หัวเราะทีหลังดังกว่า!!

收藏 1
开始阅读

   ...“ไปเถิดซู่ซู่ ข้าไม่เป็นไร” คนผู้นั้นกล่าวพลางหันหลังให้ ซู่ซู่จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปนอกจากเดินกลับตำหนักของตนทว่านางก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองแผ่นหลังขององค์ชายสี่ที่ดูเศร้าซึมจนนางรู้สึกได้หากในยามปกติคนหน้ามึนผู้นั้นเป็นพระอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้า ตอนนี้เขากลับดูเหมือนเมฆอึมครึมในวันที่ฝนตกแต่ไม่ว่าอย่างไรข้าไม่ชอบที่จะต้องเห็นเขาเป็นเช่นนี้เลย...เช่นนั้นต่อไปนี้ข้าจะอยู่เคียงข้างเขาเอง!เมื่อคิดดังนั้น ดรุณีน้อยตัวเล็กๆ คนหนึ่งจึงตั้งปณิธานขึ้นมาในใจ...“หากท่านพี่เป็นดาบ ข้าจะเป็นธนูคอยอยู่เคียงคู่สนับสนุนท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่...”ทว่านี่คือโลกแห่งความเป็นจริงมิใช่เทพนิยายปรัมปราและมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...………………………………………………………."หม่อมฉันก็แค่ทำในสิ่งที่สมควร ผิดอะไรหรือเพคะ!?" ร่างบางที่ข้อเท้าทั้งสองข้างถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนสีดำเอ่ย หลังจากที่เพิ่งฟื้นจากยาสลบแล้วถูกนำตัวมาพบกับคนที่ลักพาตัวนางออกมาจากวังหลวง"สิ่งที่สมควรงั้นหรือ!?" บุรุษตรงหน้าเอ่ยพลางจ้องเขม็งไปที่ใบหน้างามของอีกฝ่ายที่ยังคงเชิดขึ้นอย่างอวดดี"เพคะ…นางสมควรตายแล้ว" ก่อนหน้านั้นนางได้ทำสิ่งใดลงไปงั้นหรือ! ก็ลงมือสังหารสตรีผู้หนึ่งที่เป็นไส้ศึกของแคว้นปลอมตัวมาอย่างไรเล่า! เพราะบุรุษโง่เขลาตรงหน้าหลงรักอีกฝ่ายหัวปักหัวปำจนไม่ยอมทำเอง นางถึงต้องเป็นคนทำเพื่อแคว้น!นี่สินะ...ที่เรียกว่าเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กลับต้องเอากระดูกมาแขวนคอ...เพียะ! ฝ่ามือหนาตวัดลงไปยังแก้มขาวเนียนของนาง จนปรากฏเป็นรอยจางๆ ห้านิ้ว"คนที่สมควรตายที่สุดก็คือเจ้า!! ไม่ใช่นาง!!"“หรือทรงยอมรับความจริงไม่ได้เพคะ...ความจริงที่ว่าองค์หญิงแคว้นหลางผู้นั้นเป็นไส้ศึกที่เข้ามาเพื่อล้วงความลับแคว้นฉินและหาโอกาสลอบปลงพระชนม์เสด็จพี่ ท่านอ๋องเพคะ...