บทที่ 6 ความหวังเป็นจริง 1.1   1/    
已经是第一章了
บทที่ 6 ความหวังเป็นจริง 1.1
ณ โรงแรมเชอราตัน เพลส บัณฑิตาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในกรุงลอนดอน การท่องเที่ยวต่างแดนครั้งนี้หล่อนมีความสุขมาก เสมือนได้หลุดมาอยู่ในโลกแห่งอิสระ ไม่ต้องถูกบังคับให้ทำในเรื่องที่ไม่ต้องการทำ และไม่รู้สึกเหนื่อยกับการเที่ยวด้วย หล่อนตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ต่างๆ ที่เคยเห็นแต่ในภาพถ่านหรือในทีวี อินเตอร์เน็ต บางแห่งเห็นแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ความมืดโรยตัวแทนแสงตะวัน ทว่าบัณฑิตาก็ยังไม่อยากกลับโรงแรม หล่อนเดินเที่ยวในกรุงลอนดอน อยากเห็นแสงสียามค่ำคืนเพราะว่ากันว่า สวยกว่าตอนกลางวันมาก และก็เป็นจริง บัณฑิตาเก็บภาพความสวยงามไว้เป็นร้อยภาพ ตั้งใจว่าจะส่งให้ชเนตตีดูคือนี้ บัณฑิตาตกในเมื่อมองดูนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาสามทุ่มยี่สิบ ไม่คิดว่าตนจะเที่ยวจนลืมเวลา หล่อนจึงกลับที่พักด้วยการเดิน บัณฑิตาหยุดยืนหน้าโรงแรมที่พัก ยกกล้องถ่ายรูปอาคารเก่าแกฝั่งตรงข้ามโรงแรม ที่ตอนนี้ประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสี เป็นความสวยงามและเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง ขณะที่กำลังเก็บภาพความสวยๆ ถูกใจอยู่นั้น รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดใกล้ๆ กับจุดที่บัณฑิตายืนอยู่ ประตูรถห้องโดยสารถูกเปิดออกด้วยมือของคนทำหน้าที่ขับรถ เจ้าของเรือนกายก้าวลงมายืนข้างตัวรถ ลีโอนาร์ดมองด้านข้างของสตรีที่ยืนถ่ายรูปใกล้ๆ เป็นความใกล้ที่ห่างกันเพียงสามเมตร หัวใจลีโอนาร์ดเต้นแรงผิดจังหวะ เต้นตุ้บๆ แรงมาก เขาหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง รู้สึกราวกับว่า โลกกำลังหยุดหมุน เวลากำลังหยุดเดิน เมื่อหญิงสาวคนนั้นหันกล้องมาทางตน และลดกล้องลงช้าๆ สายตาสองคู่สบกันอย่างไม่มีการนัดหมาย บัณฑิตาอึ้งในความหล่อของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดลำลอง ที่ข้างกายมีผู้ชายสองคนยืนอยู่ด้วย หล่อนรู้สึกใจสะท้านกับสายตาคู่นั้น มันร้อนแรงพิกล แล้วรู้สึกคุ้นหน้าเขา ราวกับว่าเคยเห็นที่ใดมาก่อน แต่ก็ชะงักกับความตกใจที่เคลือบอยู่บนใบหน้าเขา กำลังสงสัยว่า เขาตกใจทำไม บัณฑิตาไม่รู้สาเหตุนั้นแต่ก็ยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนเดินเข้าไปในโรงแรม “เจ้านายครับ...เธอคนนั้น” เมสันก็อึ้งค้างไม่ต่างกับคนเป็นนาย ไม่คิดว่าจะได้พบเจกับผู้หญิงที่ลีโอนาร์ดตามหามานานแรมปีง่ายๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ลีโอนาร์ดทำทุกทางเพื่อให้ได้ข้อมูลว่า สาวปริศนาคนนั้นคือใคร มีทั้งเงินและอำนาจ แต่หาผู้หญิงคนเดียวไม่เจอ เสียงพูดของเมสันเปรียบเสมือนดึงสติของเจ้านายหนุ่มให้กลับมาอยู่กับตัวเอง ลีโอนาร์ดรีบก้าวเดินตามร่างแน่งน้อยไปทันที “ไปด้วยครับ” เสียงลีโอนาร์ดดังขึ้นขณะประตูลิฟต์กำลังจะปิด คนอยู่ในลิฟต์ได้ยินเสียงจึงกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิด ร่างสูงใหญ่ของคนพูดก้าวเข้ามาในลิฟต์พร้อมกับลูกน้องอีกสองคน บัณฑิตาส่งยิ้มบางให้ลีโอนาร์ดก่อนเอ่ยถาม “ชั้นไหนคะ” ในขณะที่ถาม บัณฑิตารู้สึกคุ้นหน้าเขามากขึ้น แต่คิดไม่ออกว่าเจอที่ไหน “ชั้นเดียวกับคุณครับ” ลีโอนาร์ดส่งยิ้มให้บัณฑิตา คนได้รับรอยยิ้มถึงกับใจเต้นแรง ใบหน้าเขาหล่ออยู่แล้ว ยามเกิดรอยยิ้มบนใบหน้า ยิ่งทำให้ความหล่อของเขาโดดเด่นขึ้น เมื่อประตูลิฟต์ปิด บัณฑิตารู้สึกราวกับว่าตนเองถูกจับจ้อง ซึ่งเจ้าของสายตาที่ไม่ละห่างจากใบหน้าหล่อนก็คือ บุรุษหน้าตาดีที่ยืนไม่ห่างตนนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่บัณฑิตาไม่รู้สึกขยะแขยงหรือไม่พอใจกับการถูกมอง ตรงกันข้ามหล่อนรู้สึกเขินอาย หัวใจเต้นแรงมาก จุดหมายคือชั้นสิบเจ็ด มันช่างยาวนานเหลือเกิน หล่อนอยากให้ถึงชั้นนั้นโดยเร็ว เพื่อจะได้นำตัวเองออกจากลิฟต์ตัวนี้ ก่อนที่หัวใจหล่อนจะกระดอนออกจากอก และแล้วก็ถึงชั้นสิบเจ็ดเสียที... บัณฑิตาก้าวฉับๆ ออกจากลิฟต์ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก หล่อนก้าวเดินโดยไม่หันมามองด้านหลัง จึงไม่รู้ว่าลีโอนาร์ดเดินตามมา และก้าวเดินช้าๆ เพราะอยากรู้ว่า หล่อนพักห้องใด มุมปากเมื่อรู้ว่า หญิงสาวที่ตามหาพักอยู่ห้องใด พักอยู่ห้องตรงข้ามกับห้องเขา... “ว้าย!” ลีโอนาร์ดฉวยจังหวะที่บัณฑิตากำลังเปิดประตูเข้าไปในห้อง กอดและดันร่างสาวให้เข้าไปในห้อง ก่อนปิดประตู “ปล่อยนะ” บัณฑิตาตั้งสติได้ หล่อนสะบัดตัวให้หลุดออกจากอ้อมแขนเขา ซึ่งก็หลุดได้โดยง่าย เพราะเขาคลายมือออกจากร่างแน่งน้อย “คุณเป็นใคร ทำแบบนี้กับฉันทำไม” บัณฑิตาถามเสียงสั่น มองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาของมาป้องกันตัว ก่อนคว้าแก้วน้ำที่คว่ำอยู่บนหลังตู้เย็น “อย่าเข้ามานะ ถ้าคุณเข้ามา ฉันเขวี้ยงแก้วใส่คุณจริงๆ ด้วย” คนขู่ก็นึกว่าเขาจะกลัว แต่เปล่าเลย ลีโอนาร์ดกลับยิ้ม “คุณจำผมไม่ได้เหรอ” คำถามชายหนุ่มตรงหน้าเรียกความสงสัยให้บัณฑิตามากว่า เคยพบเขามาก่อนหรือ หล่อนใช้ช่วงเวลาที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยคิดทบทวนว่า เคยเจอเขาหรือไม่ ‘แต่หน้าตาเขาคุ้นๆ นะ หรือว่าเราเคยเจอเขามาก่อน ทำไมนึกไม่ออกหว่า มันติดอยู่ในหัวเนี่ย’ บัณฑิตาคิดในใจ “ไม่ ฉันไม่เคยเจอคุณ” “อ้อ...ผมลืมไป คุณจำผมไม่ได้ แต่ผมจำคุณได้ดี” คำพูดของเขายิ่งทำให้บัณฑิตางงหนักขึ้น “ผมคือผู้ชายคืนนั้นไง ผู้ชายที่ได้ความสาวของคุณ” บัณฑิตาตัวชา อาการตกใจหวนเข้ามาในความรู้สึกอีกรอบ มองเขานิ่งค้าง สมองหล่อนคล้ายถูกควักออกไป หัวใจเต้นถี่แรงมากที่สุดในชีวิต เหตุการณ์ในตอนที่ตนตื่นขึ้นมา และรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับตน เป็นความทรงจำที่อยากลืม แต่ไม่เลย มันตามหลอกหลอนตนมาตลอดนับแต่นั้น พยายามคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง ทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน หรือไม่ก็ถูกจัดฉาก ทว่าหลักฐานบนเตียงและสภาพร่างกายมันฟ้องว่า หล่อนสูญเสียความสาวให้ชายปริศนาที่ไม่รู้ว่า คือใคร เห็นเพียงใบหน้าเพียงเสี้ยววินาทีที่รู้สึกตัว เป็นความทรงจำลางๆ ที่ไม่น่าจดจำ บัณฑิตาตกอยู่ในอาการช็อก สติของหล่อนเหมือนขาดสะบั้น ม่านตาพร่าเลือน วินาทีต่อมาหล่อนรู้สึกว่า ความมืดกำลังโรยตัวเข้าสู่ร่าง