6 แผนการกับเดิมพันหัวใจ   1/    
已经是第一章了
6 แผนการกับเดิมพันหัวใจ
ละอองดาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นในตอนเกือบเที่ยง ก่อนจะรีบหันกลับไปมองทางด้านหลัง แล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก เมื่อพบว่ามันว่างเปล่าไร้ร่างของคีรีมันต์ พอจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งจึงรู้สึกว่ามีผ้าแพรเนื้อละเอียดสีน้ำตาลอ่อนคลุมร่างของเธอเอาไว้ หญิงสาวจับผ้าขึ้นมาดูละอองดาวจำได้ว่าเมื่อคืน ก่อนที่จะเผลอหลับไปเธอไม่ได้ห่มผ้า เพราะมัวแต่หวาดระแวงชายหนุ่มที่นอนร่วมเตียงอยู่ด้วย จึงทำให้ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่น เพราะฉะนั้นก็คงเป็นคีรีมันต์ที่เอาผ้ามาห่มให้เธอ “ชิ! มีน้ำใจเหมือนกันนะนายเพลย์บอย” หญิงสาวบ่นพึมพำว่าคีรีมันต์อย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น ละอองดาวจึงเอ่ยปากอนุญาตคนที่อยู่ข้างนอกให้เข้ามาได้ จีวาเปิดประตูห้องก้าวเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมทั้งถามว่า “คานันยาตื่นนานหรือยังคะ หนูกำลังจะเข้ามาปลุกพอดีเลยค่ะ” “ฉันเพิ่งตื่นเมื่อครู่นี้เองจ้ะจีวา ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่ฉันนอนตื่นสาย” ละอองดาวบอกเด็กสาวด้วยความรู้สึกละอายใจที่ตนเองนอนตื่นสาย ปกติแล้วเธอเป็นคนที่ตอนตื่นเช้า แต่เป็นเพราะว่าเมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาให้หลับลงได้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว จึงทำให้หญิงสาวนอนหลับเลยเวลาจนตื่นสายแบบนี้ “ไม่เป็นไรค่ะคานันยา คานันซาบอกป้าติลลากับหนูเอาไว้แล้ว ว่าเมื่อคืนคานันยานอนดึกมากห้ามรบกวน พวกเราก็เลยตั้งใจว่าจะให้คานันยานอนพักผ่อนตามสบายค่ะ แต่ป้าติลลาเห็นว่าเลยเวลาอาหารเช้ามานานมากแล้ว กลัวว่าจะไม่ดีกับสุขภาพของคานันยา แกก็เลยบอกให้หนูมาปลุกคานันยาค่ะ” จีวาพูดแล้วมองละอองดาวพร้อมยิ้มด้วยแววตาแปลกๆ และท่าทางขัดเขินจนหญิงสาวชักเริ่มสงสัย ก่อนจะเริ่มนึกทบทวนถึงคำพูดประโยคเมื่อครู่ของจีวา แล้วเพียงครู่เดียวละอองดาวก็ต้องเบิกตากว้าง ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย เมื่อรู้ว่าเด็กสาวกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะว่าคำพูดของคีรีมันต์ที่บอกกับติลลาและจีวาว่า “เมื่อคืนเธอนอนดึกมากห้ามรบกวน” คงจะทำให้ทั้งสองคนคิดไปไกลถึงไหนๆ แล้ว ละอองดาวอยากจะบ้าตาย! แล้วนี่เธอจะไปอธิบายให้ติลลากับจีวาฟังได้อย่างไรกัน ว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับคีรีมันต์อย่างที่ทั้งสองคนเข้าใจเลยสักนิด “คานันยาเข้าไปอาบน้ำก่อนนะคะ จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปทานอาหารเช้า” จีวาบอกพลางวางชุดกระโปรงยาวสีชมพูหวาน ซึ่งละอองดาวจำได้ว่าเธอเห็นไอย์รายาสวมใส่ชุดแบบนี้เป็นประจำทุกวัน นับตั้งแต่กลับมาอยู่ที่ศิขรัฐ เพราะว่าเป็นชุดประจำเผ่าที่ผู้หญิงเผ่าคานันสวมใส่นั้นเอง หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จีวาก็พาละอองดาวไปที่โต๊ะอาหารซึ่งติลลาได้จัดการอุ่นอาหารวางเอาไว้รอหญิงสาวเรียบร้อยแล้ว “เอ...แล้วนี่เค้าหายไปไหนกันหมดล่ะคะป้าติลลา” ละอองดาวถามหญิงสูงวัยแบบรวมๆ โดยไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาเมื่อทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยและเริ่มรับประทานอาหาร ติลลามองหญิงสาวพลางยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนตอบ “คานันซาออกไปทำธุระกับฮาซาล แต่คานันซาฝากติลลาบอกคานันยาว่าเสร็จธุระแล้วจะรีบกลับมาค่ะ” “อ๋อ...เหรอคะ” ละอองดาวพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะรับประทานอาหารต่อ โดยมีติลลาและจีวาคอยช่วยดูแลอยู่ตลอดเวลาด้วยความเอาใจใส่ “เราจะเริ่มปล่อยข่าวว่าตอนนี้ผมได้ตัวผู้หญิงในคำทำนายมาอยู่กับผมแล้ว หลังจากนั้นผมจะพาละอองดาวไปพบกับท่านวาตารีที่ยเซนัมซาในฐานะคานันยา เพื่อให้แม่เฒ่าอาวาตีแห่งเผ่าไมยายืนยันว่าเธอใช่ผู้หญิงในคำทำนายจริงรึเปล่า ถ้าแม่เฒ่ายืนยันว่าใช่ ผมคิดว่าผมน่าจะเจรจากับท่านวาตารีเรื่องการลงมติได้ง่ายขึ้น พอเจรจากับท่านวาตารีสำเร็จแล้วผมถึงจะไปเจรจากับท่านนัมเกวที่จิลลาซาฮา ถ้าหัวหน้าเผ่าไมยากับหัวหน้าเผ่าปันซายอมสนับสนุนท่านลุงยาราล กาซิมก็คงจะหมดหนทางที่จะได้ขึ้นปกครองศิขรัฐแล้วล่ะครับ” คีรีมันต์บอกแผนการของเขาให้ยาราล รามิล จาเมียร์ ลีลันยาและไอย์รายาฟัง ซึ่งขณะนี้ทุกคนกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ภายในบ้านของจาเมียร์ “เป็นแผนการที่ดีเพราะกาซิมจะไม่มีทางคัดค้านได้ ถ้าหากเสียงลงมติเป็นเอกฉันท์” ยาราลพูดขึ้น “แล้วละอองดาวจะยอมช่วยเหลือเราตามแผนของหลานหรือคีรีมันต์” จาเมียร์บุรุษวัยห้าสิบเศษซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของคิรินทร์บิดาของคีรีมันต์ และเป็นสามีของลีลันยาน้าสาวแท้ๆ ของเขาถามขึ้น ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนตอบว่า “เมื่อคืนผมคุยกับเธอเรียบร้อยแล้ว เธอตอบตกลงจะช่วยเหลือเราครับท่านอา” “พี่คุยกับดาวว่ายังไง ทำไมดาวถึงยอมตอบตกลงทำตามแผนของพี่ง่ายๆ หวังว่าพี่คงไม่ได้หลอกอะไรดาวนะคะพี่คีรีมันต์” ไอย์รายาพูดขึ้นพลางมองคีรีมันต์อย่างจับผิด ก่อนที่คีรีมันต์จะได้ยินเสียงลีลันยาน้าสาวของเขาปรามลูกสาวตนเองเบาๆ “ลูกไม่ควรถามพี่เค้าแบบนั้นนะจ๊ะไอย์รายา” “ไม่เป็นไรครับท่านน้า” คีรีมันต์บอกกับน้าสาว