บทที่ 154 ไม่อยากตื่นขึ้นมา
1/
บทที่ 154 ไม่อยากตื่นขึ้นมา
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 154 ไม่อยากตื่นขึ้นมา
บทที่ 154 ไม่อยากตื่นขึ้นมา “หมอ พยาบาล ทำไมเธอถึงยังฟื้นกัน” เมื่อประตูเปิดออก จิณณะก็รีบเดินออกไปพร้อมกับแพทย์ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย สามวันมานี้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูแลเพ็ญภัทร์ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นเป็นอย่างดี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลย เพ็ญภัทร์คลอดลูกให้เขามาหนึ่งคน แต่เขาก็ไม่กล้าพูดประโยคที่ว่า ‘ปลอดภัยทั้งแม่ลูก’ ออกมาได้เต็มปาก ลูกเป็นของเขาจริงๆ ช่วงเวลาแห่งความดีใจก็นำพาซึ่งความเสียใจที่หนักหน่วงเช่นเดียวกัน เพ็ญภัทร์ยังไม่ฟื้นขึ้นมา นั้นทำให้เขาทรมานอย่างมาก “จากผลตรวจวันนี้ ร่างกายของคนไข้บ่งชี้แล้วว่าปรกติดีทุกอย่างแล้ว ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว ผมคิดว่า คงเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเธอนั้นไม่อยากตื่นขึ้นมามากกว่า” แพทย์คิดหนักแล้วก็กล่าวออกมาอย่างจริงจัง “เป็นไปไม่ได้ เด็กยังอยู่ เธอจะไม่ต้องการเด็กได้อย่างไรกัน” ใบหน้าของจิณณะตะลึงค้าง ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาผอมลงไปมาก เสน่ห์ที่มีได้หายไปหมดแล้ว วุ่นวายกันมานาน แต่เมื่อเกิดเรื่องกับเพ็ญภัทร์จริง เขาไม่สามารถผ่านมันไปได้เลย ปุริมที่นั่งอยู่ค่อยๆลุกขึ้นมา คำพูดของแพทย์นั้นเขาได้ยินหมดแล้ว “เด็ก เด็กจะต้องปลุกเธอขึ้นมาได้แน่ๆ” เขากล่าว แล้วอาศัยจังหวะที่จิณณะไม่ได้สนใจเข้าไปห้องพักของเพ็ญภัทร์ ในห้องพักคนป่วยนั้นเงียบมาก เมนิลาไม่อยู่เพราะได้กลับไปบ้านตระกูลกรธัชแล้ว มีเพียงเพ็ญภัทร์และลูกที่นอนเงียบๆอยู่บนเตียงเท่านั้น เด็กคนนั้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้ามา ก็รู้สึกตัวตื่น “อุแว้” และเริ่มร้องขึ้นมา เหมือนกำลังประท้วงที่แม่ของเขาไม่สนใจเขา ปุริมรีบเข้าไป อุ้มเด็กขึ้นมาด้วยท่าทีที่เงอะงะ บนเตียงนั้นเพ็ญภัทร์กำลังนอนหลับสนิท ราวกับว่าโลกใบนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ บางที่คำพูดของแพทย์อาจจะจริงก็ได้ เธอไม่อยากตื่นขึ้นมา เธออยากตาย เธอต้องคิดว่ามีดเล่มนั้นจะทำให้เด็กตายได้ เธออยากตายไปพร้อมกับลูก มีแม่คนที่ไหนที่จะฆ่าลูกของตัวเองได้ลงกัน แต่ว่ามีดของเธอนั้นพลาดไปเพียงนิด เหมือนว่าสวรรค์นั้นก็ไม่อยากให้เธอฆ่าลูกของเธอเช่นกัน “เพ็ญภัทร์ คุณดู นี่ลูกของคุณไง เขายังมีชีวิตอยู่ เขายังมีชีวิตอยู่ดี คุณพูดไว้แล้วนี่ ขอเพียงแค่ลูกยังอยู่ คุณก็จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข และวันเขายังอยู่ เช่นนั้นทำไมคุณถึงยังนอนอยู่กันล่ะ เพ็ญภัทร์ คุณตื่นสิ...” ปุริมตะโกนลั่น