ตอนที่ 6 คำพูดเสียดแทงใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 คำพูดเสียดแทงใจ
ตอนที่ 6 คำพูดเสียดแทงใจ ในขณะเดียวกันที่ไร่เรือนตะวันซึ่งอยู่ใน จ.เชียงใหม่ก็มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งออกมานั่งดูดาวกันอย่างมีความสุข โดยที่อัศนีเจ้าของไร่เรือนตะวันโอบประคองร่างบางของหญิงคนรักเอาไว้แนบอกด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข “นุชมีความสุขจังเลยค่ะอัศ นุชไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นถึงพ่อเลี้ยงแห่งไร่เรือนตะวันแห่งนี้” ณีรนุชเอียงหน้ามามองใบหน้าของชายคนรักพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน “ผมก็มีความสุข แต่ผมไม่ได้คิดจะปิดบังนุชนะเพียงแต่อยากให้นุชรู้ด้วยตัวเอง แล้วผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่านุชจะหนีการแต่งงานมากับผม” “พูดแบบนี้หมายความว่านุชใจง่ายยังงั้นเหรอ” หญิงสาวทำหน้างอง้ำและเตรียมผละออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม แต่อีกฝ่ายก็กระชับอ้อมแขนเอาไว้แล้วรีบพูดปรับความเข้าใจทันที “เปล่านะครับ ผมดีใจต่างหากที่นุชรักผมจนยอมเสียชื่อเสียง แต่ผมรับรองว่าผมจะไม่ให้เป็นแบบนี้แน่ เอาไว้ผมเคลียร์งานที่ไร่เรียบร้อยแล้วผมจะไปพบคุณพ่อกับคุณแม่ของนุชเพื่อสู่ขอนุชอย่างด่วนที่สุด และผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องนุชมากไปกว่าการกอดและจูบ” น้ำเสียงที่หนักแน่นของพ่อเลี้ยงอัศนีทำให้ความรู้สึกในใจของณีรนุชเต็มตื้อไปด้วยความสุข เธอดูคนไม่ผิดจริงๆ แต่เมื่อนึกไปถึงพี่สาวต่างสายเลือดก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ที่ทำให้พี่สาวต้องเดือดร้อน เมื่ออาทิตย์ก่อนเธออ่านหนังสือพิมพ์แล้วเขาก็ลงข่าวงานแต่งของนักธุรกิจหนุ่มกับลูกสาวนักค่าที่ดินซึ่งแน่นอนว่าเจ้าสาวก็คือพี่สาวของเธอ ตั้งแต่วันนั้นมาณีรนุชก็รู้สึกผิดเรื่อยมา “เฮ้อ...นุชสงสารพี่ดาจังเลยค่ะที่ต้องเดือดร้อนเพราะนุช” สีหน้าของหญิงสาวสลดวูบลงเมื่อพูดถึงพี่สาว “อย่าคิดมากเลยนุช บางทีพรหมลิขิตอาจขีดเส้นชีวิตพวกเรามาแบบนี้ และไม่แน่นะว่าพี่สาวของนุชก็คงจะมีความสุขเช่นเดียวกับนุช” อัศนีพูดปลอบใจและให้กำลังใจหญิงอันเป็นที่รัก แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าอย่างไม่เห็นตามที่ชายหนุ่มพูด “นุชอ่านเจอข่าวซุบซิบเกี่ยวกับคุณนนทกานต์และคู่ควงที่ไม่ซ้ำหน้าของเขาบ่อยๆและรายล่าสุดก็เป็นสาวสังคมชื่อพิมพ์นารา แล้วแบบนี้มีหรือที่พี่ดาจะมีความสุข อัศค่ะนุชอยากโทรหาพี่ดาจังเลยค่ะ” ณีรนุชหันมามองชายคนรักอีกครั้ง “เอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยโทรเถอะ ป่านนี้พี่สาวคุณคงหลับไปแล้วล่ะ” เขาบอกพร้อมกับยิ้มและกระชับอ้อมแขนแนบแน่น “ค่ะ” หญิงสาวยิ้มแล้วอิงซบลงกับอกกว้างของชายหนุ่มอย่างมีความสุข เธอไม่ต้องการอะไรมากนอกจากของใช้ชีวิตกับคนที่เธอรักก็พอและไม่ว่าเขาจะจนหรือรวยมันก็ไม่ทำให้ความรักของเธอที่มีต่อเขาจืดจางลงไปได้ เช่นเดียวกับอัศนีที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ...คนนี้ ร่างบางเปล่าเปลือยที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มขยับลืมตาตื่นขึ้นในเช้าของวันใหม่ ก่อนจะพลิกหันมามองคนที่นอนข้างๆ ซึ่งตอนนี้ไม่มีแม้แต่เงาของเขา เธอจึงคิดว่าเขาคงไปทำงานแล้ว และนั้นก็ทำให้ปณิดารีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะกลับบ้านซึ่งบ้านในที่นี่ก็คือคฤหาสน์หลังงามของนนทกานต์นั่นเอง แต่พอเธอจะก้าวออกจากห้องนอนร่างสูงก็เปิดประตูเข้ามาแล้วยืนขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มๆ “ผมบอกแล้วไงว่าคุณยังไปไหนไม่ได้” “ฉันจะกลับบ้าน” เธอตอบเขาเสียงเข้มและห้วน และสังเกตว่าเขายังอยู่ในชุดลำลองซึ่งมันน่าจะเป็นชุดทำงานมากกว่า และดูเหมือนนนทกานต์จะอ่านความคิดของภรรยาคนสวยได้ทะลุปุโปร่ง เขาจึงไขข้อข้องใจนั้นพร้อมกับเดินเข้าไปหา “วันนี้ผมหยุด คุณอยากไปไหนหรือเปล่าผมจะพาไป” ปณิดาเลิกคิ้วสูงเหมือนกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะจ้องมองหน้าสามีที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าอย่างแปลกใจ “ฉันไม่อยากไปไหนทั้งนั้น” “ก็ดี งั้นวันนี้เราก็อยู่มันในห้องนี้ทั้งวันทั้งคืนเลยแล้วกัน ผมชอบ” ชายหนุ่มส่งสายตากรุ่มกริ่มมาให้พร้อมกับยกมือขึ้นลูบที่ต้นแขนของหญิงสาวจนอีกฝ่ายขนลุกเกลียวแล้วถอยห่างออกมาทันที ทำให้นนทกานต์หัวเราะในลำคออย่างขำๆ “ฮึ ฮึ น่าจะชินกับสัมผัสพวกนี้ได้แล้วนะ หรือว่าแกล้งดัดจริตไปอย่างนั้นเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจ” “คุณนนท์!” ปณิดาตวาดแหวเมื่อได้ยินคำพูดต่อว่าอย่างหยาบคายจากเขา เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะปากร้ายยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก “ผมรู้จักชื่อตัวเองดีไม่ต้องเรียกบ่อยนักหรอก” ชายหนุ่มยังคงลอยหน้าลอยตาพูดอย่างสนุกปากและสะใจเมื่อเห็นแววตาโกรธแค้นจากอีกฝ่าย และพอหญิงสาวจะอ้าปากเถียงเขาเรียวปากนุ่มก็ทาบลงมาปิดเรียวปากบางชุ่มชื้นนั้นพร้อมกับควานหาความหอมหวานจากหยดน้ำค้างที่ยังค้างอยู่บนดอกไม้แสนสวย แล้วการจู่โจมอย่างที่ไม่ทันให้ปณิดาได้ตั้งตัวก็ทำให้เธอต้องยึดร่างสูงเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น มันเป็นจูบรับอรุณที่ดูจะอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผ่านมาและทำให้หญิงสาวลืมตัวโต้ตอบกลับอีกฝ่าย นนทกานต์กระหยิ่มใจอย่างผู้ชนะก่อนจะจำใจถอนริมฝีปากออกมาแล้วดันร่างบางออกห่างพร้อมกับยิ้มที่มุมปากอย่างเยาะเย้ย “พอแค่นี้ก่อนผมหิวข้าวแล้ว” “คุณมัน...” ปณิดาใบหน้าแดงระเรื่อทั้งรู้สึกอายและโมโหปนกันแต่พออ้าปากจะต่อว่าเขา ชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นมาปิดปากเธอเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าไปมาช้าๆ “ถ้าไม่อยากโดนมากกว่าเมื่อกี้ก็เงียบแล้วลงไปทานข้าวกับผม” คำขู่ของนนทกานต์ทำให้ปณิดาต้องหุบปากเงียบ และสายตาที่มองไปยังสามีหนุ่มนั้นแทบจะฉีกร่างหนานั้นออกเป็นชิ้นๆแต่อีกฝ่ายก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเดินโอบเอวภรรยาสาวลงไปที่ห้องอาหารชั้นล่าง และอาหารเช้ามื้อนั้นก็เป็นอาหารเช้าที่นนทกานต์รู้สึกว่ามันอร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมา และเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จเขาก็พาภรรยาสาวออกไปซื้อของใช้ด้วยกัน แต่ของส่วนมากจะเป็นพวกเสื้อผ้าทั้งของเขาและของเธอเสียมากกว่า แม้ว่าปณิดาจะปฏิเสธแต่เขาก็บังคับซื้อให้เธอจนได้แถมยังบังคับให้เลือกเสื้อผ้าให้เขาอีกต่างหาก และในขณะที่ทั้งสองกำลังเลือกซื้อเนคไทอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น เขาจึงหยิบขึ้นมาแล้วกดรับสายก่อนจะกรอกเสียงตามไป
已经是最新一章了
加载中