แม้ปากของพระองค์จะเอ่ยเช่นนี้ แต่ในพระทัยกำลังนึกขอบคุณหม่อมฉันต่างหากที่ช่วยกำจัดสตรีผู้นั้นออกไป เพราะพระองค์ใจไม่แข็งพอที่จะทำมันด้วยตัวเอง สิ่งที่หม่อมฉันควรจะได้รับคือการสรรเสริญที่ทำทุกอย่างเพื่อแคว้นฉินของเรา เพื่อฝ่าบาท มิใช่การปฏิบัติเช่นนี้!! และพระองค์ก็ใช้มันเป็นข้ออ้างในการลักพาตัวหม่อมฉันมา”"เห็นทีเจ้าจะหลงตัวเองมากเกินไปแล้วกระมัง""ทรงยอมรับเถอะเพคะ ว่าพระองค์ยังรักหม่อมฉันอยู่ แต่เสียใจด้วยที่ในใจของหม่อมฉันมีเพียงฝ่าบาทคนเดียว แม้ฝ่าบาทจะรับหม่อมฉันเป้นพระสนมไม่ได้ก็ตาม" เมื่อเห็นสายตาโกรธแค้นที่มองมายังตนเอง นางก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดต่อ"พระองค์บอกหม่อมฉันสมควรตาย…เช่นนั้นก็ฆ่าหม่อมฉันเลยเพคะ หากทำมิได้ก็ยอมรับเถิด...""หึ…" มุมปากของผู้ที่ถูกท้าทายกระตุกขึ้นเบาๆ"ผิดแล้วล่ะ ที่ข้าเอาตัวเจ้ามาเพราะข้าจะให้เจ้าได้รู้...ว่าสิ่งที่ทรมานกว่าความตายเป็นเช่นไร""น่าสนใจนะเพคะ หม่อมฉันก็อยากรู้เหมือนกัน" กล่าวจบ นางก็ส่งยิ้มหวานหยดย้อยที่แสดงออกถึงการกวนประสาทให้อีกฝ่าย ร่างสูงจึงเลิกต่อปากต่อคำ แล้วหันไปสั่งคนของตนด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจว่า"ทหาร!! มาเอาตัวนักโทษผู้นี้ไปก่อกำแพงอิฐฝั่งตะวันตก!!!""กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องตัวข้า? ข้าเป็นท่านหญิงนะลืมไปแล้วหรือ?" ร่างบางพูดพลางพยายามสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากฝ่ามือสากๆ ของทหารสองนายที่จับลงมาบนข้อมือขาวเนียนของนาง"ท่านหญิงตัวจริงตอนนี้อยู่ในวัง…ส่วนเจ้าเป็นเพียงนักโทษ..." ร่างสูงพูดพลางยิ้มเยาะ เมื่อนึกถึงคนที่เขาจัดหาให้ไปทำหน้าที่แทนสตรีที่เขาจับตัวมา"เอาตัวไป!!""อีกไม่นาน…ฝ่าบาทจะต้องรู้เรื่องนี้!! และพระองค์จะต้องส่งคนมาช่วยข้าแน่!! ปล่อยข้านะ!!" ร่างบางตะโกนทิ้งท้ายขณะที่ถูกลากตัวออกไปไม่ต้องห่วงนี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น...ยังมีบทลงโทษอื่นอีกมากมายที่ข้าได้เตรียมไว้ให้เจ้าโดยเฉพาะข้าอยากจะเห็นเหลือเกิน ว่ายามที่ท่านหญิงซู่ซู่ผู้ร่านรักและหยิ่งผยองแห่งวังหลวง ต้องก้มหัวร้องขอความเมตตากรุณาจากผู้อื่นนั้นเป็นเยี่ยงไร! . . . คิดว่าแผนของพระองค์ล้ำเลิศนักใช่หรือไม่?! ทรงลำพองใจให้เต็มที่เลยเพคะ เพราะอีกไม่นานพระองค์ก็จะได้รู้ว่า... เสียงหัวเราะของพระองค์ในตอนนี้กับพวกหม่อมฉันในอนาคต อย่างไหนมันจะดังกว่ากัน "แน่ใจแล้วงั้นหรือ ถึงกล้าเอ่ยเช่นนี้ออกมา!?" คำถามนี้หม่อมฉันควรจะเป็นฝ่ายถามพระองค์มากกว่านะเพคะ “แล้วพระองค์ล่ะเพคะ แน่ใจแล้วหรือ!?” หม่อมฉันจะทำให้เห็นเองว่าแท้จริงแล้วหมากกระดานนี้เป็นของผู้ใด!

这里折叠

留言

0 条评论

评论正在审核中~