ดวงตาค่อยๆ ปรือทีละนิด จากนั้นหล่อนก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย “เฮ้ย! คุณ” ลีโอนาร์ดโผเข้าไปรับร่างสาวสวยที่ทำให้หัวใจหวั่นไหว ก่อนช้อนร่างหล่อนไปยังห้องของเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ลีโอนาร์ดได้เจอสาวในค่ำคืนนั้นแล้ว เขาทำตามที่ตั้งใจไว้แน่นอน เขาไม่มีวันปล่อยหล่อนไปเป็นครั้งที่สอง ณ โรงพยาบาล โดมินิคนั่งกุมขมับอยู่บนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน เขารู้สึกมึนและอึ้งกับความจริงที่ได้รับรู้ เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่า การที่อมีเรียเดินออกไปจากชีวิตเขาเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน หล่อนไม่ได้เพียงลำพัง แต่ไปพร้อมกับลูกน้อยในครรภ์ เงินสามแสนปอนด์นอกจากนำไปปลดหนี้สินและเลี้ยงครอบครัว หล่อนยังนำไปเลี้ยงดูลูกน้อยที่เกิดมาดูโลกด้วย ความที่มีลูกอายุยังน้อยและเรียนไม่จบปริญญาตรี ทำให้หล่อนต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะอมีเรียแบกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านไว้ทั้งหมด หล่อนลำบากมาตลอดสิบกว่าปีโดยไม่หวนกลับมาหาโดมินิค มาบอกเล่าความจริงว่า อีวานคือลูกชายของเขา หากบอกรับรองว่า โดมินิคอ้าแขนรับผิดชอบสองแม่ลูกด้วยความเต็มใจแน่นอน โดโนแวนก็ต้องยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ขัดขวาง ไม่กีดกัน เนื่องจากอยากได้หลานเป็นทุนเดิม และที่สำคัญ โดมินิคก็จะไม่ต้องแต่งงานกับม่านไหม หญิงสาวที่ไม่ได้รัก เรื่องที่โดมินิคพบเจออมีเรียกับอีวานอาจเป็นเพราะโชคชะตา อีวานป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เนื้องอกที่เป็นเนื้อธรรมดา เนื้องอกที่ไม่อันตรายระดับ 1-2 มีการเจริญเติบโตช้า ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง สามารถรักษาให้หายได้ และมีโอกาสน้อยที่ผู้ป่วยจะกลับมาเป็นอีกหลังการรักษา การมาลอนดอนครั้งนี้ของสองแม่ลูก อมีเรียตั้งใจพาบุตรชายมารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคำแนะนำของแพทย์ที่รักษาอีวานในเมืองนอตทิงแฮม เมืองที่อมีเรียใช้ชีวิตอยู่สิบเจ็ดปี โดมินิครู้จักโรคนี้เพียงแค่ชื่อ เขาคิดเสมอว่ามันร้ายแรง เขาตกใจมากที่รู้ว่าลูกชายเป็นโรคนี้ แต่พออมีเรียอธิบายให้เข้าใจว่า เป็นโรคที่รักษาได้ เพราะไม่ใช่เนื้อเยื่อที่เป็นเนื้อร้าย วิธีการรักษามีหลายอย่าง การผ่าตัด การฉายแสง รังสีศัลยกรรม และอีกหลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่า แพทย์ผู้ให้การรักษาจะเห็นสมควร เมื่อรู้ว่าตนเองมีลูกกับอมีเรีย ซึ่งเขามั่นใจว่าเป็นลูกของตนเต็มร้อย ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว ตอนนี้เขามีลูกแล้ว แม้ว่าลูกไม่ได้เกิดจากสตรีที่บิดาหาให้ ทว่าอีวานก็คือลูกของเขา ทายาทของตระกูลแกรนด์ เขาจะนำเรื่องนี้ไปต่อรองกับโดโนแวน เพื่อให้บิดายอมให้ตนหย่าขาดกับม่านไหม จากนั้นก็จะให้อมีเรียก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งภรรยาแทนที่ม่านไหม เขาไม่มีวันยอมให้หล่อนจากเขาไปเป็นครั้งที่สอง อมีเรียต้องอยู่เคียงข้างเขาในฐานะภรรยาที่รักและรอคอยมาสิบเจ็ดปีเต็ม
已经是最新一章了
加载中