บทที่7จูนเชียนเชียนกลายเป็นคนใบ้   1/    
已经是第一章了
บทที่7จูนเชียนเชียนกลายเป็นคนใบ้
บ๗ที่7จูนเชียนเชียนกลายเป็นคนใบ้ “บัดซบ”จูนเหลยเทียนฟาดโต๊ะอย่างสุดโกรธ“จูนจิ่วนั้นแอบปกปิดตัวเองเมื่อก่อนพวกเราโดนนางหลอกนางไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว” “นายท่านตอนนี้จะทำยังไงกันดี?”พ่อบ้านกระสับกระส่ายอยู่ด้านข้าง“คำสั่งของจู๋หมู่พวกเราจะไม่ทำตามไม่ได้หากบ้านหลักรู้เรื่องน่ากลัวว่าจะลงโทษพวกเรา” “จะให้ทำยังไง?นักจิตชั้นหนึ่งสองคนล้วนโดนฆ่าตายแล้วหรือต้องให้ข้าเสี่ยงชีวิตไปจัดการด้วยตัวเองหรือ?” “นายท่านใจเย็นๆพวกเรายังมีคุณหนูหวั่นไม่ใช่หรือ?คุณหนูหวั่นเป็นถึงนักจิตชั้นสองฆ่าจูนจิ่วนั้นง่ายเหมือนเด็ดผัดฆ่าปลาเท่านั้น”พ่อบ้านพูดขึ้น เมื่อได้ฟังดังนั้นแววตาจูนเหลยเทียนเป็นประกาย“ดีรีบเขียนจดหมายให้นกพิราบส่งข่างไปให้หวั่นเอ๋อร์ให้นางรีบกลับมาไม่ต้องไปจุดธูปอะไรให้แม่ของนางแล้วฆ่าจูนจิ่วก่อน” “รับทราบครับ” เมื่อสั่งเสร็จจูนเหลยเทียนค่อยไปดูจูนเชียนเชียน เขาหาหมอที่ดีที่สุดในเมืองเฟิงหลัวมาช่วยต่อคางให้จูนเชียนเชียนแววตาจูนเชียนเชียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวดจ้องมองจูนเหลยเทียนอย่างทันที “เชียนเชียนใจเย็นๆปากของเจ้าเพิ่งต่อเสร็จยังพูดไม่ได้รอผ่านไปหลายวันก็ดีขึ้นเจ้าวางใจเถอะพ่อจะฆ่าจูนจิ่วเพื่อแก้แค้นให้เจ้า” ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าต่อไปจูนเชียนเชียนจะไม่สามารถพูดได้อีกจูนเชียนเชียนจับชายเสื้อจูนเหลยเทียนไว้อย่างแน่นนางเจ็บเจ็บเหมือนตายทั้งเป็นเหมือนร่างกายโดนไฟแผดเผา เห็นจูนเชียนเชียนเจ็บปวดขนาดนี้จูนเหลยเทียนพูดขึ้นว่า“หมอทำไหมลูกสาวข้าทรมานแบบนี้ยังมีตรงไหนที่เจ้ายังไม่ได้รักษาหรือเปล่า” “เรียนนายท่านจูนระบบภายในคุณหนูรองได้รับบาดเจ็บข้าจะเขียนสูตรยาแก้ปวดให้พักผ่อนเดียวก็หาย” ไม่ไม่ใช่อันนี้ แม้แต่หมอที่ดีที่สุดในเมืองเฟิงหลัวยังตรวจไปพบจูนเชียนเชียนจำต้องทนทุกข์เองคนเดียวไม่มีใครที่สามารถพูดได้ อนาคตของนางเต็มล้นไปด้วยความสิ้นหวัง …….. อีกด้าน จูนจิ่วเข้าพักในเรือนตงหูวิวทิวทัศน์งดงามตกแต่งประณีตมีระดับบ่งบอกถึงความหรูหราที่นี่จูนเหลยเทียนเอาไว้ใช้ต้อนรับรับรองพวกแขกจากบ้านหลักตอนนี้ต้องยกให้จูนจิ่วพักอาศัยอย่างไม่พอใจโกรธจนต้องกระทืบเท้า รู้ว่าจูนเหลยเทียนไม่มีความสุขจูนจิ่วโคตรมีความสุข แต่จูนจิ่วขมวดคิ้วจ้องมองโม่อู๋เยว่“เจ้าจะอยู่ที่นี่?” “เรือนตงหูมีห้องตั้งมากมายไม่ได้หรือ?”โม่อู๋เยว่พิงอยู่ที่ขอบประตูแสงแดดสาดส่องผมสีทองของเขาระยิบระยับงดงามดั่งแสงจันทร์ ดวงตาสีทองมองดูนางดั่งจะดูดกลืนกินจูนจิ่วอย่างไม่สามารถคัดค้าน เหมือนดั่งตอนนี้ที่โม่อู๋เยว่ตามติดนางเหมือนพลาสเตอร์หนังสุนัขสู้ก็ไม่ไหวสลัดทิ้งก็ไม่ได้จูนจิ่วจำต้องยอม นางหายใจเข้าลึกๆมองไปยังโม่อู๋เยว่แล้วพูดขึ้นว่า“ตอนนี้ข้าอยากพักผ่อนเจ้าไปได้แล้วมั้ง?” “ได้”ครั้งนี้โม่อู๋เยว่ขากไปอย่างว่าง่าย จูนจิ่วปิดประตูหงายหน้าล้มนอนบนเตียงดูแล้วเหมือนอารมณ์ไม่ดี กำไลมือค่อยๆปลอบใจเจ้านายตัวเองอย่างระมัดระวัง“เจ้านายเจ้าดูเขาหล่อเหลาขนาดนั้นเก็บไว้ดูแทนวิวทิวทัศน์ก็ไม่เลวนะ” “เป็นเจ้าที่อยากดูมากกว่าไหม?” “เปล่าในสายตาเสี่ยวอู่เจ้านายเป็นคนที่น่ามองที่สุดในโลก”กำไลข้อมือมีชื่อเรียกหนึ่งชื่อว่าเสี่ยวอู่จูนจิ่วเป็นคนตั้งให้ นี่เป็นตอนที่นางยังเด็กได้ไปเที่ยวเล่นที่ตลาดขายของเก่าเถาเป่าแล้วซื้อกลับมานึกไม่ถึงว่าเปิดกำไลข้อมือออกรับมายังแถมพื้นที่ว่างมาด้วยจูนจิ่วรู้สึกมาตลอดว่าหากกำไลของนางมีรูปลักษณ์อย่างอื่นจะต้องเป็นอะไรที่น่ารักชอบเรียกร้องความสนใจอะไรแบบนั้น นางยังไม่รู้ว่าไม่ช้านางก็จะได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของกำไลข้อมือของนางแล้ว จูนจิ่วพูดขึ้นว่า“ข้าไม่ได้เครียดเรื่องเขาแต่ข้าอยากถามเจ้ามาตลอดตอนอยู่ที่ใต้หน้าผาข้าไม่มีเวลาถามเสี่ยวอู่ข้าข้ามภพมาเกี่ยวข้องกับเจ้าใช่ไหม?” “อืม”เสี่ยวอู่ตอบอย่างหวาดผวา จูนจิ่วกระพริบตายกมือจ้องมองกำไลข้อมือ“เพราะอะไร?” 
已经是最新一章了
加载中