ตอนที่ 7
“ครอบครัวที่สมบูรณ์สำหรับผม.....มันไม่มีอีกแล้วครับพ่อ และผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบสำหรับผมมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงบางคนพยายามทำตัวเองให้เพียบพร้อมดูดี แต่พ่อจะรู้ได้ยังไง....ว่าเนื้อในจะไม่ฟอนเฟะเหมือนอย่างที่ตาเห็น”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันแม้กระทั่งอนันต์ที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่บุตรชายคนเดียวเริ่มแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อสตรีที่เขาหวังจะให้อนาคินยอมรับในฐานะ แม่คนใหม่ ด้วยความเต็มใจ
“อืม....ฉันว่าเราทานอะไรกันก่อนดีไหมคะ สั่งอาหารมานานแล้ว เดี๋ยวจะชืดหมด”
ณัฐญาณีพยายามพูดเพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศในขณะที่มุจลินทร์ชำเลืองดูผู้ที่นั่งเคียงข้างยามนี้ เธอมองเห็นเสี้ยวหน้าอันคมคายนั้น ผิวสีมะกอกบนร่างสูงใหญ่สะท้อนออกมาภายใต้แสงไฟอันนุ่มนวล หากแต่ดวงตาคู่นั้นกลับขุ่นข้นบนสีหน้าที่เหมือนกำลังมีบางอย่างคุกรุ่นอยู่ภายใน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมจะกลับนะครับพ่อ ผมแค่อยากรู้....ว่าคุณพ่อ...มีอะไรให้ผมดู”
แววตาหยันเหยียดของชายหนุ่มทำให้ผู้เป็นบิดานั่งไม่ติด คราวนี้ชายวัยกลางคนกำหมัดแน่นพร้อมทั้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน
“มันจะมากไปแล้วอนาคิน!!......ถ้าแกไม่ให้เกียรติฉันแกต้องให้เกียรติคุณณัฐกับลูกสาวของเขาในฐานะสุภาพบุรุษที่ให้เกียรติสุภาพสตรี”
รอยเย้ยเยาะเหยียดที่มุมปากของอนาคิน ชายหนุ่มแค่นหัวเราะและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังหนาวเยือกเข้าไปถึงหัวใจ
“สุภาพสตรีที่พยายามจับผู้ชายรวยๆ เพื่อช่วยให้ตัวเองพ้นวิกฤตเราควรจะมองว่าเขามีเกียรติเช่นนั้นหรือครับ คุณพ่อจะคบกับใครเป็นตัวเป็นตนก็น่าจะศึกษาภูมิหลังเขาให้ดีสักหน่อย บางทีอาจไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง”
“อนาคิน!!.....”
“ผมขอตัวครับคุณพ่อ ขอให้ทานอาหารมื้อนี้อย่างมีความสุข”
สิ้นคำชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินหันหลังไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองว่าผู้ที่นั่งอยู่ก่อนมีอากัปกิริยาเช่นไร
“อนาคิน!!.....”
“อย่าค่ะ....คุณอนันต์”
ณัฐญาณีรีบดึงแขนอนันต์ที่ทำท่าจะลุกตามบุตรชายหัวรั้นด้วยอาการฉุนขาดก่อนจะเอ่ยกับชายวัยกลางคนเพื่อเป็นการให้กำลังใจ
“คุณอนันต์คะ....อนาคินเขายังเด็กนะคะ เขาอาจจะยังไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เคยรู้จักณัฐกับลูกของณัฐ และมันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับเขาที่อยู่ๆ จะมีใครก็ไม่รู้มาเป็นครอบครัวใหม่ของเขาแบบนี้”
“ไอ้ลูกคนนี้มันดื้อมาแต่ไหนแต่ไร เวลาโกรธมันไม่เคยโหวกเหวกโวยวายก็จริง แต่ก็ทำให้ผมต้องเจ็บถึงขั้วหัวใจทุกครั้ง เมื่อไหร่มันจะทิ้งนิสัยแบบนี้เสียได้ มันคิดว่ามันเป็นศูนย์รวมของจักรวาลรึไง”
“ณัฐว่าคุณอนันต์ค่อยๆ คุยกับอนาคินจะดีกว่านะคะ ถ้าจะยังโกรธกันแบบนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ณัฐไม่โกรธเขาหรอกค่ะ มันเป็นความจริงว่าคงไม่มีใครยอมรับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ ตราบใดที่ยังไม่รู้จักกันดีพอ”
อนันต์ถอนใจก่อนใช้มือหนากอบกุมมือเรียวบางของณัฐญาณีเอาไว้และดูเหมือนอารมณ์พลุ่งพล่านที่พุ่งเกือบถึงจุดเดือดเมื่อครู่ค่อยคลายลงด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานของผู้ที่นั่งเคียงข้าง
“คุณณัฐ....ผมขอโทษ” ว่าพลางหันมาทางมุจลินทร์ที่ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมองไปยังทางออกของภัตตาคาร
“หนูลิน....ลุงขอโทษด้วยนะที่ลูกชายของลุงแสดงกิริยาไม่ดีเมื่อครู่ แม่เขาเสียไปตั้งแต่เขาสิบขวบ เขาอาจเป็นคนกระด้างไปหน่อย ลุงกำลังพยายามหาทางปรับเปลี่ยนนิสัยของเขาอยู่”