บทที่2 ตอน ยามรัก(2) 1   1/    
已经是第一章了
บทที่2 ตอน ยามรัก(2) 1
“สวัสดีค่ะพี่ปุ๊” หญิงสาววัย 30ปี เจ้าของร้านชุดแต่งงานพร้อมทั้งเป็นสตูดิโอถ่ายรูปแต่งงานชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของกรุงเทพ ร่างเพรียวลมสูงสง่าเดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง เธอเชื้อเชิญปุริมและปานประดับให้เข้าไปในห้องรับแขกที่จัดเตรียมไว้รองรับลูกค้าที่มาใช้บริการ สายตาของนิดาชำเลืองมองร่างของปานประดับที่ยืนเกาะแขนของปุริมไม่วาง เจ้าหล่อนเบือนใบหน้าหนีแล้วหันไปสั่งพนักงานหญิงนางหนึ่งให้ไปจัดเตรียมอาหารว่างและเครื่องดื่มมาเสริฟแด่ลูกค้าทั้งสอง “สวัสดีครับนิดา...ปานครับนี่นิดาเจ้าของร้าน” ปุริมเอ่ยทักนิดาแบบกันเอง เพราะเขาและเธอเคยคุ้นเคยกันตอนสมัยเรียนอยู่เมืองนอก ชายหนุ่มเดินตามนิดาเข้าไปยังห้องรับแขก โดยที่มือของเขายังจูงมือของปานประดับไม่เคยปล่อย เขาหันมาหาเธอที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างหลัง ปุริมกุมมือของปานประดับแน่นขึ้นพาเธอเข้าไปนั่งตามคำเชื้อเชิญ แล้วหันไปกระซิบแผ่วเบาตรงข้างหู บอกว่าสาวเจ้าตรงหน้าคือเจ้าของร้าน “สวัสดีค่ะคุณนิดา” เสียงของปานประดับสั่นเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองนิดา ผู้หญิงคนนี้ดูสวยคมเซ็กซี่ “สวัสดีค่ะ คุณปานประดับใช่ไหมคะ?” นิดาทักตอบแต่ไม่ได้หันไปมองปานประดับ เธอหันไปมองปุริมแทน สายตาของเจ้าหล่อนที่มองปุริมอย่างอาทร “ค่ะ...” ปานประดับตอบ ใจเธอเกิดความสงสัยทันที แต่ก็เชื่อใจคนรักของตัวเองมากกว่า ไม่อยากคิดอะไรที่มันจะทำร้ายจิตใจตัวมากกว่านี้ “เจ้าสาวของพี่ปุ๊นี่สวยน่ารักดีนะคะ” นิดานั่งอยู่อีกฝั่งเอ่ยบอกปุริม “นิดาก็พูดเกินไป ดูสิปานอายแย่แล้ว” ปุริมยกมือน้องน้อยขึ้นดม แต่สายตากับมองคนตรงข้าม “นิดาพูดจริงค่ะ คุณปานโชคดีนะคะที่ได้ความรักของพี่ปุ๊ไปครอง” นิดาเปรยขึ้น แล้วชำเลืองสายตาแบบจิกๆมองปานประดับ “หมายความว่ายังไงคะ?” ปานประดับยังสงสัยแคลงใจอยู่แล้วในตัวหญิงสาวที่นั่งตรงหน้า เธอเอ่ยเสียงที่สั่นกลัวให้เป็นปกติ “ก็พี่รักปานไงครับ” ปุริมรีบเอ่ยบอกแฟนสาวทันที เขาไม่อยากให้ปานประดับมารับรู้อดีตของเขากับนิดา อดีตก็คืออดีตมันผ่านมานานหลายปีแล้ว “จริงสินะ ถ้าพี่ปุ๊ไม่รักคุณปานคงไม่ขอแต่งงานแน่ค่ะ” นิดาเปรยขึ้นแล้วยิ้มเย็นให้กับคนทั้งสอง ความในใจของเธอร้อนรุ่มแค่ไหนที่ได้รับรู้ว่าปุริมกำลังจะแต่งงาน ทั้งๆ ที่เธอมาก่อนผู้หญิงต่ำต้อยอย่างปานประดับ เธอไม่ดีตรงไหนทำไมปุริมถึงสลัดเธอทิ้งไปแบบนี้ “คุณนิดาคะชุดของคุณปานประดับพร้อมแล้วค่ะ” พนักงานเข้ามาบอกกับนิดา ทำให้หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เธอตื่นจากภวังค์นึกถึงอดีต “เหรอ แล้วชุดคุณปุริมล่ะพร้อมยัง ถ้าพร้อมจะได้ลองชุดเลย และถ่ายภาพกันเลย” นิดาปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันไปถามพนักงานที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างโซฟาที่เธอนั่งอยู่ “พร้อมทั้งสองชุดเลยค่ะ” พนักงานเอ่ยบอกเจ้านาย “เธอพาคุณปานไปห้องแต่งตัวเลยนะ ส่วนคุณปุ๊เดี๋ยวฉันจัดการเอง” นิดาหันไปบอกพนักงาน “เชิญค่ะคุณปานประดับ” พนักงานสาวรับคำเจ้านาย แล้วเชื้อเชิญให้ปานประดับให้ตามเธอออกไป “ไปค่ะพี่ปุ๊ชุดพี่ปุ๊อยู่อีกห้องค่ะ เดี๋ยวนิดาจะพาไปค่ะ” เธอลุกขึ้นพร้อมทั้งฉุดรั้งมือหนามากุมไว้ แล้วให้ชายหนุ่มลุกขึ้น นิดาไม่คิดที่จะเกรงใจปานประดับเลยสักนิด “พี่ปุ๊...” ปานประดับหันไปมองสามีหมาดๆ เขาพยักหน้าให้เธอบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ต้องกังวล เขากับเธอเป็นแค่คนรู้จักกัน แต่สิ่งที่ปานประดับเห็นมันบ่งบอกว่า มากกว่าความเป็นเพื่อนหรือแค่คนรู้จัก “แต่งตัวให้สวยๆ นะครับพี่จะรอตรงนี้” ปุริมแกะมือของนิดาออกอย่างสุภาพ แล้วหันไปกระซิบบอกคนข้างกายแผ่วเบา “ค่ะ...” ปานประดับพยักใบหน้ารับคำ แล้วก้าวเดินตามหลังพนักงานเข้าไปในห้องแต่งตัว ทิ้งความสงสัยไว้เพียงแค่นั่น เธอจะหนักแน่นและเชื่อใจเขา ปานประดับอยู่ในชุดเจ้าสาวชุดไทยสีครีมเรียบง่ายแต่หรูเป็นชุดที่เธอเลือกใส่ ผมยาวถึงเอวคอดถูกช่างทำผมมวยขึ้นเป็นก้อนตรงท้ายทอยปักปิ่นทอง ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย เธอก้าวเดินออกไปหาสามีที่รออยู่ห้องสตูดิโอเตรียมตัวถ่ายภาพแต่งงาน “คุณนิดาคะคุณปานประดับมาแล้วค่ะ” พนักงานพาเธอเดินมาหาปุริม เขาและเธอยังอยู่ด้วยกัน ปานประดับเห็นนิดาจัดแจงชุดให้ชายหนุ่ม เธอจับเนคไทของชายหนุ่มให้เข้าที่ ปานประดับมองเขาและเธอเจ็บหน่วงๆ “ปาน...” ปุริมหันไปมองตามเสียงของพนักงานสาว แล้วผละออกจากนิดาก้าวเดินเข้าไปหาภรรยาตัวน้อย “พี่ปุ๊...” ไม่อยากคิดอะไรให้รกสมอง เธอพยายามฝืนยิ้มให้กับชายหนุ่ม และหันไปมองนิดาที่เดินเข้ามาสมทบ “เจ้าบ่าวเจ้าสาวพร้อมแล้วใช่ไหม ช่างภาพก็พร้อมแล้ว ดีเลยค่ะเริ่มถ่ายกันเลยนะจะได้ไม่เสียเวลา” นิดาเปรยบอกเธอและปุริม แนะช่างภาพให้ทำโน่นทำนี่ เพื่อกลบเกลื่อนความในใจของตัวเองที่มีต่อชายหนุ่ม “เจ้าบ่าวทำท่ากอดเจ้าสาวจากด้านหลังนะครับ แล้วเจ้าสาวเอียงใบหน้าเข้าหาเจ้าบ่าวนิดๆ เจ้าบ่าวก็แตะริมฝีปากตรงแก้มเจ้าสาวด้วยครับ ใช่ครับแบบนั้นล่ะครับ สวยครับสวย หันหน้าเข้าหากันครับ เจ้าบ่าวจับปลายคางเจ้าสาวด้วยครับ ยื่นหน้าเข้าหาเจ้าสาวแล้วจูบด้วยครับ สวยครับ สวยมากครับ” ช่างภาพแชะภาพทุกภาพที่ปุริมและปานประดับโพส ปากก็แนะนำให้ทั้งสองทำท่าโน่นท่านั่น “ปานของพี่สวยเหลือเกิน” โพสภาพไป ปากหยักก็กระซิบข้างหูของหญิงสาวไป “คงสวยสู้คุณนิดาไม่ได้หรอกมั้ง” ว่าจะไม่คิดและพูดแล้วสินะแต่ใจมันอดไม่ได้ เลยเอ่ยออกไป “นิดามาเกี่ยวอะไรด้วยครับ” จับใบหน้าคนขี้งอนให้หันมามอง แล้วยื่นหน้าเขาไปกดเรียวปากหยักลงบนพวงแก้มนวล “อ๊ายย!!...