เกลียดที่ไม่สามารถปลุกเพ็ญภัทร์ขึ้นมาได้ในทันที “แว้... อุแว้...” เขายิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งพูดยิ่งเสียงดัง ดังจนทำเสียงเด็กร้องนั้นยิ่งดังขึ้นตาม เสียงเขาทำให้เด็กน้อยเริ่มกลัว ทางเดินมีเสียงวิ่งมาอย่างเร็ว จิณณะได้ยินเสียงปุริมจึงได้รับกลับมา เขาไม่คิดว่าปุริมจะอาศัยจังหวะที่เขาออกไปคุยกับแพทย์เข้าไปในห้องที่เพ็ญภัทร์กำลังพักฟื้นอยู่ ลูก โดนเสียงของปุริมทำให้กลัว จนร้องเสียงดัง “ปุริม แกออกไป ใครใช้ให้แกเข้ามา ออกไป ส่งลูกคืนมาให้ฉัน...” จิณณะรีบเดินเข้าไปหาปุริม เกลียดที่ไม่สามารถผลักปุริมออกไปได้ในทันที การเข้ามาของเขานั้นทำลายความสงบของห้องพัก เพ็ญภัทร์ของเขานั้นรักความสงบ ทำไมถึงได้ชอบปุริมที่โหวกเหวกแบบนี้กัน “ไม่ แกให้ฉันพูด เพ็ญภัทร์ คุณจะต้องตื่นขึ้นมานะ คุณดู ลูกของคุณอยู่ข้างกายคุณรอคุณตื่นขึ้นมาดูแลอยู่นะ” ยังคงตะโกนต่อไป และผสมไปด้วยเสียงร้องจ้าของเด็กน้อย ดังอยู่ที่ข้างๆหูของเพ็ญภัทร์ มันช่างดังมากจริงๆ ไม่รู้เป็นเพราะเสียงนั้นจริงๆหรือไม่ เพ็ญภัทร์ ขนตายาวๆของเธอก็ขยับขึ้นมาในจังหวะที่จิณณะเตรียมตัวจะลงมือกับปุริมได้ทันเวลาพอดี เพียงแผ่วเบา แต่เหมือนว่ากลิ่นของหญิงสาวนั้น จะทำให้คนมึนเมา “เพ็ญภัทร์ คุณฟื้นแล้ว ใช่ไหม คุณลืมตามาดูลูกของคุณสิ มองผม และทุกๆอย่างบนโลกใบนี้ว่ามันสวยขนาดไหน รอบๆก็มีดอกเยอบีร่าเต็มไปหมด คุณชอบดอกเยอบีร่านี่...” มือที่ยกขึ้นอยู่กลางอากาศหยุดลง จิณณะเองก็ตกใจเมื่อเห็นขนตาของเพ็ญนีติ์กำลังขยับอยู่ เธอฟื้นแล้ว จะต้องฟื้นแน่ๆ “เพ็ญภัทร์...” วางมือลง เขาก้มลงไปข้างกายของเพ็ญภัทร์ เขย่าไหล่ของเธอ “เพ็ญภัทร์ คุณตื่น คุณดูสิ ลูกของพวกเรายังมีชีวิตอยู่นะ เขาร้องไห้ด้วย เพราะคุณไม่ตื่นขึ้นมาเพราะคุณไม่สนใจเสียงร้องไห้ของเขา ลูกของพวกเราเหมือนผม และก็เหมือนคุณด้วย เพ็ญภัทร์ คุณลืมตาดูเขาเร็ว...” เสียงดังเช่นเดียวกัน ครึ่งหนึ่งคือความร้อนรนอีกครึ่งคือการรอคอยของจิณณะ เด็กน้อยยิ่งร้องก็ยิ่งเสียงดัง เสียงนั้นเหมือนกับกำลังร้องเรียก ร้องเรียกให้ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงนั้นใช้แรงเพื่อลืมตาขึ้นมา เสียงเด็กที่ร้องอยู่ตรงนั้น นั่นคือลูกของเธอหรือ เพ็ญภัทร์ที่อยู่ในความมึนงงรู้สึกถึงรสชาติของเลือด ยังปวด ปวดมากๆ “แว้...อุแว้...” เสียงร้องนั้นช่างน่าสงสาร เสียงเด็กของใครกันนะที่ร้องได้ปวดใจขนาดนี้ เสียงร้องนั้นทำให้ใจของเธอเจ็บปวดจนรู้สึกทนไม่ไหว ใช้แรงยกมือขึ้นมา เธออยากจะปลอบเด็กคนนั้น ไม่อยากให้เขาร้องไห้แล้ว ก็เธอชอบเด็กเล็กนี่นา “ขยับ มือเธอกำลังขยับ” ปุริมร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ “เพ็ญนีติ์ รีบไปเรียกคนมาเตรียมอาหารเร็ว เพ็ญภัทร์จะตื่นแล้ว จะตื่นแล้วจริง” จิณณะเองก็ไม่ต้องการให้ปุริมออกไป เขาจ้องเพียงมือและตาของเพ็ญภัทร์ มันกำลังขยับอยู่จริงๆ ถึงแม้ว่าจะขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ว่าการขยับนั้นก็เป็นเรื่องจริง ปุริมแนบหน้าของเด็กน้อยกับเพ็ญภัทร์ ผิวของเด็กน้อยที่เหมือนจะแตกได้นั้นสัมผัสกับใบหน้าของเธอ และด้วยกลิ่นหอมของเด็กน้อย กลิ่นนั้นทำให้ดวงตาของเพ็ญภัทร์ขยับราวกับจะลืมตาขึ้น ลูก ลูกของเธอ มือขยับวางหน้าท้องในทันที ปากเผยอขึ้นพร้อมกล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก: ”ลูก... ลูก...ลูกของฉัน...” “ลูกอยู่นี่ อยู่ข้างตัวคุณ เพ็ญภัทร์ คุณรีบลืมตาขึ้นมามองเร็ว เขาน่ารักมาก เป็นเด็กผู้ชายด้วย” สีหน้าจิณณะดูมีราศีขึ้นมา เพ็ญภัทร์ฟื้นแล้ว เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามากจริงๆ ถ้าเธอตายไป แบบนั้นทั้งชีวิตนี้ของเขาก็คงอยู่ไม่เป็นสุข ลูกก็มีแล้ว หญิงสาวก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว หลังจากแต่งงาน จากที่ไม่เคยตอนนี้เขาตั้งตารองานแต่งงานของเขาอย่างใจจดใจจ่อ เพียงแค่อยากให้เพ็ญภัทร์ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ช่วงชีวิตที่เหลือเธออยากให้เขาทำอะไรเขาจะทำให้หมดเลย คำพูดของคนใกล้ตายนั้นคือความจริงเสมอ คำพูดของเธอนั้นเขาจำได้ทุกคำ ปุริมไม่เคยทำอะไรเธอ นั่นก็คือลูกของเขา แต่เขารู้เรื่องนี่โดยใช้การแลกเปลี่ยนด้วยเลือดของเธอ เพราะการพิสูจน์แบบนี้มันทรมานเกินไป สามวันนี่เธอหมดสติไป เขาคอยเฝ้าดูอยู่ข้างๆเธอรู้สึกเกลียดที่ไม่สามารถเป็นแทนเธอได้ แต่เขาจะไม่ทำอะไรก็ไม่ได้เช่นกัน ทำได้แค่คอยเฝ้ามองอยู่เงียบๆ แล้วหวังว่าบาปของตัวเองจะได้รับการลดทอนทีละน้อยๆ ในห้องรอบข้างต่างมีดอกเยอบีร่าประดับอยู่ เพราะเธอชอบดอกเยอบีร่า ดอกสีส้ม นั่นคือสีที่เธอชอบมากที่สุด เธอบอกว่านั่นคือสีของดวงอาทิตย์ เขาจะเปลี่ยนมันใหม่ในทุกๆวัน ให้ในห้องนั้นมีกลิ่นของดอกเยอบีร่าตลอดเวลา และทำให้ห้องนั้นดูมีชีวิตชีวาราวกับดวงอาทิตย์ เมื่อฟื้นขึ้นมา เขาจะดูแลเธออย่างดี จะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว ความจริงแล้วการเชื่อใจนั้นไม่ได้ยากเลย เพียงแค่วางทุกอย่างลงเท่านั้น และเพียงมองแค่เรื่องของอนาคต เช่นนั้นก็จะมีเพียงการรอคอยที่สวยงามรออยู่ในภายภาคหน้า ดวงตาที่เหมือนกับน้ำนั้นค่อยๆลืมตาขึ้นมา ขนตาที่ยาวนั้นช่างเหมือนกับพัดขนาดๆเล็ก เปล่งประกายไปด้วยจิตวิญญาณของผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะนอนอยู่บนเตียงคนป่วยแต่เธอนั้นก็ยังงดงามเหมือนดั่งวันวาน เพียงแค่ริมฝีปากและสีผิวนั้นจะดูซีดลง ถึงแม้จะเป็นแค่การผ่าตัด แต่ก็เป็นการผ่าตัดครั้งใหญ่ เธอและลูกนั้นช่างโชคดีจริงๆ ในจังหวะที่เพ็ญภัทร์ลืมตาขึ้นมา เด็กน้อยที่อยู่ข้างกายของเธอก็หยุดร้องทันที ดวงตาคู่โตนั้นจ้องมองที่แม่ของเขา มือน้อยๆดึงออกมาจากผ้าห่อตัวแล้วโบกไปมา “ละ...ลูก...” เสียงของเพ็ญภัทร์แผ่วเบาและอ่อนแรง แต่เรียกได้อย่างชัดเจน น้ำตาแห่งความตื้นตันไหลมา “ลูก...