ก่อนจะหันมาพูดกับญาติผู้น้อง “พี่บอกกับเพื่อนรักของเธอว่า พี่จะดูแลความปลอดภัยให้เค้า จนกว่าจะถึงวันที่การลงมติเลือกผู้ปกครองศิขรัฐเสร็จสิ้น แล้วพี่จะส่งเค้ากลับบ้าน” “พี่คิดจะส่งดาวกลับบ้านจริงเหรอคะ” ไอย์รายาถามมาอีกและมองสบตาคีรีมันต์นิ่ง ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆ ก่อนตอบว่า “ถ้าพี่ไม่สามารถเปลี่ยนใจให้เพื่อนรักของเธอยอมอยู่ที่นี่ต่อไปได้นะไอย์รายา เค้าถึงจะได้กลับบ้าน” คำตอบของคีรีมันต์ก็ทำให้ยาราล จาเมียร์ ลีลันยา รามิล และฮาซาลพากันหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขัน ขณะที่ไอย์รายามองค้อนญาติผู้พี่อย่างหมั่นไส้ ก่อนที่รามิลจะพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “คานันซาแห่งคีรีมันตราไม่มีวันยอมปล่อยให้คานันยาจากไปง่ายๆ หรอกไอย์รายา” คีรีมันต์ยิ้มนัยน์ตาพราวระยับกับคำพูดของเพื่อนรัก ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน “ผมคิดว่าตอนนี้เราควรรีบส่งคนไปกระจายข่าวให้ทั่วศิขรัฐโดยเร็วที่สุด ยิ่งคนรู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี” “จริงของคีรีมันต์ ถ้าอย่างนั้นเราก็รีบไปดำเนินการตามแผนการกันเถอะครับ” รามิลสนับสนุนคำพูดของคีรีมันต์ จากนั้นทุกคนก็ขยับลุกขึ้นทันที ขณะที่คีรีมันต์พูดขึ้นว่า “ผมขอตัวกลับคีรีมันตราเลยนะครับท่านลุง ท่านอา ท่านน้า” “อ้าว! ไม่อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันก่อนเหรอจ๊ะคีรีมันต์” ลีลันยาถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่คีรีมันต์ยืนอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบน้าสาวว่าอย่างไรดี “คือ...ผม...” “อย่าไปชวนหลานเลยลีลันยา คีรีมันต์คงอยากจะรีบกลับไปทานมื้อเย็นกับคานันยามากกว่า ใช่ไหมคีรีมันต์” จาเมียร์บอกภรรยา ก่อนจะหันมาถามคีรีมันต์ด้วยน้ำเสียงล้อเลียนอย่างรู้ทันในตอนท้ายประโยค “ครับท่านอา” คีรีมันต์ตอบจาเมียร์ยิ้มพลางยิ้มด้วยท่าทางขัดเขินอย่างที่ไม่เคยเป็น จนทุกคนพากันอมยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางของเขา “ผมขอตัวเลยนะครับ” พูดจบคีรีมันต์ก็ก้มศีรษะให้ยาราล จาเมียร์ และลีลันยา เมื่อทั้งสามคนพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตชายหนุ่มก็รีบหมุนตัวก้าวนำฮาซาลออกไปจากห้องทันที “เดี๋ยวก่อนค่ะพี่คีรีมันต์” ไอย์รายาวิ่งตามออกมาเรียกคีรีมันต์เอาไว้ ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นรถ โดยมีรามิลเดินตามหลังมาด้วยอย่างไม่เร่งรีบนัก คีรีมันต์ชะงักพลางหันมาถามญาติผู้น้อง “มีอะไรเหรอไอย์รายา” “เมื่อคืนพี่นอนห้องเดียวกับดาวรึเปล่าคะ” ไอย์รายาถามตามตรง