1 จอมเจ้าชู้ตัวจริง
1/
1 จอมเจ้าชู้ตัวจริง
EIFFEL รักจริงใจของนายเจ้าชู้
(
)
已经是第一章了
1 จอมเจ้าชู้ตัวจริง
“ต๊าย! ผู้ชายอะไรหล่อจริงๆ เลยนะสา นี่ถ้าพี่ยังละอ่อนกว่านี้จะตามจีบให้ดู” “จริงด้วย หน้าก็หล่อ ตางี้หวานเยิ้มเชียว ยิ่งเวลายิ้มนะ โอ๊ย! ใจจะละลายเลยนะพี่ฝน” “ขับรถสีส้มแสบตา เด่นไปทั้งถนนเลยนะเนี่ย” “อืม รวยจังนะคะ คันนั้นน่ะกี่ล้านก็ไม่รู้ โอ๊ย! ทั้งหล่อทั้งรวย ใครได้เป็นแฟนโชคดีชะมัดเลย” สองสาวพนักงานร้านดอกไม้ซึ่งพากันวิ่งตามออกมาดูชายหนุ่มรูปหล่อ ผู้ซึ่งเพิ่งจะขับรถมินิคูเปอร์สีส้มแสบตาออกไปจากหน้าร้าน เห็นแต่ท้ายรถอยู่ลิบๆ วิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน ทำให้หญิงสาวหน้าตาคม ผมยาวผูกรวบเป็นหางม้ายกขึ้นสูง ในชุดยูนิฟอร์มของนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนเซนต์แองเจล่า อันได้แก่กระโปรงจีบรอบตัวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกไทสีแดงเลือดหมู แล้วคลุมทับด้วยเสื้อสูทแขนยาวสีเลือดหมู ซึ่งปักสัญลักษณ์ตัวเอสและเอไว้บนกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งสะพายเป้เดินมาถึงหน้าร้านต้องขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจพลางถาม “มีอะไรกันเหรอคะพี่สา พี่ฝน” “อ้าว! น้องริน กลับมาพอดีเลยค่ะ อูย แต่ช้าไปนิดนึงนะคะ ไม่งั้นก็คงทันได้เห็นหนุ่มหล่อคนนั้นหรอกค่ะ” “จริงค่ะน้องริน หล่อมากๆ ตางี้หวานเยิ้ม ยิ้มทีละลายใจพี่สาเลยนะคะ” “ใครเหรอคะหนุ่มหล่อที่ไหนมาโผล่แถวนี้กันล่ะคะ” รวีรินหัวเราะพลางถามอย่างขบขันในอาการของสองสาวรุ่นพี่ ที่กำลังทำท่าเหมือนสาวน้อยเพิ่งพบรักเป็นครั้งแรก “ลูกค้าร้านเราเองค่ะ เข้ามาสั่งดอกไม้เมื่อกี๊นี้เอง หล่อลากกระชากใจ อย่างร้ายกาจเลยค่ะ” “แล้วก็ท่าทางจะรวยมากด้วยนะคะ เพราะขับมินิคูเปอร์ซะด้วย หนุ่มในฝันพี่ฝนเลยล่ะค่ะ” “เฮ้อ! ท่าทางพี่สากับพี่ฝนจะอาการหนักนะคะเนี่ย” รวีรินถอนหายใจยาวเหยียดพูดพลางส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะผลักประตูร้านก้าวเข้าไปข้างใน หญิงสาวอมยิ้มนิดหนึ่ง เมื่อเห็นมารดากำลังง่วนอยู่ตรงหน้าเคาเตอร์ คัดเลือกดอกกุหลาบสีแดงที่กองอยู่บนนั้น “สวัสดีค่ะแม่” “อ้าว! ริน กลับมาแล้วเหรอลูก” มารดาเธอทักทายกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม รวีรินวางเป้สะพายลงบนเก้าอี้ก่อนเดินเข้าไปหามารดาพลางถาม “ท่าทางแม่ยุ่งจัง ทำไมขนกุหลาบแดงออกมาเยอะจังเลยล่ะคะ” “เมื่อกี๊มีลูกค้ามาสั่งน่ะจ้ะ” “อ๋อ ผู้ชายหล่อๆ ที่พี่สากับพี่ฝนวิ่งไปยืนมองตามท้ายรถตาปรอยนั่นเหรอคะ” “รินเห็นด้วยเหรอจ๊ะ” “ไม่เห็นหรอกค่ะ แต่พี่สากับพี่ฝนน่ะเพ้อถึงความหล่อเค้าซะโอเวอร์เชียว” รวีรินตอบมารดายิ้มๆ พลางช่วยท่านคัดกุหลาบดอกโตสวยงามออกมาวางไว้สำหรับจัดช่อ “สองคนนั้นไม่ได้โอเวอร์หรอกจ้ะพ่อหนุ่มคนนั้นหล่อจริงๆ” “โอ๊ะโอ๋! ถ้าขนาดแม่ยังชมว่าหล่อนี่สงสัยจะไม่ธรรมดาแล้วนะคะ” รวีรินพูดยิ้มๆ “จ้ะ ไม่ธรรมดาหรอกเพราะมาสั่งดอกกุหลาบสีแดงทีสิบช่อ ส่งให้พวกสาวๆ ตามมหาวิทยาลัยคนละที่กันเลย แถมให้ส่งวันพรุ่งนี้พร้อมๆ กันด้วยนะจ๊ะ” มารดาเธอพูดยิ้มๆ “เชอะ! พวกผู้ชายเจ้าชู้น่ะสิคะ รินเกลียดคนเจ้าชู้ที่สุดเลย” รวีรินพูดกระแทกเสียงอย่างมีอารมณ์ ทำให้มารดามองหน้าเธอทันทีก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “รินกำลังหมายถึงพ่อใช่มั้ยลูก” “เรามีกันแค่สองคนแม่ลูกเท่านั้นค่ะแม่” รวีรินพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ แววตาร่าเริงเมื่อครู่มีแววหมองเศร้าแทรกเข้ามาแทนที่ “พ่อกับแม่ก็เลิกกันมาตั้งนานแล้ว รินยังทำใจไม่ได้อีกเหรอลูก” “ทำได้สิคะรินมีแค่แม่ก็พอแล้ว แต่รินแค่อยากบอกว่ารินเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ที่สุดในโลกค่ะ ต่อให้หล่อลากดินมาจากไหนถ้าเจ้าชู้รินก็ไม่เอามาเป็นแฟนหรอกค่ะ” รวีรินพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว แววตาหมองเศร้าเมื่อครู่แปรเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติดังเดิมแล้ว “อย่าพูดว่าเกลียดนะจ๊ะ โบราณท่านว่าเกลียดยังไงมักจะได้อย่างนั้น” “รับรองว่าไม่ใช่รินแน่นอนค่ะ รับประกันซ่อมฟรียี่ห้อรวีรินเลยค่ะ” รวีรินพูดอย่างมั่นใจ ผู้เป็นมารดาเลยได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างเอ็นดูพลางพูด “จ้า” หลังจากที่ช่วยกันคัดดอกกุหลาบครบเรียบร้อยแล้ว รวีรินก็ช่วยมารดารวมทั้งสองสาวรุ่นพี่ที่ชื่อนิสากับน้ำฝน จัดช่อกุหลาบทั้งสิบช่อจนเรียบร้อย เพื่อพร้อมจัดส่งในวันพรุ่งนี้เช้า “เอ้า! สาวๆ ช่วยกันติดนามบัตรของหนุ่มหล่อลงไปด้วยนะจ๊ะ” มารดาของเธอบอกพร้อมทั้งส่งนามบัตรสีส้มอ่อนมาให้ทั้งสามสาวช่วยกันติดไปกับช่อกุหลาบแดง “อุ๊ยตาย! ชื่ออนรรฆ ชื่อแปลกจังนะคะ” นิสาพูดขึ้นเมื่อเห็นชื่อในนามบัตร “ชื่อเล่นยิ่งเท่นะสา ชื่อไอเฟลซะด้วย” น้ำฝนพูดขึ้นบ้าง “เชอะ! รินว่าชื่อโอเวอร์จนน่าหมั่นไส้มากกว่า เกิดที่ฝรั่งเศสรึไงถึงได้ตั้งชื่อเล่นแบบนี้” รวีรินโพล่งขึ้นมา ทำเอาสองสาวรุ่นพี่ถึงกับทำหน้าเหวอทันที ส่วนผู้เป็นมารดาได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ เมื่อเห็นลูกสาวตั้งตัวเป็นอริกับชายหนุ่มนามไอเฟล โดยที่เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ “ฮัลโหล ครับยิหวา ชอบกุหลาบที่ผมส่งให้ใช่มั้ย ดีใจจัง” “หวัดดีครับ จุ๊บแจงได้รับดอกไม้แล้วนะครับ” “โอ๊ะ! รานีเหรอครับ ไม่เป็นไรครับ ดอกไม้สวยๆ ก็เหมาะกับคนสวยอย่างรานีอยู่แล้วล่ะครับ” “น้องโรสเหรอครับ ดอกกุหลาบก็ต้องเหมาะกับน้องโรสสิครับ ครับ...