียงที่อ่อนหวานของเธอ และบวกกับคำพูดเพื่อเพ็ญภัทร์แล้ว นั่นทำให้จิณณะพยักหน้า รีบส่งเด็กให้กับเมนิลาทันที “เพ็ญภัทร์จะออกมาแล้ว จะออกมาแล้ว” ข้างๆกัน ปุริมกลับมาที่นั่งอย่างโดยดี ผ้าม่านยังคงบดบังไม่ช้าเร็วก็คงได้รู้กัน แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ เพ็ญภัทร์ ยังไม่ออกมา แต่การที่เด็กไม่เป็นอะไรแล้วก็แสดงว่าเพ็ญภัทร์ก็จะไม่เป็นไรเช่นกัน ต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ บรรยากาศที่เย็นยะเยือกในทางเดินนั้นเริ่มบรรเทาไปมากเพราะเด็กน้อยคนนี้ เมนิลาเริ่มพูดเล่นกับเด็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่เมื่อมองดูคร่าวๆจากหัวที่ดูโตแล้วน่าจะเป็นผู้ชาย เพราะหัวนั้นโตกว่าตอนที่อ้อยและส้มเพิ่งเกิดอยู่มาก แต่อ้อยและส้มนั้นเป็นฝาแฝด เด็กคนนี้เพิ่งเกิดเท่านั้น หัวใหญ่สักหน่อยคงเป็นเรื่องปรกติ เวลาเริ่มเดินไปอย่าทรมานอีกครั้ง ท้ายที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออกอีกครั้ง และไฟแดงของคำว่า ‘กำลังผ่าตัด’ ก็ดับลงเช่นกัน ทุกคนต่างรับรู้ว่านั่นแสดงว่าการผ่าตัดได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ดันเตียงที่เพ็ญภัทร์นอนอยู่ออกมา จมูกของเพ็ญภัทร์สวมเครื่องช่วยหายใจอยู่ ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ผ้าก๊อซขนาดใหญ่แปะอยู่บนร่างกายของเธอ การผ่าตัดนั้นผ่านไปอย่างยาวนาน แต่น่าแปลกที่ใบหน้าของเธอนั้นยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มอยู่ ท้ายที่สุดก็ยังคงไม่จากไป “เพ็ญภัทร์...” ปุริมไม่ได้วิ่งเข้าไป เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ถูกเข็นมา เพียงแค่คนยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังคงมีความหวัง เด็กยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นเธอก็ยังมีชีวิตอยู่ จิณณะกุมมือของเพ็ญภัทร์ “ทำไมถึงเย็นอย่างนี้” “คุณผู้ชาย คนไข้ยังคงอยู่ในระยะอันตรายค่ะ โปรดเบามือด้วย” มือที่กุมเพ็ญภัทร์ไว้รีบปล่อยทันที ตั้งแต่ที่เพ็ญภัทร์ถูกพาออกมา ปุริมยังคงตามเตียงที่ถูกเข็นอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ เขามองเพ็ญภัทร์ที่ยังคงหมดสติด้วยสายตานิ่งๆ ชายทั้งสองต่างลืมเรื่องของเด็กไปจนหมด สายตาต่างจับจ้องที่เพ็ญภัทร์เพียงคนเดียว “นานเท่าไหร่ถึงจะพ้นขีดอันตราย” “สามวัน สามวันนี้อยากให้ญาติคนไข้ช่วยดูแลตลอดทั้งคืนด้วยนะคะ หากมีเรื่องอะไรก็เรียกพยาบาลได้เลย” พยาบาลเดินและอธิบายไปพร้อมกัน แล้วก็มาถึงห้องพักของเพ็ญภัทร์โดยไว ห้องพักพิเศษของโรงพยาบาล กว้างขวางและมีอุปกรณ์ครบครัน ในตอนที่เตียงถูกเข็นเข้าไป ปุริมก็โดนกันให้อยู่ข้างนอก “นอกจากคนในครอบครัวแล้วไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าไปค่ะ คนเยอะไป อากาศไม่ถ่ายเทไม่ดีต่อผู้ป่วยในระยะอันตรายค่ะ” “อุแว้...” เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเมนิลาร้องจ้าขึ้นมา เสียงนั้นเป็นเสียงที่ใสมาก เธอรีบก้าวเข้าไปในห้องพักคนไข้ ในโรงพยาบาลนั้นมีทุกอย่าง ผ้าอ้อมก็มี ไม่มีอะไรขาดเลย หากยังคงเข้าไปอีก ปุริมและเพ็ญนีติ์คงจะมากเกินไป แต่ปุริมก็ยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่ได้ไปไหน เพ็ญภัทร์ยังคงไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์และพยาบาลยังคงวิ่งเข้าวิ่งออกอย่างวุ่นวาย จากที่มองผ่านประตูกระจก เพ็ญนีติ์เห็นเครื่องวัดอัตราเต้นหัวใจที่อยู่ข้างๆเตียง