คีรีมันต์พยักหน้าแล้วตอบตามตรง “ใช่ เพราะพี่ต้องทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเธอคือคานันยาของพี่” “พี่ยังรักษาสัญญาอยู่ใช่ไหมคะ” “พี่ยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธออยู่ไอย์รายา พี่จะไม่ล่วงเกินละอองดาวด้วยการใช้กำลังบังคับเด็ดขาด แต่ถ้าเค้าเต็มใจเมื่อไหร่ พี่จะไม่ปล่อยโอกาสนั้นหรอกนะเพราะว่าพี่ต้องการละอองดาวทั้งกายและใจ” คีรีมันต์บอกญาติผู้น้องตามตรง ไอย์รายาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะถามว่า “ถ้าฉันขอไปหาดาวที่คีรีมันตราด้วยจะได้ไหมคะ” “พี่อนุญาตให้เธอโทรไปคุยกับละอองดาวได้ แต่คงจะอนุญาตให้เธอไปหาเค้าที่คีรีมันตราไม่ได้หรอกนะไอย์รายา เพราะพี่กลัวว่าละอองดาวจะขอให้เธอพาเค้าออกมาจากที่นั่นแล้วหนีพี่กลับบ้าน” คีรีมันต์พูดกับญาติผู้น้องยืดยาว ไอย์รายามองใบหน้าหล่อเหลาของญาติผู้พี่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ อีกครั้งแล้วพูดว่า “แล้วถ้าเผื่อดาวขอร้องให้ฉันพาเค้าออกมาจากคีรีมันตราล่ะคะ” “ก็บอกเค้าไปว่าเธอช่วยเค้าไม่ได้ เพราะว่าเค้าจะไม่ปลอดภัย เค้าต้องอยู่กับพี่เท่านั้นถึงจะปลอดภัย” คีรีมันต์บอกญาติผู้น้อง ไอย์รายาถอนหายใจอีกรอบก่อนจะบ่นว่า “นี่ฉันต้องโกหกเพื่อนด้วยเหรอ” “พี่รู้ว่าเธอจะไม่อยากจะให้ความร่วมมือกับพี่ แต่ก็อย่าขัดขวางพี่เลยนะไอย์รายา เธอคงไม่อยากจะได้ผู้หญิงคนอื่นมาเป็นพี่สะใภ้หรอกจริงไหมน้องสาวที่น่ารัก” ท้ายประโยคคีรีมันต์ถามญาติผู้น้องด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ไอย์รายาเลยมองค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่อยากได้ผู้หญิงพวกนั้นมาเป็นพี่สะใภ้หรอกค่ะ แต่พี่แน่ใจนะว่าไม่ได้คิดเล่นๆ กับดาว” “ยิ่งกว่าแน่ใจอีกน้องสาวที่น่ารัก พี่จริงจังกับเพื่อนรักของเธอมากที่สุดเลยล่ะ” คีรีมันต์พูดยิ้มๆ พลางยกมือขึ้นขยี้ผมของญาติผู้น้องอย่างเอ็นดูก่อนจะถามอีกฝ่าย “แล้วกระเป๋าเสื้อผ้ากับข้าวของเครื่องใช้ของละอองดาวล่ะ” “ฉันให้คนยกมาใส่ไว้ในรถให้เรียบร้อยแล้วค่ะ” ไอย์รายาตอบ “ถ้างั้นพี่กลับล่ะนะ ไปนะรามิล” คีรีมันต์กล่าวคำอำลาญาติผู้น้องและเพื่อนรัก พลางรีบก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ เพียงครู่เดียวฮาซาลก็เคลื่อนรถออกไปโดยมีไอย์รายากับรามิลยืนมองตามไปจนลับสายตา ก่อนที่ไอย์รายาจะถอนหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้งพลางพูดกับรามิลว่า “ฉันเป็นห่วงดาวจังเลยค่ะพี่รามิล” “อย่าคิดมากเลยไอย์รายา น้องต้องเชื่อใจคีรีมันต์สิ ถ้าไม่จริงจังกับละอองดาวหมอนั่นก็คงไม่พาเธอไปถึงคีรีมันตราหรอก แล้วที่คีรีมันต์รีบกลับบ้านมากขนาดนี้ ก็เพราะว่าหัวใจของหมอนั่นอยู่ที่คีรีมันตราไง เชื่อพี่สิคีรีมันต์รักเพื่อนรักของน้องจริงๆ” รามิลบอกไอย์รายายิ้มๆ หญิงสาวเลยได้แต่ถอนหายใจอีกรอบก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอภาวนาให้พี่คีรีมันต์เอาชนะใจดาวให้ได้ทีเถอะ” “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกไอย์รายา ครั้งนี้คานันซาของเราทุ่มสุดตัวอยู่แล้วเพราะว่างานนี้ต้องเดิมพันด้วยหัวใจ” รามิลบอกกับคู่หมั้นสาวยิ้มๆ ไอย์รายาเลยได้แต่พยักหน้ารับเงียบๆ จากนั้นทั้งสองคนก็จูงมือกันเดินกลับเข้าไปในบ้าน “วิวที่นี่สวยจังเลยนะจ๊ะจีวาอากาศก็ดีมากด้วย น่าอยู่จริงๆ” ละอองดาวพูดกับจีวาด้วยรอยยิ้มกว้าง หลังจากที่เธอรับประทานอาหารมื้อเช้าซึ่งถูกรวบมารวมกับมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อย จีวาก็พาหญิงสาวออกมาเดินเล่นรอบๆ ตัวบ้าน แล้วให้เธอนั่งเล่นอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่จนกระทั่งบ่ายคล้อย ทำให้ละอองดาวได้เห็นทิวทัศน์โดยรอบได้ชัดเจนกว่าเมื่อวานซึ่งมืดค่ำแล้ว บ้านหลังนี้ก่อสร้างสไตล์ตะวันตกคือมีปล่องไฟด้วย ตัวบ้านมีขนาดใหญ่พอสมควรตั้งอยู่บนเนินเขา ถูกรายล้อมเอาไว้ด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนไม้ดอกไม้ประดับที่จัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามเป็นระเบียบ นอกจากนั้นยังมีบ้านหลังขนาดกะทัดรัดสไตล์เดียวกันอีกสี่หลังปลูกเรียงรายอยู่สองฟากฝั่งถนนที่ทอดยาวตัวจากบ้านหลังใหญ่ลงไปจนถึงเชิงเขา ซึ่งมีบ้านหลังเล็กหลังน้อยปลูกกระจัดกระจายกันอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ละอองดาวยังสังเกตเห็นว่าตรงบริเวณเชิงเขามีคอกม้าและมีแปลงปลูกผักจำนวนมากอีกด้วย ดูไปแล้วหญิงสาวรู้สึกว่าที่นี่มีบรรยากาศคล้ายคลึงรีสอร์ทแถวเขาใหญ่อยู่เหมือนกัน “คานันซาคงจะดีใจมาก ถ้ารู้ว่าคานันยาชอบคีรีมันตรา” จีวาพูดยิ้มๆ “ทำไมเค้าต้องดีใจด้วยล่ะจีวา” ละอองดาวถามเด็กสาวด้วยความประหลาดใจ “ก็เมื่อสองปีก่อนตอนที่คานันซาสั่งปรับปรุงตกแต่งบ้านหลังนี้ใหม่ คานันซาบอกกับพวกเราทุกคนว่า จะปรับปรุงบ้านหลังนี้เอาไว้ เพื่อรอผู้หญิงที่คานันซารักและจะแต่งงานด้วยค่ะ” จีวาตอบพร้อมรอยยิ้ม ละอองดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เมื่อรู้แล้วว่าจีวารวมทั้งคนอื่นๆ คงจะกำลังเข้าใจผิด คิดว่าเธอเป็นคนรักของคีรีมันต์ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่ แต่หญิงสาวก็ไม่ได้อธิบายความจริงให้เด็กสาวฟัง เมื่อคิดถึงแผนการที่คีรีมันต์ขอให้เธอช่วย เพื่อแลกกับการที่เขาจะช่วยส่งเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากที่แผนของเขาสำเร็จลุล่วง