ตอน "ลวงรัก รักลวง(2) 3
1/
ตอน "ลวงรัก รักลวง(2) 3
เจ้าสาวรอรัก
(
)
已经是第一章了
ตอน "ลวงรัก รักลวง(2) 3
“ค่ะท้องแรก แล้วคุณล่ะคะ ท้องแรกใช่ไหมคะ?” ปานประดับยืนคุยกับอันทิตา แววตาสุกใสยามนึกถึงตอนที่เธอจะมอบสิ่งนี้ให้ปุริม อยากรู้จังว่าเขาจะทำสีหน้าอย่างไร หญิงสาวทั้งสองมีความรู้สึกไม่ต่างกันเลยว่าเคยรู้จักกันมานาน แค่มองตากันก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร “ค่ะ...ท้องแรก...” “กี่เดือนแล้วคะ?” ปานประดับมองหน้าท้องแบนราบของอันทิตา “สามเดือนแล้วค่ะ...” “ดีใจด้วยนะคะ” ปานประดับยิ้มให้ “แล้วคุณล่ะคะ กี่เดือนแล้ว?” อันทิตาเอ่ยถาม แล้วก้มมองหน้าท้องของปานประดับ “สองเดือนแล้วค่ะ” ใบหน้าของปานประดับมีความสุขที่ได้เอ่ยถึงลูกในท้อง “ฉันดีใจกับคุณด้วยนะคะ จากใจจริงเลยค่ะ” อันทิตาก็ยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าเหมือนกัน “ขอบคุณค่ะ” ปานประดับยิ้มหวานทั้งตาและใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงใจ ให้กับหญิงสาวแปลกหน้า “ฉันอยากได้สีฟ้า คุณช่วยหยิบให้หน่อยสิคะ” อันทิตามองไปทางด้านหลังของปานประดับ เธออยากได้รองเท้าคู่นั้น “ได้ค่ะ สงสัยได้ลูกชายแน่เลย สีสวยมาก” ปานประดับยื่นของชำร่วยรองเท้าเล็กจิ๋วให้อันทิตา เธอยิ้มให้แล้วหันมามองของชำร่วยของตัวเอง ทำไมเธอเลือกเอาสีชมพูนั่นไม่อาจรู้ได้ ในใจเธอคิดว่าสีนี้เหมาะสมที่สุด “ไม่รู้สิคะฉันก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมชอบสีฟ้าขึ้นมาทันที เมื่อก่อนฉันไม่ชอบเลยนะคะสีฟ้าอะไรเนี่ย” อันทิตามองของในมือ เธอเงยหน้ามองปานประดับ และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนสนิทสนมกันมานานแสนนาน ใครต่อใครที่เข้าร้านมาเห็นหญิงสาวยืนคุยกันกระหนุงกระหนิงก็คิดว่าทั้งสองคนคงเป็นเพื่อนรักกันแน่ “ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด...” เสียงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์ ทำให้อันทิตาที่กำลังพูดคุยกับปานประดับอย่างสนุกสนานก้มลงควานหาของในกระเป๋าใบใหญ่ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เธอหันไปบอกปานประดับ “ฉันต้องไปแล้วนะคะ ดีใจที่ได้คุยกับคุณ ทำให้ฉันสบายใจขึ้นมากเลยค่ะ” อันทิตาเอ่ยเสียงหวานอย่างเป็นมิตร ครั้งแรกนับตั้งแต่กลับมาถึงเมืองไทย อันทิตาไม่ได้คุยกับใครแล้วสบายใจแบบนี้เลย ทำไห้เธออยากจะรู้จักหญิงสาวตรงหน้าให้มากกว่านี้ มือของเธอยังถือโทรศัพท์ที่ยังสั่นอยู่ ปุริมโทรมาตามเธอ “เช่นกันค่ะ ฉันก็สนุกที่ได้คุยกับคุณ ดีใจด้วยนะคะที่ได้เป็นคุณแม่เหมือนกัน” ปานประดับเอ่ยบอกเช่นกันแล้วทอดสายตามองหน้าท้องของอันทิตา