สวัสดีครับ เฮ้อ!” อนรรฆถอนหายใจยาวหลังจากกดวางสายสายโทรศัพท์สายที่สิบที่ได้รับมาตั้งแต่เช้าลงในที่สุด “เฮอะ! ทำเป็นถอนหายใจไอ้จอมกะล่อนเอ๊ย!” ทิวากรชายหนุ่มรูปหล่อท่าทางเย็นชา ที่กำลังทอดตัวนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟายาวบุนวมภายในห้องโถงใหญ่ตึกสโมสรนักศึกษาของคามิลล่า ยูนิเวอร์ซิตี้ ส่งเสียงว่ามาอย่างหมั่นไส้ปนเอือมระอา “บ้ารึเปล่าไอเฟล วันนี้นายเล่นส่งช่อกุหลาบแดงให้ผู้หญิงทีเดียวสิบคนพร้อมๆ กันเลยเหรอ” ประโยคนี้เป็นของคณาธิปหนุ่มหล่อสวมแว่นสายตา ซึ่งเพิ่งจะวางแก้วกาแฟที่ยกขึ้นจิบลงบนโต๊ะ “นายเล่นจีบผู้หญิงทีเดียวพร้อมๆ กันสิบคนแบบนี้ ไม่กลัวรถไฟชนกันบ้างเหรอไอเฟล” และประโยคสุดท้ายเป็นของภานุวัฒน์ ชายหนุ่มใบหน้าหล่อหวานที่เพิ่งจะหมุนตัวเดินกลับมาจากหน้าต่างบานใหญ่ แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอีกตัวที่ว่างอยู่ อนรรฆยักไหล่ก่อนพูดว่า “สบายมาก ฉันสับรางเก่งอยู่แล้ว” “เออ ฉันจะคอยดูวันตายนาย ไอ้จอมเจ้าชู้” ทิวากรว่ามาอีก “นายกำลังแช่งเพื่อนรักอยู่นะทิม” อนรรฆว่าเพื่อนกลับด้วยท่าทางงอนๆ “ชิ ไม่ต้องมาทำสะบัดสะบิ้งเป็นผู้หญิงเลย ถ้าฉันมีน้องสาวฉันจะไม่ให้นายเข้าใกล้เด็ดขาด” ทิวากรว่าและอนรรฆก็โต้ทันควันว่า “ฉันก็ไม่มีนโยบายยุ่งเกี่ยวกับพี่สาวหรือน้องสาวเพื่อนน่า ถึงฉันจะเจ้าชู้ก็มีศีลธรรมและคุณธรรมนะไอ้บ้าทิม” “โอ้โฮ้! ช่างกล้าพูดนะไอ้คุณไอเฟล” คณาธิปพูดพลางหัวเราะแล้วยกกาแฟขึ้นจิบอีกรอบ ขณะที่อนรรฆเถียงกลับมาว่า “ทำไมล่ะคีน นายไม่เชื่อว่าฉันมีศีลธรรมและคุณธรรมเหรอ” “เออ พ่อมหาจำเริญ พ่อคนศีลธรรมเป็นเลิศ พ่อคนคุณธรรมสูงส่ง ในฐานะประธานสโมสรนักศึกษาคามิลล่า นายจะให้ฉันออกเกียรติบัตรให้นายเลยมั้ย” คณาธิปย้อนถามกลับมายิ้มๆ “ฉันว่ารอออกใบมรณะบัตรดีกว่า จีบผู้หญิงทีเดียวสิบคนแบบนี้ซักวันต้องโดนแหกอกแน่ๆ” ภานุวัฒน์พูดพลางส่ายหน้ายิ้มๆ “ไม่มีทางหรอก พวกสาวมหาวิทยาลัยน่ะเข้าใจอะไรง่าย แล้วอีกอย่างนะใช่ว่าสาวๆ พวกนั้นจะควงกับฉันคนเดียวซะเมื่อไหร่ อยู่ในมหาวิทยาลัยเจ้าหล่อนก็ควงหนุ่มอื่นเหมือนกันนั่นแหละ” “อ๋อ เพราะคิดอย่างงี้ นายก็เลยกระจายจีบสาวไปทุกมหาวิทยาลัยว่างั้นเหอะ” ภานุวัฒน์พูด “อืม” อนรรฆพยักหน้า “อ้าว! แล้วนายไม่สนเด็กม.ปลายบ้างเหรอ ถึงจะไม่สวยเซ็กซี่เหมือนพวกสาวๆ มหาวิทยาลัยที่นายจีบอยู่ แต่เด็กม.ปลาย ก็สวยน่ารักดีเหมือนกันนะ” คณาธิปถามมาอีก อนรรฆส่ายหน้าทันที “ไม่เอาหรอก เด็กม.ปลายไม่ใช่สเป็คฉัน เด็กพวกนั้นจริงจังกับชีวิตมากเกินไป เวลาจะเลิกคบแล้วรู้สึกผิดเหมือนหลอกเด็กยังไงก็ไม่รู้” “เฮอะ ไม่สเป็คเด็กม.ปลาย งั้นเหรอ ระวังจะได้แฟนเป็นเด็กม.ปลายล่ะ ไอ้คาสโนว่า” ทิวากรพูดมาอีก ซึ่งอนรรฆก็พูดขึ้นทันทีอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นกัน “โนเวย์เพื่อนรัก” “เออ ฉันจะคอยดู ถ้านายได้แฟนเป็นเด็กม.ปลาย ฉันจะสมน้ำหน้านายคนแรกเลย” ทิวากรพูดก่อนจะหลับตาลง ภานุวัฒน์กับคณาธิปสบตากันยิ้มๆ ส่วนอนรรฆหัวเราะเบาๆ อย่างมั่นใจในตัวเองเต็มที่ “สวัสดีครับน้าวรรณ” อนรรฆก้าวเข้าไปในร้านดอกไม้พร้อมทั้งพนมมือไหว้เจ้าของร้านอย่างสนิทสนม เพราะเขากลายเป็นลูกค้าประจำของร้านดอกไม้แห่งนี้ไปแล้ว เนื่องจากมาสั่งดอกไม้ติดกันหลายวัน แถมวันไหนไม่ว่างมาเขาก็ยังอุตส่าห์โทรมาสั่งก่อน แล้วก็ตามมาจ่ายเงินทีหลังอีกต่างหาก “อ้าว! สวัสดีค่ะคุณไอเฟล วันนี้จะสั่งกุหลาบสีแดงกี่ช่อดีล่ะคะ” คุณรวีวรรณยกมือขึ้นรับไหว้ชายหนุ่มพลางถามยิ้มๆ “วันนี้เพิ่มเป็นสิบสองช่อครับ นี่ครับชื่อและที่อยู่ที่จะให้ไปส่ง” อนรรฆพูด พลางวางกระดาษจดรายชื่อและมหาวิทยาลัยของหญิงสาวสองคนลงบนเคาเตอร์ ส่วนนามบัตรของเขานั้นเอามาฝากไว้ที่ร้านทั้งกล่องเรียบร้อยแล้ว “เจ้าชู้จริงๆ เลยนะคุณไอเฟล นี่จะทำสถิติจีบสาวรึเปล่าคะ” คุณรวีวรรณถาม พลางส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างเอ็นดูปนหมั่นไส้เล็กๆ ชายหนุ่มรูปหล่อ จอมเจ้าชู้และขี้เล่นอายุคราวลูกคนนี้ ความที่เขามาสั่งดอกไม้บ่อยและความช่างพูดของเขา ก็เลยทำให้ชายหนุ่มสนิทสนมกับคุณรวีวรรณ แถมยังลามไปถึงนิสากับน้ำฝนอย่างรวดเร็วอีกด้วย “ก็ไม่ได้คิดจะทำสถิติหรอกครับน้าวรรณ แต่มีแฟนสวยๆ หลายคนมันชื่นใจดีครับ” “แล้วคนไหนแฟนตัวจริงล่ะคะ ไม่มีคนพิเศษบ้างเหรอ” คุณรวีวรรณถาม “ยังไม่มีครับ ก็แค่ควงกันไปเที่ยวสนุกๆ ผมยังไม่คิดจริงจังกับใครหรอกครับ” “พี่ฝนว่าถ้าใครเป็นแฟนคุณไอเฟลต้องช้ำใจตายแน่ๆ เลย เจ้าชู้ซะขนาดนี้” น้ำฝนซึ่งยืนจัดแจกันดอกไม้อยู่ไม่ไกลพูดขึ้น “ไม่หรอกครับพี่ฝน ถ้าผมเจอคนที่ชอบจริงๆ ผมจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงอื่นเลยครับ” “โอ้โฮ้! จะทำได้จริงเหรอคะคุณไอเฟล คนเคยเจ้าชู้เนี่ยนะ” นิสาซึ่งยืนช่วยน้ำฝนจัดแจกันอยู่แซวมาบ้างอย่างไม่เชื่อถือนัก “อย่าดูถูกผมสิครับพี่สา ผมรักจริงหวังแต่งนะครับ” อนรรฆพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เหรอคะ พี่จะพยายามเชื่อนะคะ” นิสาพูดจบก็หันไปหัวเราะกับน้ำฝน ขณะที่อนรรฆหันมาถามคุณรวีวรรณ “ค่าดอกไม้ทั้งหมดเท่าไหร่ครับน้าวรรณ” “เจ็ดพันสองค่ะ ช่วงนี้กุหลาบมาแพงแต่ว่าน้าลดให้คุณไอเฟลสองร้อยแล้วกันเป็นเจ็ดพันถ้วน