ละอองดาวคิดว่าเมื่อถึงวันที่เธอเดินทางไปจากที่นี่ ทุกคนก็จะรู้ความจริงเองว่าเธอไม่ได้เป็นคนรักของคีรีมันต์อย่างที่พวกเขาเข้าใจ “แต่ผู้ชายเพลย์บอยแบบนั้นคิดจะรักผู้หญิงจริงจังจนถึงขั้นยอมแต่งงานนี่นะ เหลือเชื่อชะมัด” ละอองดาวพึมพำออกมาเป็นภาษาไทยพลางส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อคิดว่าคีรีมันต์คงไม่ยอมเอาตัวเองไปผูกขาดอยู่กับผู้หญิงคนไหนหรอก ก็ตอนที่อยู่อเมริกาเธอเห็นเขาเปลี่ยนผู้หญิงควงทุกอาทิตย์นี่นา แต่จีวาฟังไม่เข้าใจจึงถามหญิงสาวว่า “เมื่อกี้คานันยาพูดว่าอะไรนะคะ” “เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไร” ละอองดาวปฏิเสธ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ หญิงสาวจึงถามขึ้นว่า “จริงสิจีวา ทำไมจีวากับป้าติลลาถึงเรียกฉันว่าคา...” “อุ๊ย! คานันซากลับมาแล้วค่ะ คานันยารีบไปรอรับคานันซาที่หน้าบ้านเถอะค่ะ” จีวาร้องแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงยินดีก่อนที่ละอองดาวจะตั้งคำถามจบประโยค เมื่อมองลงไปเห็นรถยุโรปสีดำคันหรูกำลังแล่นขึ้นมาจากเชิงเขา พร้อมทั้งจูงมือหญิงสาวเดินตามตนเองไปจนถึงหน้าบ้าน ท่ามกลางความงุนงงของละอองดาว ว่าทำไมเธอจะต้องรีบมายืนรอรับคีรีมันต์ที่หน้าบ้านด้วย เธอไม่ใช่ภรรยาเขาเสียหน่อย “ดีใจจังที่คุณมายืนรอรับผมด้วย ขอบคุณนะครับ” คีรีมันต์พูดกับหญิงสาวยิ้มๆ ด้วยนัยน์ตาพราวระยับเมื่อก้าวลงมาจากรถ ขณะที่ฮาซาลกับจีวาไปช่วยกันยกข้าวของทางด้านหลังรถ แล้วพากันเดินเข้าบ้านไปก่อน ละอองดาวมองค้อนชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่ได้อยากจะมายืนรอรับคุณแต่ฉันถูกจีวาลากมาต่างหาก” “คุณจะมาเองหรือว่าถูกจีวาลากมา แต่ยังไงคุณก็มายืนรอรับผมอยู่นะครับคุณผู้หญิง” คีรีมันต์ยังคงพูดยิ้มๆ ละอองดาวมองค้อนเขาอีกรอบก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “คุณอยากจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณสิ ฉันจะเข้าบ้านแล้ว” พูดจบหญิงสาวก็หมุนตัวเตรียมจะเดินเข้าบ้านทันที แต่ก็ยังช้ากว่าคีรีมันต์ที่รีบคว้ามือของเธอเอาไว้พลางพูด “อ้าว! เดี๋ยวสิคุณ รอผมด้วยเราต้องเดินไปพร้อมๆ กันสิครับ” “คุณจะเดินก็เดินเข้าไปสิ แล้วทำไมจะต้องมาจับมือฉันด้วย ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ” ละอองดาวพูดเสียงขุ่นพลางพยายามจะดึงมือตัวเองออกมาจากการเกาะกุมของชายหนุ่มแต่ก็ไม่สำเร็จ คีรีมันต์ยังคงกุมมือหญิงสาวเอาไว้พร้อมทั้งพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณอย่าลืมสิครับว่าเราตกลงกันเอาไว้ว่ายังไง ถ้าคุณอยากจะกลับบ้านด้วยความปลอดภัย คุณก็ต้องให้ความร่วมมือแสดงบทสวีทกับผมให้แนบเนียนที่สุด