ลูก...” ไม่หยุดที่จะเรียก ลูกของเธอ นั่นคือลูกของเธอ “เพ็ญภัทร์ คุณเคยบอกว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อลูก วันนี้เขายังคงอยู่ มีสุขภาพที่แข็งแรง เช่นนั้นคุณเองก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป สัญญากับผมได้ไหม” ปุริมที่ยืนอยู่ข้างเตียงกล่าวกับเธอเสียงต่ำ เขาจ้องมาของเธอ เหมือนกับว่าต้องการจ้องเข้าไปให้ถึงในจิตใจของเธอ “คุณดู ผมกับเพ็ญนีติ์มาดูคุณด้วยกัน” กล่าวขึ้น เขาก็กุมมือเพ็ญนีติ์ไว้แล้วมาให้เพ็ญภัทร์ดูต่อหน้า “เธอจะดูแลผม ทำให้ผมสูบบุหรี่น้อยลง ดื่มเหล้าน้อยลง เพ็ญภัทร์ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพื่อลูกของคุณ” พยักหน้าน้อยๆ หากไม่จ้องเธออยู่ตลอด ก็จะไม่รู้เลยว่าเธอพยักหน้า น้ำตาแห่งความสุขหลั่งริน นิ้วมือของเธอขยับเล็กน้อย แต่ถูกจิณณะกุมไว้แน่น บางทีรู้ถึงความผิดของตัวเองในอดีตแล้ว ในเวลานี้จิณณะถึงไม่ได้กล่าวอะไร ปุริมได้พูดทุกคำทุกประโยคที่เขาอยากพูดไปจนหมดแล้ว ช่างเป็นช่วงเวลาที่งดงาม พวกเขามองหน้ากัน ยังคงเป็นความรักที่ลึกซึ้ง แต่พวกเขาก็ต้องปล่อยกันไป ทุกคนต่างมีความสุขและอนาคตในแบบของตัวเอง บางทีความสุขและอนาคตของเธอก็คงไม่เกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว เฝ้าดูมาตลอดสามวัน ในที่สุดเธอก็ตื่น คงถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว เคยติเตียนเคยเกลียดเพ็ญนีติ์ แต่เวลานี้ เขาเข้าใจแล้ว หากการกระทำที่ผิดพลาดของเพ็ญภัทร์นำพามาซึ่งการรู้สึกตัวของจิณณะ แบบนั้นทั้งหมดนี้ก็คุ้มค่าแล้ว “ผมไปแล้ว จิณณะดูแลเพ็ญภัทร์ดีดีด้วย มีคำกล่าวว่าความลำบากจะนำมาซึ่งความสุข เด็กคนนี้จะต้องพาความสุขมาให้แน่” เขาหัวเราะ ความผกผันทั้งหมดได้ผ่านไปแล้ว แม้แต่หนวดเคราครึ้มนี่ยังทำให้เขารู้สึกทีพลังขึ้นมา “ไว้เจอกัน” จิณณะตอบกลับอย่างเฉย ขัดเขินไปทั่วห้องพัก เขาไม่ได้ให้ปุริมรีบออกไป แค่ไม่ออกแรงตีกันนั่นก็เกินขีดจำกัดของเขาแล้ว มือดึงแขนของปุริม เพ็ญนีติ์รีบพาเขาออกไปโดยอัตโนมัติ,แต่ไม่คิดว่าเพ็ญภัทร์ที่อยู่บนเตียงนั้นจะเรียกขึ้นมา: ”เพ็ญ... นีติ์... รอก่อน” เสียงของนั้นแหบแห้งและแผ่วเบา แต่เหมือนรีบอยู่ในทันที “คะ” เพ็ญนีติ์ขานรับ สบสายตาของเพ็ญภัทร์ที่มีประกาย เธอเหมือนมีอะไรจะพูดตัวเธอ ยื่นหูเข้าไปใกล้ๆปากของเธอ “พูดมาเถอะค่ะ ฉันฟังอยู่” ผู้หญิงที่ตรงหน้าของเธอนั้นทั้งสวยและอ่อนหวาน ราวกับดอกไม้ที่รับการดูแลอย่างดี และตอนนั้นเองที่น้ำเสียงอ่อนหวานแต่แผ่วเบาก็กล่าวออกมา “มอบเขาให้กับคุณแล้วนะคะ ความจริง มีดเล่มนั้นฉันไม่ได้จะแทงลูกเลยค่ะ ฉันรู้ตำแหน่งอยู่แล้ว ลูกของฉัน ฉันรักเขาอยู่แล้ว”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 154 ไม่อยากตื่นขึ้นมา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A