เพราะคุณไอเฟลเป็นลูกค้าประจำนี่คะ” “ขอบคุณมากครับ นี่ครับค่าดอกไม้” อนรรฆพูดพลางส่งเงินให้คุณรวีวรรณ แล้วนิสาก็ส่งเสียงถามมาว่า “คุณไอเฟลขาวันนี้ไม่ไปออกเดทกับสาวเหรอคะ” “ไม่ล่ะครับ วันนี้ผมมีรายงานต้องรีบทำส่งอาจารย์ คงต้องรีบกลับคอนโดไปทำก่อน” อนรรฆตอบ “แล้วอาหารการกินทำยังไงล่ะคะ คุณไอเฟลอยู่ที่คอนโดคนเดียวไม่ใช่เหรอ” คุณรวีวรรณถามขึ้น อนรรฆยิ้มก่อนตอบ “ผมทำอาหารทานเองได้ครับน้าวรรณ แต่ถ้าขี้เกียจก็โทรสั่งจากห้องอาหารข้างล่างได้” “โอ้โฮ้! คุณไอเฟลทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ” น้ำฝนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ทำเป็นครับก็ผมต้องอยู่ที่เมืองไทยคนเดียวมาตั้งแต่อยู่ม.ปลาย แล้วนี่ครับ ก็เลยหัดทำอาหารแบบง่ายๆ ไว้ทานในยามยากครับ” อนรรฆพูดยิ้มๆ “แล้วคุณพ่อคุณแม่ไม่มาเยี่ยมบ้างเหรอคะ ทำไมทิ้งลูกชายรูปหล่อไว้ที่นี่คนเดียว” คุณรวีวรรณถามขึ้น อนรรฆยิ้มก่อนตอบอย่างร่าเริง “พ่อแม่ผมบ้างานอยู่ที่ฝรั่งเศสทั้งคู่แหละครับ แต่พวกท่านก็โทรมาหาผมเป็นประจำนะครับน้าวรรณ ประมาณซักสองสามเดือน ถ้าพวกท่านว่างก็จะแวะมาเยี่ยมผมซักที คงเพราะเห็นว่าผมเป็นผู้ชายแถมจะเรียนจบปีนี้แล้วด้วย และอีกอย่างกิจการคอนโดผมก็ดูแลได้ดีอยู่แล้ว พวกท่านก็เลยไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่” อนรรฆเล่ายิ้มๆ คุณรวีวรรณมองชายหนุ่มรูปหล่ออายุคราวลูกตรงหน้าอย่างเอ็นดู จริงอยู่ว่าเขาดูเป็นคนเจ้าชู้ กะล่อนและขี้เล่น แต่ก็นับว่าอนรรฆเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากทีเดียว ตอนแรกคุณรวีวรรณเข้าใจว่าอนรรฆคงจะเป็นแค่พวกลูกเศรษฐี ที่ขอพ่อแม่แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวเพราะต้องการอิสระ แต่เมื่อได้รู้จักสนิทสนมกันจึงทำให้คุณรวีวรรณได้รู้ว่าคอนโดมิเนียมสูงหลายสิบชั้นสุดหรูราคาหลายสิบล้าน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านดอกไม้ของเธอนั้น แท้จริงแล้วเป็นของครอบครัวอนรรฆ ซึ่งบิดามารดาของเขาลงทุนปลูกสร้างขึ้น เพื่อให้ลูกชายคนเดียวดูแล และดูเหมือนว่ารายได้ของคอนโดมิเนียมแห่งนี้จะเป็นของอนรรฆทั้งหมดด้วย “เอ่อ ผมคงต้องขอตัวแล้วล่ะครับน้าวรรณ ต้องรีบกลับไปทำรายงานแล้ว สวัสดีครับ” อนรรฆพนมมือไหว้คุณรวีวรรณ ก่อนจะหันไปกล่าวลาสองสาวรุ่นพี่ “ผมไปก่อนนะครับพี่สา พี่ฝน” “ค่า” สองสาวรับคำยิ้มๆ แล้วชายหนุ่มก็ก้าวออกไปที่หน้าร้านดอกไม้ทันที ก่อนจะขับรถมินิคูเปอร์สีส้มของตนเองมุ่งหน้ากลับที่พัก กรุ๊งกริ๊งๆ “สวัสดีค่ะแม่ เมื่อกี๊นายจอมเจ้าชู้มาสั่งดอกไม้อีกแล้วเหรอคะ” รวีรินถามขึ้นทันทีที่ผลักประตูร้านเข้ามา หญิงสาวเดินกลับมาทันเห็นท้ายรถของลูกค้าประจำวิ่งออกไปจากหน้าร้านพอดี