เมื่อนึกถึงเสียงตึกตักตึกตักที่ดังไม่หยุด ใจของเธอก็เหมือนถูกบีบ ในห้องคือจิณณะ นอกห้องคือปุริม ชายหนุ่มทั้งสองต่างดื้อรั้นไม่มีใครยอมไปสักคน เพ็ญนีติ์ถอนหายใจ นรวรให้คนมาส่งข้าวให้ เธอรับมาให้ปุริม แต่เขาส่ายหน้า ใจและท่าทางที่ยุ่งยากนั้น เธอเองก็ไม่ไดคัดค้านไป เพียงวางไว้ข้างๆ เขาไม่ทาน เธอก็ไม่ทาน ไม่ได้หลับตลอดทั้งคืน เพ็ญภัทร์ที่อยู่ในห้องพักนั้นก็ยังคงหมดสติอยู่ เป็นความรู้สึกที่สับสนทั้งหมดในตอนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงทางเดิน เมื่อตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าสว่างแล้ว ปุริมยังคงเหม่ออยู่ที่เก้าอี้ กล่องข้าวทั้งสองกล่องนั้นไม่การขยับใดใด มองใบหน้าด้านข้างของเขา คางเริ่มเขียวครึ้มแล้ว ทำให้เขาเหมือนกับคนที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย ไม่ได้พูดอะไร เธอออกไปนอกโรงพยาบาลเพื่อซื้อโจ๊ก โจ๊กที่รสชาติอ่อนๆ และใส่ไข่เค็มลงไปด้วย เมื่อส่งไปตรงหน้าของเขา เขามองอากาศที่ร้อนนิ่งๆก่อนจะกล่าวเสียงเบา: “เพ็ญภัทร์ยังไม่ได้กิน” “เธอมีน้ำเกลืออยู่ ยังใส่เข้าไปขวดต่อขวดด้วย หากคุณไม่กิน คุณคงได้เป็นลมไปก่อนที่จะได้ไปหาเธอตอนที่ตื่น” ไม่ใช่ต้องการให้เขากลัว เธอพูดเรื่องจริงทั้งนั้น ในที่สุดมือของชายหนุ่มก็ยื่นมือมารับโจ๊กไปจากมือของเธอ ค่อยๆทานมันเข้าไป ไม่เคยเห็นเขาท่าทางเชื่อฟังเช่นนี้มาก่อน แต่เดิมเขาคงโดนเปลี่ยนไปแล้ว แต่เป็นผู้หญิงอ่อนโยนที่อยู่ในห้องพักคนนั้นที่เป็นคนเปลี่ยนเขา บางครั้งชายหนุ่มไม่ได้กลัวความรุนแรงหรือภัยคุกคามหรอก แต่เป็นความรักจากผู้หญิงต่างหาก รักนั้นเปลี่ยนแปลงชายหนุ่มไปทั้งหมด ทำให้เป็นคนที่กล้าหาญและทำให้เขากลายเป็นคนที่ขี้ขลาด ทานและดื่มมันที่ทางเดินนี้ แต่ปัญหาส่วนบุคคลคือใช้ได้แค่ห้องน้ำสาธารณะของทุกชั้นเท่านั้น เพ็ญนีติ์ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าแม่บ้านทำความสะอาดของโรงพยาบาลนั้นจะขยันขนาดไหน แต่ก็ยังสะอาดไม่เท่ากับสถานที่ที่ปุริมเข้าออกอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมออกไป สามวันแล้ว เขาไม่เคยไปจากชั้นนั้นเลย ขณะเดียวกันก็ไม่เคยเข้าห้องพักของเพ็ญภัทร์เช่นกัน จิณณะและเมนิลาไม่ยอมให้เขาเข้าไป หากว่า ผู้หญิงที่อยู่ในห้องพักนั้นไม่ใช่เพ็ญภัทร์ เขาก็คงจะจากไปอย่างรวดเร็ว แต่เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขากังวลอยู่ตลอดเวลา ไล่เช่นไรก็คงไม่ยอมไป เพ็ญภัทร์ยังคงไม่พ้นขีดอันตราย สามวันแล้ว นั่นไม่ใช่เวลาที่สั้นเลย หนวดของปุริมเริ่มยาวแล้ว แต่ก็ไม่โกน ขึ้นจนครึมแลเพิ่มภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลที่น่าหดหู่นี้ มองผ่านๆ เขาเหมือนกับชายชราคนหนึ่ง เป็นความผกผันครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ เก้าอี้ยาวหน้าห้องพักของเพ็ญภัทร์คือเตียงของเขา เธอไม่ตื่น เขาก็คงไม่ไป ไม่ว่าใครจะแนะนำเช่นไรก็ไม่มีประโยชน์ เด็กคนนั้นราวกับมีเวทมนตร์ มีดแทงเข้าไปลึกมาก แต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิด แพทย์บอกว่าพลาดอีกเพียงนิดเดียวก็เป็นอันตรายแล้ว นี่คงเป็นโชคชะตา ปุริมบอกว่าเทวดาคนนี้อยากให้เพ็ญภัทร์มีชีวิตที่ดี เพื่อเธอที่บอกว่าถ้าไม่มีลูกแล้วก็ไม่ขอมีชีวิตอยู่ แต่วันนี้เด็กยังคงมีชีวิตอยู่ แต่เธอก็ยังคงไม่ตื่น อัพเดทครั้งหน้า วันที่9 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 153 ความผกผันครั้งยิ่งใหญ่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A