เธอยิ้มให้ แล้วก็แยกย้ายกันไปจ่ายเงินต่างคนต่างเดินไปคนละทาง... ปานประดับหลังจากจับจ่ายของส่วนตัวครบทุกอย่างแล้ว เธอก็เดินออกมาต่อคิวรอขึ้นรถแท็กซี่ หญิงสาวทนยืนไมไหวเลยไปนั่งเก้าอี้ที่พนักงานห้างจัดไว้ให้สำหรับลูกค้ามาบริการ เธอถือถุงพะรุงพะรังเต็มมือ เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนจะเป็นลมเท่ากันนั่งหน้าเศร้ามือก็นวดขาตัวเอง สายตาเงยมองผู้คนเดินผ่านไปมา “ปาน!...ปาน!!...” กฤติพงศ์หนุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย เขาแอบหลงรักปานประดับมานาน ตั้งแต่หญิงสาวอยู่ปีหนึ่ง เขายังมีความหวังเสมอ ถึงจะรู้ว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอก็จะเข้าประตูวิวาห์กับอาจารย์หนุ่ม ดีใจแค่ไหนที่ได้เจอเธอวันนี้ “พี่พงศ์...สวัสดีค่ะ” ปานประดับหันไปมองตามเสียงเข้มที่ตะโกนชื่อของเธอ หญิงสาวยืนขึ้นแล้วยกมือไหว้คนตรงหน้า ส่งยิ้มหวานให้กฤติพงศ์ “ปานสบายดีนะครับ?...” “ค่ะ...ปานสบายดี...” “ปานจะไปไหนครับ? ทำไมมานั่งตรงนี้ละครับ” กฤติพงศ์เอ่ยถาม นึกแปลกใจเหลือเกินทำไมไม่เห็นอาจารย์ปุริม เขาส่งสายตาความหวังดีและเป็นห่วงเธอ “ปานจะกลับบ้านค่ะ” เธอกลั้นเสียงสั่นเครือไว้ยามเอ่ยถึงห้องหรูที่ไม่มีปุริม เขาหายไปไหนมันยังวนเวียนอยู่ในใจเธอเสมอ กับคำนี้ “พี่ดีใจเหลือเกินที่ได้เจอปาน...” “พี่พงศ์จะไปไหนคะ?” ในมือถือของพะรุงพะรัง เธอยืนคุยเริ่มปวดขา จะกลับไปนั่งที่เดิมก็มีคนนั่งไปเสียแล้ว “ไปนั่งข้างในดีไหมครับ?” ชายหนุ่มชี้มือไปในห้าง สายตาเข้มยังสำรวจคนร่างบางเพรียว ดูเธอมีน้ำมีนวลขึ้น ผิวตามแขนใสนวลเปล่งปลั่ง “จะดีเหรอคะ?...” “เราไม่เจอกันนาน ไปหาที่นั่งคุยกันแล้วหาอะไรกินดีไหมครับ? เดี๋ยวพี่เลี้ยง” กฤติพงศ์มองหญิงสาว เธอยังสวยหวานน่ารักเหมือนเดิม “ปานว่าไว้วันหน้าดีกว่ามั่งค่ะ จะค่ำแล้วด้วย” หญิงสาวปฎิเสธด้วยท่าทีเกรงใจ เธอไม่อยากไปนั่งทานอะไรกับเขาสองต่อสอง “ห้าโมงเองครับ แค่ทานน้ำเย็นสักแก้วคุยกัน เดี๋ยวพี่จะไปส่งนะครับ...นะ...นะ” กฤติพงศ์ยกแขนดูนาฬิกาบนข้อมือ แล้วส่งสายตาอ้อนวอนขอร้องหญิงสาว ใบหน้าอันหวานมีน้ำมีนวลแหงนมองกฤติพงศ์แล้วพยักหน้ารับคำของของชายหนุ่ม “พี่ช่วยถือนะครับ” คนตัวโตยิ้มแฉ่งทันที แล้วยื่นมือเอาของจากมือหญิงสาวมาถือไว้ อีกมือก็ถือโอกาสจูงมือบาง หวังพาข้ามถนนไปอีกฝั่ง “พี่พงศ์!!...