แต่เธอก็ไม่เคยเห็นหน้าตาของเขาจริงๆจังๆ เลยสักครั้ง โดยมากรวีรินจะกลับมาทันเห็นเขาแค่ด้านหลังตอนที่เดินขึ้นรถเท่านั้น รู้แต่ว่าเขาเป็นคนสูงมาก น่าจะมากกว่าชยางกูรเพื่อนชายคนสนิทตั้งแต่เด็กของเธอด้วยซ้ำไป หมอนั่นก็ว่าสูงกว่ารวีรินแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้น่าจะสูงกว่าชยาง กูรอีกนิดหน่อย “หืม รินทำไมไปเรียกพี่เค้าอย่างนั้นล่ะ จะไปอคติอะไรกับพี่เค้านักหนา” มารดาของเธอถามยิ้มๆ รวีรินยักไหล่ก่อนตอบ “หนูไม่ได้อคติค่ะ แต่ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ก็เท่านั้นเอง” รวีรินตอบ “แหม น้องรินขา พี่ฝนว่าถ้าน้องรินได้เจอตัวคุณไอเฟลจริงๆ รับรองน้องรินเกลียดไม่ลงหรอกค่ะ” น้ำฝนพูดยิ้มๆ ก่อนที่นิสาจะเสริมว่า “จริงด้วยค่ะ คุณไอเฟลน่ารักมากๆ เลยนะคะน้องริน” “ค่า ตกลงสามสาวสามวัยกำลังหลงอีตาหอไอเฟลชนิดไม่ลืมหูลืมตาแล้วนะคะเนี่ย ชมกันได้ทุกวี่ทุกวัน รินแตะต้องไม่ได้เลยนะคะ” รวีรินว่าพลางค้อนมารดาตัวเองกับสองสาวรุ่นพี่ ก่อนจะสะพายเป้เดินขึ้นบันไดไปข้างบนทันที “เอ จะว่าไปแล้วคุณไอเฟลก็มาที่นี่บ่อยนะแต่ก็ไม่ยักเจอกับน้องรินซะที” นิสาพูดขึ้น “นั่นสินะ เห็นคลาดกันทุกทีเลยอยากให้น้องรินได้เจอคุณไอเฟลจัง เผื่อจะหายหมั่นไส้คุณไอเฟลมั่ง” น้ำฝนพูด คุณรวีวรรณหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หรือไม่ก็อาจจะหมั่นไส้หนักกว่าเดิมก็ได้นะ” “ไอเฟลคะ ยิหวาว่าเราเข้าไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่านะคะ” หญิงสาวหน้าหมวย หุ่นเซ็กซี่ ในชุดนักศึกษา บิสซิเนส ยูนิเวอร์ซิตี้ ซึ่งกำลังเดินควงแขนอนรรฆอยู่ หันมาพูดกับเขาเมื่อเดินผ่านมาถึงร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังกลางห้างสรรพสินค้า ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ พลางพูดอย่างเอาใจหญิงสาว “ก็ตามใจยิหวาสิครับ” “ไอเฟลน่ารักที่สุดเลยค่ะ” ยิหวาพูดพลางหยิกแก้มหนุ่มรูปหล่อเบาๆ อย่างเอ็นดูและรักใคร่ ก่อนจะควงแขนกันเดินเข้าไปภายในร้านอาหารญี่ปุ่น หลังจากได้ที่นั่งและสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว โทรศัพท์มือถือของอนรรฆซึ่งเปิดระบบสั่นเอาไว้ก็มีสายเข้า ชายหนุ่มดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทเพื่อดูหน้าจอว่าใครโทรเข้า เมื่อเห็นว่าโชว์ชื่อของหญิงสาวที่ชื่อรานี เขาก็รีบพูดกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามทันที “ขอโทษนะครับยิหวา เดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง ยิหวารออยู่ที่นี่นะครับ” “เร็วๆ นะคะไอเฟล” “ครับ” อนรรฆรับคำก่อนจะรีบก้าวยาวๆ ออกไปนอกร้านอาหารทันที