บทที่ 1 ฝากด้วย (3)   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1 ฝากด้วย (3)
ปกติเพื่อนพ่อคนนี้จัดว่าดูดีที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งหมดที่เธอเคยพบมา เขาดูอ่อนกว่าพ่อของเธอ แม้จะจัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดี แต่ก็ไม่ถึงกับหล่อชนิดที่สาว ๆ ต้องเหลียวหลังกลับมามอง แต่เขาเป็นประเภทที่ยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ ยิ่งดึงดูด โดยเฉพาะเวลาที่เขายิ้ม จะปรากฏรอยบุ๋มข้างแก้ม เธอสังเกตเขาขนาดนี้เชียวเหรอ... แล้วเจ้าเอ๋ยก็หายใจสะดุด หัวใจกระตุกวูบเมื่อคนที่เธอมองอยู่นั้นหันมามองเธอพอดี ตาสบตาในชั่วขณะก็เหมือนโลกหยุดหมุน เป็นเธอที่หลบสายตาเขาก่อน เรื่องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เธอถนัดนัก ก็ว่าจะเดินหนีแต่อยู่ ๆ เขาก็เดินมาหาเธอในบ้าน “หิวหรือยัง” “มีอะไรให้กินบ้าง” “มีอาหารตามสั่ง ตามมาสิ” เจ้าเอ๋ยตามคนตัวสูงไป แค่เดินผ่านประตูรั้วข้ามถนนก็มาถึงร้านอาหารตามสั่งที่ว่า คนที่พาเธอมาทักทายแม่ค้า จากนั้นเขาก็พาเธอเข้ามานั่งในร้าน “กินอะไรดี” ไม่เพียงถามเขายังส่งเมนูอาหารมาด้วย เจ้าเอ๋ยรับมา แต่ก็ไม่เปิดอ่านแต่อย่างใดนอกจากบอกเขาไปว่า “เอาข้าวผัด” “ข้าวผัดสองจาน ใส่ไข่ดาวหนึ่งฟอง” สั่งเสร็จคชาก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน ส่วนเจ้าเอ๋ยนั่งเล่นมือถือไปพลาง ๆ แล้วอยู่ ๆ คนที่เอาแต่สนใจข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็เงยหน้าขึ้น “เห็นพ่อของนายคุยให้ฟังว่านายทำอาหารเก่ง” หญิงสาวไหวไหล่ด้วยท่าทางกวน ๆ “พ่อก็โม้ไปงั้น ไม่เก่งหรอก แค่พ่อใช้ทำให้กินบ่อย ๆ” คชาเลิกคิ้ว ฟังจากน้ำเสียงของหลานชาย รู้สึกว่าเสียงห้วนห้าวนี้คล้ายกับน้ำเสียงของผู้หญิงนัก แต่มันก็ขัดกับสิ่งที่เห็น เขามองหน้าของอีกฝ่ายอย่างพิจารณาแล้วมีความคิดว่า หากคนตัวเล็กที่นั่งตรงหน้าเป็นผู้หญิง คงจะดูดีกว่านี้ ก็เจ้าหมอนี่ดูบอบบางไม่ค่อยสมชายชาตรีเอาเสียเลย ดูเถอะ แม้จะตัวเล็ก ผอมบาง หน้าตาดูเจี๋ยมเจี้ยม ไม่ดื้อ แต่ก็ยังมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นจนตาเขียว หัวแตก ซ้ำยังก่อวีรกรรมไม่ซ้ำแบบ ก็คงจะซ่าอยู่ไม่น้อย จะว่าไปตัวแค่นี้ไม่ถูกกระทืบตายในกลุ่มนักเลงก็นับว่าดวงแข็งเท่าไหร่แล้ว รอดมาได้สภาพยับเยินยังกะถูกรถสิบล้อสอยเอาไปกิน “พ่อนายบอกฉันว่าจะโอนเงินให้นายไว้ใช้เดือนละสามพัน แต่จะโอนเข้าบัญชีฉัน” คนฟังแคะจมูกเล่น ก็ดีที่พ่อยังส่งเงินมาให้ “เบิกล่วงหน้าได้เลยมั้ย เอ๋ยอยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่” “ไม่ได้ นายต้องอยู่กับฉันจนกว่าพ่อของนายจะบินกลับมาไทย” หญิงสาวดีดขี้มูกทิ้งแล้วย่นจมูกใส่คนที่ตอบเสียงแข็งว่า ‘ไม่ได้’ มันน่าอึดอัดจะตาย อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรให้เธอทำ เพื่อนก็ไม่มีสักคน ซ้ำยังต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับใครก็ไม่รู้ “เอ๋ยไม่อยากอยู่กับลุง” “เรียกลุงเลยเหรอ” เจ้าเอ๋ยมองหน้าอีกฝ่ายอย่างประเมิน จะว่าไปเขาดูอ่อนกว่าพ่อเธอด้วยซ้ำ หากพ่อไม่บอกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เธอคงทายอายุของเขาไม่ถูก “หรือจะให้เรียกพี่” ถามยิ้ม ๆ เจ้าเอ๋ยก็ตั้งเข่าข้างหนึ่งแล้วเกยคาง สายตายังจับจ้องเขาอย่างท้าทาย “ฉันเป็นลูกคนเล็ก ไม่มีน้อง” หญิงสาวหัวเราะกับท่าทางจริงจังของอีกฝ่าย “งั้นเรียกเฮียชาตามเด็กในอู่ก็แล้วกัน” “ไม่ชอบให้เรียกเฮีย” “เปลี่ยนเป็นคุณชาก็ได้” คชาไม่ตอบนอกจากลุกขึ้นไปที่ตู้เย็น หยิบเอาน้ำเปล่าสองขวดพร้อมกับหลอดมาส่งให้เด็กหนุ่ม “คิดไว้หรือยังว่าอยู่ที่นี่จะทำอะไรกิน” “ไม่ได้คิด” เจ้าเอ๋ยตอบชนิดไม่ต้องเสียเวลาคิด หยิบน้ำมาเปิดขวดแล้วยกดื่มอึก ๆ โดยไม่ใช้หลอด ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ กับคำตอบ แล้วบอกตัวเองว่า ‘จะเอาอะไรกับเจ้าเด็กเกรียนนี่’ “ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ตำแหน่งเด็กล้างรถยังมี” หญิงสาวทำไม่รู้ไม่ชี้แกล้งไม่ได้ยิน ซึ่งกิริยาของเจ้าเอ๋ยสร้างความขัดหูขัดตาให้คชามากนัก เป็นน้องเป็นนุ่งเขาคงหวดให้หลังลายเด็กอะไรไร้มารยาท เหมือนพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาเลี้ยงลูกยังไงถึงได้กระด้างกระเดื่องนัก แต่ไม่เป็นไร เขาจะ ‘ดัด’ เสียใหม่ แม้ไม้แก่จะดัดยาก แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แล้วอาหารที่สั่งก็ยกมา “น้องชายเหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย” แม่ค้าชวนคุยอย่างให้ความสนใจ “ลูกชายของเพื่อน ฝากให้ช่วยเลี้ยงน่ะ”
已经是最新一章了
加载中