ปล่อยมือปานเถอะค่ะ” ปานประดับยังรั้งมือและสิ่งของในมือของกฤติพงศ์ไว้ ไม่อยากให้เขามาทำดีกับตัวเอง ไม่อยากให้ชายหนุ่มผิดหวัง เธอรู้ว่าชายหนุ่มคิดอย่างไรแต่หญิงสาวให้ได้แค่น้องสาวรักพี่ชายเท่านั้น รถมากมายทยอยขับออกจากหน้าห้างการจราจรติดขัด รถติดกันเป็นแถวยาว ภาพหนุ่มสาวสองคนที่ช่วยกันถือของ ชายหนุ่มยังคงจับกุมมือของหญิงสาวพาข้ามถนนไปอีกฝั่ง มันเป็นภาพที่ทำให้หญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ในรถคันหรู เธอหันหลังมองภาพนั่นผ่านกระจกรถด้านหลัง “ที่แท้ก็มากับสามีนี่เอง” อันทิตาขยับตัวนั่งเอียงข้าง ใบหน้าของเธอยังหันมองสองหนุ่มสาวที่จูงมือกันคงจะพากันข้ามถนน เธอยิ้มแล้วเปรยออกมาให้คนที่นั่งฝั่งคนขับได้ยิน “ใครครับ?” ปุริมถาม สายตาเข้มยังมองข้างหน้า มือยังจับพวงมาลัย เขาชลอรถขับช้า รถแต่ละคันขยับทีละนิดทีละน้อย เพราะรถติดมากช่วงเวลาแบบนี้ “ก็ผู้หญิงคนที่ตาเจอในห้างไงค่ะ...” “จะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไมครับ...” “ตาคิดว่าเธอมาคนเดียว เห็นเธอเดินคนเดียวนะคะ...” “ทำไมชอบคุยกับคนแปลกหน้านักนะ” ปุริมเอ่ยเตือนน้องสาว ที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นเป็นที่สุด รู้ว่าน้องสาวชอบช่วยเหลือคนที่มีโอกาสน้อย “คุยแล้วสบายใจ ตาก็อยากจะคุยค่ะ เธอนิสัยดีด้วยค่ะ สวยหวานเชียวดูสามีคงจะหวงด้วยนะ...” “เคยเห็นสามีของเธอเหรอครับ?...” “ไม่เคยค่ะ...พี่ปุ๊ก็ดูสิคะ จูงมือกันไม่ปล่อยเลย...” “เรานี่บอกไม่จำเลยจริงๆ” ปุริมเอียงหน้ามองน้องสาวที่เอาแต่มองไปข้างหลัง เขาส่ายหัวให้กับคนดื้อรั้น “พี่ปุ๊ดูสิคะ” อันทิตาไม่เลิกมอง เธอยังยื่นมือสะกิดแขนปุริม ให้ดูตามแล้วยิ้ม ร่างบางของปานประดับที่โดนกฤติพงศ์จูงมือพาข้ามถนนผ่านกระจกรถด้านข้าง ภาพของเขาและเธอถ้าใครเห็นก็คิดแบบเดียวกันทั้งนั้นว่าสองคนนั่นเป็นสามีภรรยากันแน่ “จะไปสนใจทำไมครับ เรื่องของเขาเรานี่จริงๆ เลย” ปุริมเอ่ยบอกอันทิตาแบบพาไปที แต่ในใจของเขาก็อยากจะเห็น สายตาเข้มก็ชำเลืองมองกระจกด้านข้างรถ ภาพหนุ่มสาวคู่นั้นจับจูงมือพากันเดินข้ามถนน ดูท่าทางสองหนุ่มสาวรักกันกระหนุงกระหนิง ปานประดับเดินตามชายหนุ่ม มือบางของเธอถูกมือหนาจับจูง สิ่งของพะรุงพะรังเป็นชายหนุ่มถือให้ มันเป็นภาพที่ขัดใจและบาดตาบาดใจปุริมยิ่งนัก เจ็บจุกตรงกลางอกขึ้นมา ปุริมอยากจะลงจากรถแล้วไปกระชากร่างบางออกมาจากไอ้เด็กหน้าอ่อนนั่นเสียเหลือเกิน มันกล้าดีอย่างไรถึงมาจับมือถือแขนเมียของเขาแบบนี้ แม่ตัวดีนั่นก็เหลือเกินเดินตามเขาไปไม่คิดอายใครต่อใครบ้างเลย ปุริมอยากจะตะโกนให้โลกรับรู้ว่านั่นมันเมียกู “ปาน!!...