พี่ปุ๊หยุดบ้าได้แล้ว ช่างภาพมองอยู่นะ” ยกมือขึ้นตีลงไปบนแขนกำยำของเขา “พี่กับนิดา เราแค่รู้จักกันเท่านั้น” ปุริมกระซิบบอกตรงเรียวปากบาง “พี่ปุ๊จะเป็นแค่คนรู้จักหรือเป็นอะไรกับคุณนิดามาก่อน ปานไม่ต้องการรับรู้” เปรยเสียงสั่นเครือ เธอยกมือผลักใบหน้าของเขาออก แล้วรีบหันหลังให้ ปานประดับหลับตา พยายามกระพริบตาหลายครั้งหวังให้น้ำตาที่จะไหลหยุดลง เธอไม่อยากคิดในสิ่งที่เธอเห็นหรือเดาเหตุการณ์เอง “ดีมากเลยครับเจ้าบ่าวทำแบบเมื่อกี้อีกสิครับ น่ารักมากครับ” ตากล้องเอ่ยบอกเพราะทันแชะภาพของคนทั้งสองที่กำลังเข้าใจผิดกัน แต่เขากลับมองเป็นภาพที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวหยอกล้อกันเสียอีก “พี่รักปาน มีปานคนเดียว เป็นเมียพี่ถูกต้องตามนิตินัยและพฤตินัยแล้วนะครับ” เสียงเข้มกระซิบบอก แล้วกดริมฝีปากจูบแผ่วเบาตรงติ่งหู “เจ้าบ่าวหันหลังนะครับ เจ้าสาวโอบกอดนะครับ” ตากล้องสั่งให้เขาและเธอโพสท่าโดยที่หารู้ไม่ว่าปานประดับและปุริมกำลังทะเลาะกัน “ปานรู้ค่ะแต่ปานไม่ไว้ใจคุณนิดา” ปานประดับยังโอบกอดสามีจากทางด้านหลัง ทำตามตากล้องแนะให้ทำ เธอซบใบหน้าลงตรงแผ่นหลังแกร่ง ส่วนชายหนุ่มก็เอียงหน้ามาทำตาเจ้าชู้ชำเลืองมองเธอ มันช่างเป็นภาพที่ดูแล้วออกสวยและคลาสสิกเหลือหลาย... “อุ๊บ อ๊วกกกกก!!...” ปานประดับหมดแรงโก่งคออาเจียนอย่างหนัก เธอนั่งกอดชักโครกไว้แน่น ใบหน้าซีดเซียวซบอยู่บนหลังมือ “ปาน!...เป็นอะไรครับ?” ตะโกนถามคนอยู่ในห้องน้ำ ปุริมได้ยินเสียงเหมือนคนอาเจียน “ป่าวค่ะ...พี่ปุ๊จะไปทำงานก่อนปานก็ได้นะคะ” เธอเอ่ยตอบชายหนุ่มเสียงสั่นเครือ พยุงตัวเองลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หญิงสาวเปิดน้ำแล้ววักน้ำเย็นล้างหน้าของตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นพยายามก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว สายตาดวงโตมองดูรูปร่างของตัวเองในกระจก มือบางลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองไปมา ปานประดับยังกังวลกับแท่งบางอย่างที่เธอซื้อมาจากร้านขายยาเมื่อวาน ประจำเดือนของเธอขาดหายมาสองเดือนแล้ว ไหนจะเช้าวันนี้ ตื่นขึ้นมาก็เกิดอาเจียนเอาเป็นเอาตาย ยังคนท้อง “เปิดประตูให้พี่สิ” ปุริมทุบประตูเสียงดังเป็นห่วงเมียตัวน้อย เธอเป็นอะไร “ปานไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” ปากร้องบอกคนตัวโตที่ส่งเสียงตะโกนอยู่ข้างนอก ตาก็จ้องมองแท่งที่อยู่ในมือ ทำไมเห็นผลช้าเหลือเกิน “พี่บอกให้เปิดทำไมต้องปิดประตูด้วยครับ?” ปุริมยืนท้าวสะเอว มืออีกข้างจับลูกบิดประตูหมุนซ้ายขวา หูแนบบานประตูรอฟังคำตอบของหญิงสาว “เดี๋ยวค่ะ” ปานประดับยืนเป็นกังวล เวียนหัวก็เวียนหัว เธอทำใจแข็งเดินไปเดินมาเป็นสิบๆ รอบ นั่งก็ไม่ติด มือของเธอยังกุมชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ไหนจะคนข้างนอกก็อยากจะเข้ามาดู ผลก็ยังไม่ออกมาให้เห็นสักทีเสียงของประตูห้องน้ำดังแก๊ก ทำให้หญิงสาวเงยหน้ามองกระจก เธอเห็นเงาของเขาอยู่ในกระจก สายตาของเธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาของปุริม เขาเดินเข้ามาหา มือเรียวบางยังกุมแท่งพลาสติกไว้แน่น เธอรีบเก็บอุปกรณ์ซ่อนไว้ในลิ้นชัก แล้วพยายามฝืนตัวเองหันไปมองคนตัวโต ยิ้มแหยๆให้ “เป็นอะไรครับ?” ทนให้เมียมาเปิดประตูให้ไม่ไหว เลยต้องใช้กุญแจไขเข้ามาเอง ปุริมเดินเข้าไปหาคนร่างบาง สวมกอดไว้จากทางด้านหลัง “ปานไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” เปรยบอกเสียงเหนื่อยๆ แล้วเอนศีรษะพักพิงอกแกร่ง “ทำไมปานดูหน้าซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มจับร่างบางให้หันมาหา แล้วเชยคางมนให้เงยมอง “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ครับ” ใช้หลังมือแตะสัมผัสลงตรงหน้าผากของเธอแผ่วเบา “ปานไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ” เธอรีบเข้าไปกอดเอวสอบแล้วซบใบหน้าลงตรงอกของเขาไม่อยากให้เขาเป็นห่วงมากกว่านี้ อาการที่เธอเป็นยังไม่แน่นอน เลยไม่กล้าบอกคนตัวโต “พี่ดูปานเหนื่อยๆ มาหลายวันแล้วนะ วันนี้ปานไม่ต้องออกไปสอนนะ เดี๋ยวพี่จะโทรไปบอกอาจารย์ใหญ่ให้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มย่อตัวซ้อนร่างบางอุ้มแนบอกแล้วพาออกไปนอกห้อง วางเธอลงบนที่นอน “ปานพักสักครู่คงหายค่ะ ไม่ต้องโทรบอกอาจารย์ใหญ่นะคะ” เธอเป็นอย่างที่ชายหนุ่มบอกอ่อนเพลียและเหนื่อยด้วย หญิงสาวนอนหมดแรง หายใจรวยริน หลับตาพักสายตามันเจ็บหน่วงๆตรงม่านตา น้ำตาไหลซึมออกมาเล็กน้อยอาบหางตา “เป็นอะไรครับไปหาหมอไหมเดี๋ยวพี่พาไป” ปุริมเป็นห่วงเมียที่นอนหมดแรง เขานั่งลงตรงขอบเตียงข้างลำตัวของหญิงสาว นิ้วโป้งใหญ่เช็ดน้ำตาให้กับเธอตรงหางตา “ไม่ค่ะ ปานแค่เวียนหัว พักสักประเดี๋ยวคงจะดีขึ้นค่ะ พี่ปุ๊ไปทำงานเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงปานนะคะ” สาวเจ้าพยายามลืมตา ขนตาเป็นแพยาวงอนเปียกชื้นเพราะน้ำตา เหลือบสายตามองชายหนุ่มตรงหน้า ถ้าสิ่งที่เธอวิตกกังวลอยู่ขณะนี้เป็นเรื่องจริง