พอเดินจนพ้นสายตาของหญิงสาวซึ่งกำลังนั่งรออยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น ชายหนุ่มก็รีบกดรับสายโทรศัพท์ทันที “สวัสดีครับรานี ขอโทษนะครับที่ผมรับช้า พอดีว่ากำลังทำอาหารอยู่ในครัวเลยวิ่งออกมาช้า ใช่ครับผมอยู่ที่คอนโดแล้ว เอ วันนี้คงไปหารานีไม่ได้หรอกครับ ผมมีรายงานต้องทำด้วยเอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยเจอกันนะครับ ครับผมก็คิดถึงรานีเหมือนกันครับ สวัสดีครับ” อนรรฆกดวางสายโทรศัพท์ยิ้มๆ ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่น แต่แล้วเสียงใสๆ เสียงหนึ่งก็ทักขึ้นอย่างตื่นเต้น “พี่ไอเฟล ดีใจจังเลยค่ะที่เจอพี่ไอเฟลที่นี่” “อ้าว น้องโรสมาเดินเล่นเหรอครับ” อนรรฆทักทายหญิงสาวหน้าตาสวย ท่าทางเปรี้ยวจี๊ด ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โรสพยักหน้าพลางขยับเข้ามาควงแขนชายหนุ่มทันทีแล้วพูดว่า “ดีใจจังที่เจอพี่ไอเฟล โรสกำลังเดินเซ็งๆ คนเดียวพอดี เราไปหาอะไรกินด้วยกันดีมั้ยคะ” “เอ่อ วันนี้คงจะไม่ได้หรอกครับน้องโรส พอดีว่าพี่กำลังจะกลับไปที่มหาวิทยาลัย เพราะพวกเพื่อนๆ โทรมาเมื่อกี๊ ว่าให้กลับไปช่วยกันแก้ไขงานที่จะส่งอาจารย์หน่อย พี่คงไปกับน้องโรสไม่ได้หรอกครับ เอาไว้เป็นวันหลังนะครับเดี๋ยวพี่จะเลี้ยงชดเชยให้” “ว้า! เสียดายจัง พี่ไอเฟลรีบมากเลยเหรอคะ” โรสทำสีหน้าผิดหวัง “ครับ พี่ขอโทษนะครับ เอาไว้เดี๋ยวคืนนี้พี่โทรหานะครับคนดี” อนรรฆบอกหญิงสาวรุ่นน้องยิ้มๆ พลางยกมือขึ้นลูบผมอีกฝ่ายอย่างเบามือ โรสถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ก็ได้ค่ะ แต่คืนนี้พี่ไอเฟลต้องโทรหาโรสจริงๆ นะคะ” “ครับ สัญญาเลย” อนรรฆพยักหน้า “ถ้างั้นโรสไปก่อนนะคะ พี่ไอเฟลที่รัก” โรสพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือมาลูบแก้มชายหนุ่มเบาๆ ก่อนเดินจากไป อนรรฆถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอกก่อนก้าวกลับเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นตามเดิม “ยิหวากินนี่สิครับ ซูชินี่ของโปรดยิหวาไม่ใช่เหรอ” “ค่ะ ขอบคุณนะคะไอเฟลน่ารักที่สุดเลย” “ถ้างั้นก็รักให้มากๆ นะครับยิหวาของผม” “แค่นี้ก็รักจะแย่อยู่แล้ว อย่าอ้อนยิหวานักเลย” “จริงเหรอครับ” เสียงออดอ้อนเอาใจกันที่ดังมาจากโต๊ะด้านหลัง ซึ่งมีเพียงพนักกั้นขวางอยู่ ทำให้รวีรินถึงกับมีสีหน้าพะอืดพะอมขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในที่สุดหญิงสาวก็บ่นออกมาเบาๆ ว่า “แหวะ! จะอ้วกเลี่ยนชะมัด” “เฮ้ย! เป็นอะไรของเธอน่ะริน ก็เธอชวนฉันมากินอาหารญี่ปุ่นเอง แล้วจะบ่นทำไมว่าเลี่ยน” ชยางกูรหนุ่มหน้าหล่อ มาดกวนซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามถามหญิงสาวอย่างประหลาดใจ “ฉันไม่ได้เลี่ยนอาหารย่ะนายชัตเตอร์” รวีรินพูดขึ้น “อ้าว! แล้วเป็นอะไรของเธอ อย่ามาบอกว่ามองตากับฉันแล้วแพ้ท้องนะ ฉันไม่รับผิดชอบเธอนะจะบอกให้ รับไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะต้องแต่งงานกับเพื่อนสนิทอย่างเธอ” “อยากตายก่อนหาแฟนได้เหรอนายชัตเตอร์ ฉันก็รับนายไม่ได้เหมือนกันแหละย่ะ” รวีรินว่า “เออๆ แล้วตกลงเธอเป็นอะไรของเธอล่ะ” “ฉันเลี่ยนบทสนทนาของผู้ชายผู้หญิงที่โต๊ะข้างหลังฉันต่างหาก ออดอ้อนเอาใจกันซะจนน่าหมั่นไส้” “เอ้า! คนเค้าเป็นแฟนกัน เค้าก็ต้องออดอ้อนกันสิ เธอนี่ประหลาดจัง แล้วจะไปสนใจเรื่องชาวบ้านทำไมล่ะเนี่ย” ชยางกูรพูดพลางคีบซูชิใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย “ฉันไม่ได้อยากจะสนใจหรอกแต่มันได้ยินเอง แถมอีตาผู้ชายที่กำลังออดอ้อนผู้หญิงอยู่นั่น ก็คือนายลูกค้าจอมเจ้าชู้ที่มาสั่งดอกไม้ที่ร้านฉัน ส่งให้ผู้หญิงวันละเป็นสิบคนด้วย” รวีรินพูด “หืม ที่เธอบอกว่าชื่ออะไรนะ เออ ไอเฟลใช่มั้ย” ชยางกูรถามด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม เนื่องจากกลัวว่าเจ้าของชื่อจะได้ยิน รวีรินพยักหน้า “ใช่ หมอนั่นแหละ เมื่อกี๊ฉันได้ยินผู้หญิงเรียกชื่อเค้า ชื่อแบบนี้คงไม่มีเป็นโหลหรอก” “ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิว่าหล่อแค่ไหน เธอก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเค้าไม่ใช่เหรอ” ชยางกูรถาม รวีรินส่ายหน้าก่อนตอบว่า “ยัง แล้วก็ไม่สนใจอยากจะเห็นด้วย ฉันไม่อยากรู้จักกับคนเจ้าชู้แบบนั้นหรอก” “แหม ก็ดูไว้ประดับความรู้ไง ดูสิว่าหล่อสูสีกับพวกนายโรม นายวิน นายธีม แล้วก็ฉันรึเปล่า” “ต่อให้หล่อกว่าพวกนาย ฉันก็ว่าพวกนายดีกว่าร้อยเท่า อย่างน้อยโรมก็ไม่จีบผู้หญิงไปทั่ว ส่วนวินก็ชอบจินนี่คนเดียว นายธีมก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้เหมือนกัน ส่วนนายซึ่งเป็นเพื่อนรักของฉันนอกจากกวนประสาทแล้ว นายก็ไม่มีข้อเสียอย่างอื่น” “เธอนี่เกลียดคนเจ้าชู้เข้าไส้จริงๆ เลยนะนี่” ชยางกูรส่ายหน้ายิ้มๆ “แหงล่ะ ฉันล่ะภาวนาให้อีตาไอเฟลนี่เจอรถไฟชนกันซักทีจริงๆ อยากรู้นักว่าคนเจ้าชู้ กะล่อนแบบนี้จะทำยังไงเผื่อจะรู้สำนึกซะบ้างถ้าถูกผู้หญิงตบ” พอสิ้นเสียงพูดของรวีริน เสียงแหลมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นทันที “ไอเฟล! ยัยหน้าหมวยนี่เป็นใคร” และเสียงชายหนุ่มโต๊ะข้างหลังก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ “จุ๊บแจง!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
1 จอมเจ้าชู้ตัวจริง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A