นี่ผัวไม่อยู่แค่วันสองวัน เธอกล้าจะสวมเขาให้พี่แล้วเหรอ” สายตาเข้มเปลี่ยนสีเป็นแดงก่ำขึ้นมา จ้องมองภาพนั่นด้วยความโกรธ “พี่ปุ๊ว่าใครนะคะ” อันทิตาหันมาถามพี่ชาย “บรื้นๆๆ” ไม่คิดที่จะตอบคำถามของอันทิตา มือหนากำพวงมาลัยรถแน่นแค้นใจ เท้าก็เหยียบเกียร์เร่งเครื่อง ทั้งที่รถยังนิ่งอยู่ สายตาเข้มยังจ้องมองหญิงสาวและชายคนนั่น เขาทั้งสองพากันเดินเข้าไปในร้านอาหาร “พี่ปุ๊!!...” อันทิตาหันกับมามองพี่ชาย ขณะนี้มีใบหน้าบึ้งตึง เธอไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มเป็นอะไร ทำไมต้องเหยียบเกียร์เร่งขนานนี้ ผู้คนต่างก็หันมามองรถที่เธอนั่งเป็นตาเดียวกันทั้งนั้น “ตา!!...นั่งดีๆ” ชายหนุ่มโมโหหึง เอ่ยเสียงเข้มดุน้องสาว “พี่ปุ๊!!...” อุทานชื่อชายหนุ่ม แต่พอมองเสี้ยวหน้าของเขาแล้ว อันทิตาก็สงบคำ “บ้าเอ้ย!!...” สายตาอันดุดันของชายหนุ่มยังมองผ่านกระจกข้างรถ เห็นปานประดับยิ้มสดใสให้ไอ้เด็กนักศึกษาคนนั้นแล้วยิ่งอยากให้เขาลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปกระชากชกหน้าไอ้บ้านั่นเสียจริง มือหนากำเข้าหากัน แล้วชกลงตรงพวงมาลัยสองสามครั้ง เขาหักพวงมาลัยเข้าตรงช่องทางไม่มีรถ แล้วเหยียบเร่งเครื่องขับออกไปจากตรงนั้นด้วยความเร็วหวังจะไปส่งอันทิตาที่บ้าน แล้วจะกลับมาคิดบัญชีกับแม่ตัวดีที่บังอาจไปเดินให้คนอื่นจับมือถือแขนแบบนี้ “พี่ปุ๊เป็นอะไรคะ? ขับช้ากว่านี้ก็ได้ตากลัว” อันทิตานั่งตัวสั่น มือบางจับสายเข้มขัดนิรภัยแน่น ตาก็จ้องมองเสี้ยวหน้าของพี่ชาย “พี่รีบน่ะอยากกลัวเลย” เสียงเข้มเอ่ยบอก สายตาของเขายังมีร่อยรอยความเจ็บปวด อยากจะเปลี่ยนรถคันนี้ให้เป็นเครื่องบินเสียเหลือเกิน ใจอยากจะย้อนกลับไปทางเก่า แล้วกระชากร่างบางเอากลับมาด้วย “แต่ตากลัวนี่คะขับช้าๆ ก็ได้ค่ะ” อันทิตาหันมองเสี้ยวหน้าของพี่ชาย เธอไม่เข้าใจเลย เขาเป็นอะไรขึ้นมา เมื่อกี้ยังดีอยู่เลย แค่บอกให้มองสามีภรรยาคู่นั่นเอง ปุริมก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีเลย ปุริมไม่ได้ยินเสียงของอันทิตาเอ่ยห้าม เพราะในสมองของเขามีแต่ใบหน้าของปานประดับ เขาคิดไปต่างๆนานา กลัวเธอจะไปเป็นอื่น ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจ เขาไม่อยู่ให้เห็นหน้าแค่ไม่กี่วัน ปานประดับก็คิดปันใจให้ชายอื่นเสียแล้ว ชายหนุ่มไม่พูดไม่จาเอาแต่เหยียบเกียร์เร่งเครื่องขับรถโฉบซ้ายโฉบขวา รถบางคันบีบแตรรถไล่หลัง เสียงดังระงม อยากจะให้ถึงบ้านเร็วๆ แล้วเขาจะกลับไปจัดการกับเธอ “ปานประดับ!!...เธอได้ตายดีแน่ นางกากีหลายใจ” เรียวปากหยักขมุบขมิบ เอ่ยชื่อเต็มของหญิงสาว ชายหนุ่มคาดโทษเอากับเธอ โดยไม่คิดเลยว่าตัวเองก็ผิดอยู่เหมือนกัน.......
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอน "ลวงรัก รักลวง(2) 3
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A