ตอนที่ 9/2
ปณิดาตื่นตั้งแต่เช้ามืดแล้ว แต่เธอไม่อยากจะลุกขึ้นมารับรู้เรื่องใดๆจึงนอนลืมตาโพลงอยู่บนที่นอน
แล้วเหม่อมองเพดานห้องราวกับมันเป็นสิ่งที่น่ามอง ก่อนจะหลับตาลงให้น้ำตาไหลออกมาจากหางตาและหันมามองที่นอนข้างๆพลางคิดอย่างเจ็บปวด เมื่อคืนเขาไม่ได้เข้ามานอนที่ห้อง คงจะอยู่ที่ห้องภรรยาที่เขารักกับลูกที่กำลังจะเกิดมา ยิ่งคิดว่าทั้งคู่กำลังคลอเคลียกันอยู่นั้นก็ยิ่งเจ็บแปล๊บจนแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดเสียให้ได้ เธอไม่ควรเลย ไม่ควรจะหลงรักเขามากขนาดนี้เลย รู้ทั้งรู้ว่าเขาเกลียดเธอก็ยังจะดื้อรั้นไปรักเขา หญิงสาวต่อว่าตัวเองก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวก็ดังขึ้น เธอจึงรีบเช็ดน้ำตาแล้วกลั้นสะอื้นก่อนจะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและกดรับสายเมื่อเห็นชื่อสันต์ภพเพื่อนหนุ่มของเธอ
“ว่าไงจ้ะ วันนี้ว่างเหรอถึงโทรมาหาเพื่อนได้” ปณิดาบังคับเสียงไม่ให้สั่นและพูดหยอกล้อออกไป
“ไม่ว่างก็ต้องว่าง ดาลืมแล้วเหรอว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของยัยนีกับเจ้าพัฒนามัน” สันต์ภพเอ่ยเตือนสติเพื่อนสาว
“จริงสิ เราลืมไปเลย แล้วตอนนี้ภพอยู่ที่ไหน?” ปณิดาบอกอย่างตกใจเพราะมัวแต่คิดเรื่องตนเองจนลืมเรื่องแต่งงานของเพื่อนไปเสียสนิทดีที่เพื่อนหนุ่มโทรมาเตือน
“ตอนนี้เรากำลังจะออกจากบ้านแล้วก็ว่าจะไปรับดาด้วย รีบแต่งตัวเลยนะอีก 20 นาทีเราจะไปถึง”
“โอ.เค จ้ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ” หญิงสาวกดวางสายแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียงและเดินลงไปชั้นล่างเพื่อจะบอกให้สามีได้รับรู้ แต่ก็ไม่เจอใครสักคนเธอจึงหันไปถามสาวใช้ที่กำลังเดินผ่านมา
“คุณนนท์อยู่ไหนจ้ะ?”
“เอ่อ...คุณนนท์ออกไปกับคุณพิมพ์ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ คุณดามีอะไรหรือคะ แล้วจะให้หนูตั้งโต๊ะเลยหรือเปล่าคะ” สาวใช้รายงานพร้อมกับย้อนถามนายสาว
ปณิดานิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆแล้วเดินกลับขึ้นห้องอีกครั้ง...ใช้อย่างที่เธอคิดจริงๆเมื่อคืนเขานอนที่ห้องของพิมพ์นารา...น้ำอุ่นใสๆไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยอีกครั้งก่อนที่หญิงสาวจะหลับตาไหลมันลงมาให้หมด แล้วจึงลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป
นนทกานต์นั่งทำงานอย่างไม่เป็นสุข ทั้งหงุดหงิดและงุ่นง่านในหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะเมื่อเช้าหลังจากที่เขาพาพิมพ์นาราไปฝากครรภ์ที่คลินิกของเพื่อนแล้ว ก็ย้อนกลับเข้าบ้านไปอีกครั้งและสาวใช้ก็รายงานว่านายหญิงของบ้านออกไปกับชายหนุ่มคนอื่นโดยไม่ได้สั่งอะไรไว้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้งเพื่อจะโทรหาหญิงสาวแต่แล้วก็วางลงที่เดิม เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ แต่ตอนนี้อกของเขาแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้วด้วยความร้อนรุ่มภายใน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะโทรกลับไปที่บ้านแทนที่จะโทรหาภรรยาสาวให้เสียฟอร์ม และครู่ต่อมาก็มีเสียงของสาวใช้ในบ้านดังขึ้น
“บ้านกุลพัฒน์ค่ะจะเรียนสายกับใครคะ?”
“ฉันเองนะจา คุณดากลับมาหรือยัง?” ชายหนุ่มถามออกไปอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...ยังเลยค่ะ คุณนนท์มีอะไรหรือเปล่าค่ะเผื่อคุณดากลับมาดิฉันจะได้รายงานให้” สาวใช้ถามอย่างรู้หน้าที่
“ไม่มีอะไร แล้วไม่ต้องบอกนะว่าฉันโทรมาถาม” พูดจบเขาก็กดตัดสาย ทำให้คนปลายสายต้องยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาขมวดคิ้วดูด้วยความงุนงงแล้วก็วางมันลงที่เดิมพร้อมกับบ่นเบาๆ
“อะไรของคุณนนท์เนี่ย วุ้ย!คนรวยเนี่ยเข้าใจยากจริงๆ” สาวใช้วัยสาวเกาศีรษะยิกก่อนจะเดินกลับไปทำงานในหน้าที่ของตนเองต่อ
คำตอบของสาวใช้ทำให้หัวใจของนนทกานต์เดือดปุดๆด้วยความโกรธและโมโห เธอเห็นเขาเป็นอะไร เป็นหัวหลักหัวตอหรือไงถึงได้ออกไปไหนกับผู้ชายอื่นแถมยังไม่บอกเขาให้รับรู้อีก ดวงตาคมหรี่ลงพร้อมกับกำปั้นหนักๆทุบลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนเลขาสาวที่เดินเอาแฟ้มเอกสารมาให้ถึงกับสะดุ้งเฮือกและหยุดยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้อง จนเขาต้องส่งสายตาดุๆไปให้พร้อมกับบอกเสียงเข้ม
“จะเอางานมาให้ผมหรือว่าจะยืนอยู่ตรงนั้น”
“อะ..เอางานมาให้ค่ะ” เลขาสาวบอกเสียงอึกอักก่อนจะเดินเอาแฟ้มมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเจ้านายหนุ่มแล้วก็รีบเดินออกๆไปโดยไม่ต้องรกให้อีกฝ่ายบอก
นนทกานต์มองตามหลังเลขาส่วนตัวไปพร้อมกับขบกรามเข้าหากันด้วยความโมโหและเน้นเสียงลอดไรฟันอย่างเย็นชาชนิดที่เรียกได้ว่าใครได้ยินแล้วต้องเสียวสันหลังกันเลย
“คุณคิดจะลองดีกับผมงั้นเหรอปณิดา คุณได้เจอดีแน่” เสียงกล่าวอาฆาตนั้นน่ากลัวจนขนลุกและ
กอรปกับกรามทั้งสองข้างที่นูนขึ้นและมือที่กำเกร็งแน่นทำให้ร่างสูงดุดันน่ากลัวราวกับพญามัจจุราชก็ไม่ปาน