เธอจะบอกเขาในวันแต่งงาน เหลืออีกแค่เจ็ดวันเท่านั่น หญิงสาวอยากให้เขารับรู้ในวันที่ดีที่สุดอยากมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับชายหนุ่ม “เดี๋ยวตอนเที่ยงพี่จะกลับมาทานข้าวด้วยนะครับ ปานอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม?” ชายหนุ่มก้มหน้าลงจูบสัมผัสผิวหน้าผากมน เรียวปากหยักไล้มาแตะตรงริมฝีปากบางขาวซีด เขาจูบเน้น อ้อยอิ่งเป็นนาน “ปานอยากกินมะม่วงดองค่ะ” พูดถึงของเปรี้ยว ต่อมน้ำลายก็แตกขึ้นมาเลยทีเดียว หญิงสาวก็กลืนน้ำลายคงคอ “เอื้อก!!...” “เอามะม่วงดองอย่างเดียวนะ?” ถามโดยที่ไม่คิดสงสัย เพราะเคยเห็นหญิงสาวชอบซื้อมาทานบ่อย มือหนาปัดเส้นผมนุ่มตรงข้างแก้มที่ขณะนี้มีสีแดงระเรื่อ เขาโน้มใบหน้าเข้าหา ริมฝีปากหยักจูบลงไปบนเรียวปากบาง “พี่ปุ๊อย่าค่ะ” ปานประดับพูดอู้อี้ แล้วยกมือผลักใบหน้าของชายหนุ่มออก เอ่ยเสียงสะบัดห้ามปราม “พี่ไม่อยากไปเลย” รั้งมือบางไว้ แล้วมองเธอด้วยสายตาวิงวอน “ไปได้แล้วค่ะ ปานจะได้พักผ่อนเสียที...” “พี่ไปนะ” ลุกขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง ไม่อยากห่างคนร่างบางเอาเสียเลย ปุริมก้าวเดินออกไปหยุดตรงหน้าประตูแล้วหันมามอง เขาส่งยิ้มให้คนร่างบางทีนอนหมดแรงอยู่บนเตียงใหญ่ มือก็ล้วงเอาโทรศัพท์ที่สั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ยกขึ้นดู เรียวปากหยักอมยิ้มทันทียามได้เห็นหมายเลข “ว่าไงตา?” ปุริมมองนามชื่อในมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล้าสุด เขายิ้มให้กับเบอร์ทางไกลแล้วกรอกเสียงทักทายทันที ไม่รอให้ฝ่ายโน้นเอ่ยขึ้นก่อน นานๆ จะได้ยินเสียงของอันทิตาสักที “สวัสดีค่ะ คุณปุริมใช่ไหมคะ?” เสียงทักจากทางไกลเป็นภาษาอังกฤษ “ครับ...ผมปุริมครับ” ปุริมรีบก้าวเดินไปหยิบพาสปอสที่อยู่ในห้องทำงาน และวิ่งออกจากห้องอย่างรีบเร่งโดยที่ไม่ได้คิดถึงใครบางคนที่ยังนอนหมดแรงอยู่ในห้อง ชายหนุ่มคิดอย่างเดียวว่าต้องไปฝรั่งเศสวันนี้และเดี๋ยวนี้ เขาขับรถด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากได้รับข่าวทางไกลแจ้งมาว่า อันทิตากินยาฆ่าตัวตายตอนนี้หมอกำลังช่วยรักษาชีวิตเธอ จะอยู่หรือจะตายเท่ากัน ชายหนุ่มซื้อตั๋วเครืองบินมุ่งหน้าสู่ประเทศฝรั่งเศส หัวใจของเขากระสับกระส่ายเป็นห่วงน้องสาวเหลือเกิน พอเครื่องบินร่อนจอดลงท่าอากาศยานกรุงปารีสในช่วงเช้าของวันใหม่ เขาก็นั่งรถแท็กซี่ไปยังโรงพยาบาลที่อันทิตารักษาตัวอยู่ “ตารอพี่นะครับ อย่าเป็นอะไร” ปุริมนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ สีหน้าของเขามีแววเจ็บปวด ร้อนรนเป็นห่วงน้องสาว ทำไมอันทิตาถึงต้องฆ่าตัวตาย
已经是最新一章了
加载中