เราเข้าไปในบ้านกันเถอะครับผมหิวแล้ว” เพราะเรื่องที่เธอตกลงกับเขาเอาไว้ เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการที่เธอจะได้เดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัยหรอกนะ ละอองดาวถึงได้ยอมให้เขาจูงมือเธอเดินเคียงคู่กันเข้าไปภายในบ้านแต่โดยดี หญิงสาวบอกตัวเองอยู่ในใจ หลังจากมื้ออาหารเย็นที่สุดแสนจะสวีท เนื่องจากตลอดเวลาที่นั่งรับประทานอาหารร่วมกันคีรีมันต์คอยดูแลเอาใจใส่และตักอาหารให้ละอองดาวจนหญิงสาวรู้สึกขัดเขินกับสายตาของฮาซาล ติลลาและจีวาผ่านพ้นไป คีรีมันต์ก็จูงมือหญิงสาวเดินกลับไปที่ห้องพัก พอชายหนุ่มปิดประตูห้องเรียบร้อยละอองดาวก็รีบดึงมือตัวเองออกจากมือของชายหนุ่มทันทีพลางพูด “ไม่ได้อยู่ต่อหน้าคนอื่นแล้ว เพราะฉะนั้นปล่อยมือฉันซะที” คีรีมันต์ไม่ได้พูดอะไรออกมาเขาเพียงแต่อมยิ้มแล้วยอมปล่อยมือหญิงสาวแต่โดยดี พลางบอกตัวเองอยู่ภายในใจว่าวันนี้แค่เธอยอมให้จับมือชายหนุ่มก็ดีใจมากแล้ว เขาจะค่อยๆ ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้นทีละนิดโดยไม่ให้ละอองดาวรู้ตัว และจะพยายามใช้เวลาภายในหนึ่งเดือนนี้เข้าไปใกล้ชิดกับเธอให้ได้ทั้งตัวและหัวใจ “เอ๊ะ! นั่นกระเป๋าเสื้อผ้าของฉันนี่” ละอองดาวพูดขึ้นเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางของเธอวางอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า ขณะที่คีรีมันต์พูดขึ้นว่า “คุณต้องอยู่ที่นี่เป็นเดือน ผมคิดว่าคุณคงจะต้องการใช้เสื้อผ้าและข้าวของๆ คุณ ผมก็เลยเอามาให้” หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะถามว่า “แล้วไอย์จะแวะมาหาฉันที่นี่รึเปล่า” “ไอย์รายาจะโทรมาหาคุณแต่เค้าคงไม่สะดวกถ้าต้องมาหาคุณที่นี่ ตั้งแต่เกิดเรื่องที่คนของกาซิมพยายามจะลักพาตัวคุณ ไอย์รายาก็ต้องระวังตัวเหมือนกัน เพราะว่าเค้าเป็นคู่หมั้นของรามิลที่เป็นลูกชายของท่านลุงยาราล ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของหัวหน้าเผ่าที่มีสิทธิ์จะได้ขึ้นปกครองศิขรัฐ ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยของไอย์รายาจึงถือว่ามีความสำคัญมาก สถานการณ์ในศิขรัฐตอนนี้ไม่ค่อยจะน่าไว้วางใจ เพราะเราไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังวางแผนอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นคุณกับไอย์รายาก็ถือว่าอยู่ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัยทั้งคู่” คีรีมันต์ตอบหญิงสาวเขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและสีหน้าเคร่งขรึมเพื่อให้ละอองดาวเชื่อว่าตอนนี้สถานการณ์ภายในศิขรัฐไม่น่าไว้วางใจจริงๆ หญิงสาวจะได้รู้สึกเกรงกลัวไม่กล้าคิดออกไปจากที่นี่ ความจริงเขาส่งคนไปคอยอารักขาจาเมียร์ ลีลันยาและไอย์รายาอยู่แล้ว ไหนจะคนของรามิลที่ส่งมาช่วยคนของเขาอีก ส่วนเรื่องทางฝ่ายกาซิมฮาซาลก็ส่งคนไปคอยติดตามสืบข่าวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่เขาเป็นห่วงตอนนี้ก็คือกลัวละอองดาวจะไปจากศิขรัฐต่างหากถ้าหากว่าหญิงสาวออกไปจากคีรีมันตราได้ ดังนั้นเขาจึงต้องวางแผนดึงให้เธออยู่กับเขาแบบนี้ทั้งเพื่อตัวเองและเพื่อศิขรัฐด้วย ละอองดาวถอนหายใจด้วยสีหน้าสุดแสนเซ็ง เมื่อคิดว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เป็นเดือน โดยไม่ได้พบหน้าไอย์รายาและคงจะไม่ได้ออกไปไหนด้วย ก่อนจะถามชายหนุ่มว่า “คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันอีกรึเปล่า ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” “มีอีกเรื่องหนึ่งครับ วันนี้ผมเริ่มให้คนปล่อยข่าวเรื่องที่ผมได้ตัวคุณมาอยู่กับผมแล้ว อีกสักพักผมจะต้องพาคุณไปที่เทือกเขายเซนัมซา เพื่อพบกับท่านวาตารีหัวหน้าเผ่าไมยา แล้วก็ให้แม่เฒ่าอาวาตียืนยันด้วย ว่าคุณคือผู้หญิงในคำทำนายของแกจริงหรือเปล่า” คีรีมันต์บอกหญิงสาว ละอองดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ฉันขอตัวไปอาบน้ำล่ะ” “เชิญตามสบายครับ ผมก็จะออกไปคุยเรื่องงานกับฮาซาลต่ออีกสักพักเหมือนกัน” พูดจบคีรีมันต์ก็ก้าวออกไปจากห้องทันที ละอองดาวยืนมองจนเขาปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงก้าวยาวๆ ตรงไปที่กระเป๋าเดินทางของตัวเอง เพื่อหาชุดนอนนำเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่เมื่อหญิงสาวเปิดกระเป๋าเดินทางออกก็ต้องพบกับความว่างเปล่า ละอองดาวขมวดคิ้วโก่งเรียวเล็กน้อย ก่อนจะขยับลุกขึ้นยืนแล้วก้าวไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกทันที หญิงสาวจ้องมองดูภายในตู้เสื้อผ้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นเสื้อผ้าของเธอถูกแขวนเรียงรายเอาไว้อย่างเป็นระเบียบทางฝั่งซีกซ้ายของตู้ รวมกับเสื้อผ้าผู้ชายที่ถูกแขวนเรียงรายเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเช่นกันทางฝั่งซีกขวาของตู้ ซึ่งก็คือเสื้อผ้าของคีรีมันต์นั่นเอง ละอองดาวตัดสินใจหยิบชุดนอนเสื้อแขนสั้นคอวีกับกางเกงขายาวผ้ายืดเนื้อนิ่มสีฟ้าอ่อนทั้งชุดออกมาแล้วปิดตู้ ก่อนจะก้าวเดินตรงไปที่ห้องน้ำ พลางคิดอยู่ภายในใจว่าถ้าหากบิดามารดาของเธอ รู้ว่าลุกสาวคนเดียวของท่านต้องมาอยู่ร่วมห้องและนอนร่วมเตียงกับผู้ชายเป็นเดือน ท่านทั้งสองคงช็อกจนเป็นลมแน่นอน หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะบ่นพึมพำว่า “ทำไมเราต้องมาเจอกับเรื่องบ้าๆ แบบนี้ แล้วก็ต้องมาอยู่กับผู้ชายบ้ากามด้วย โชคร้ายชะมัดเลยละอองดาว”
已经是最新一章了
加载中